Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน31 มกราคม 2550
เซนชะระเบิดศึกตลาดชาผงปูพรมโชวห่วยจับกลุ่มผู้ใหญ่             
 


   
www resources

โฮมเพจ อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย)

   
search resources

อายิโนะโมะโต๊ะเซลส์ (ประเทศไทย), บจก.
Green Tea
Marketing




เซนชะ ส่งชาเขียวชนิดผงระเบิดตลาดชาชง 400 ล้านบาท ชูความต่างทูอินวันชงร้อน-เย็น นำร่อง 2 รสชาติ ฮันนี่ เลมอน – ดั้งเดิม ซอง 5 บาท วางหมากต่อยอดขยายฐานจากวัยรุ่นสู่กลุ่มผู้ใหญ่ ปูพรมกรุยช่องทางเทรดิชันนัลเทรดก่อน ระบุซุปกึ่งสำเร็จรูปโวโนไปได้สวย สอดรับไลฟ์สไตล์คนไทย ส่วนกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้เล็งควักไม้เด็ด ตอกย้ำบัลลังก์ผู้นำตลาด

แหล่งข่าวจากบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มเซนชะ ผงปรุงรสรสดี กาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ ฯลฯ เปิดเผยกับ ”ผู้จัดการรายวัน” ว่า บริษัทฯได้เปิดตัวชาเขียวเซนชะในรูปแบบผงบรรจุภัณฑ์ชนิดซองลงสู่ตลาดด้วยกัน 2 รสชาติ ได้แก่ ฮันนี่ เลมอน และรสดั้งเดิม ทั้งนี้การเปิดตัวรูปแบบผง เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น จากเดิมชาเขียวพร้อมดื่มในรูปแบบบรรจุขวดเพ็ท เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นเป็นหลัก ส่วนชาเขียวชนิดผง เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยทำงานอายุมากกว่า 20-40 ปีขึ้นไป

ทั้งนี้การที่บริษัทฯเปิดตัวชาเขียวผง เนื่องจากมองว่าตลาดชาเขียวมูลค่า 4,000 ล้านบาท ยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพอยู่ แม้ว่าอัตราการเติบโตจะไม่ก้าวกระโดดเหมือนช่วงที่ผ่านมาก็ตาม และคาดว่าปีนี้ภาวะการอัตราการเติบโตจะลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อีกทั้งในตลาดชนิดผงยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดทำตลาดอย่างจริงจัง ขณะที่ผู้ประกอบการชาเขียวพร้อมดื่มรายใหญ่ก็ไม่มีสินค้าดังกล่าวอยู่ในตลาด ดังนั้นบริษัทฯจึงมองว่าเป็นโอกาสที่บริษัทฯจะเข้ามารุกตลาดนี้อย่างจริงจัง

สำหรับชาเขียวเซนชะรูปแบบซอง ขณะนี้ได้เริ่มกระจายสินค้าผ่านช่องทางเทรดิชันนัลหรือร้านค้าปลีกรายย่อยนำร่องไปแล้ว และภายในไตรมาสแรกจะกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกช่องทาง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับเชนโมเดิร์นเทรดทุกราย อาทิ คาร์ฟูร์,เทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี ทั้งนี้ชาเขียวเซนชะชนิดซองจำหน่ายราคา 5บาท โดยสามารถดื่มได้ทั้งในรูปแบบร้อนวางกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใหญ่ ส่วนรูปแบบเย็นเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น แตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่ในตลาด โดยมากชงดื่มในรูปแบบร้อนอย่างเดียวเท่านั้น

ส่วนด้านชาเขียวพร้อมดื่มเซนชะ หลังจากที่เปิดตัว 2 รสชาติใหม่ ได้แก่ ไลท์ พลัส ไฟเบอร์ โดยมีจุดขายเป็นรสต้นตำรับมีความหวานเท่าเดิมแต่ลดแคลอรีลง 50% และซี 100 พลัส ไนอะซิน รสมะนาวผสมน้ำผึ้ง แต่มีจุดขายมีวิตามินซี 100 มิลลิกรัมและสารไนอะซิน ลงสู่ตลาดในช่วงปลายปีนี้ที่ผ่านมา โดยจำหน่ายเฉพาะร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ดังนั้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯจึงได้วางแผนกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกช่องทาง

ปัจจุบันตลาดชาพร้อมดื่มมีมูลค่า 4,000 ล้านบาท เซนชะมีส่วนแบ่งต่ำกว่า 10% ส่วนผู้นำตลาดเป็น โออิชิ กรีนที ครองส่วนแบ่ง 60% อันดับที่สองคือ ยูนิฟ 20% เพียวริคุ 3% โมชิ 2% ทั้งนี้การเปิดตัวชาเขียวชนิดผง บริษัทไม่ได้คาดว่าหวังว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาด เนื่องจากไม่ได้เป็นตลาดเดียวกัน โดยตลาดชนิดผงมูลค่า 400 ล้านบาท แบ่งเป็น เซ็กเมนต์ เช่น ชาขาว, ชาเขียว, ชาแดง ฯลฯ โดยมีแบรนด์หลัก ได้แก่ เรนองที และใบชาสามม้า เป็นต้น

แหล่งข่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนผลิตภัณฑ์ซุปกึ่งสำเร็จรูปตราโวโนซึ่งเปิดตัวลงสู่ตลาดเมื่อปี 2547 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมีด้วยกัน 6 รสชาติ แต่ตลาดดังกล่าวยังเป็นนิชมาร์เก็ตอยู่ทำให้มูลค่าตลาดยังน้อยอยู่ อย่างไรก็ตามนับว่าซุปกึ่งสำเร็จรูปเป็นตลาดที่มีศักยภาพ เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของคนไทยเปลี่ยนแปลงไป ต้องการในความสะดวกมากขึ้น และมีพฤติกรรมการบริโภครสชาติอินเตอร์ สำหรับคู่แข่งในตลาดรายหลัก ได้แก่ คนอร์ และเบญจา

ส่วนกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ขณะนี้บริษัทฯได้วางแผนเพื่อตอกย้ำตำแหน่งผู้นำตลาดอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันครองส่วนแบ่งมากกว่า 60% จากมูลค่า 7,000-8,000 ล้านบาท หลังจากมีคู่แข่งหน้าใหม่เปิดตัวสินค้าลงสู่ตลาด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us