เซนชะ ส่งชาเขียวชนิดผงระเบิดตลาดชาชง 400 ล้านบาท ชูความต่างทูอินวันชงร้อน-เย็น นำร่อง 2 รสชาติ ฮันนี่ เลมอน – ดั้งเดิม ซอง 5 บาท วางหมากต่อยอดขยายฐานจากวัยรุ่นสู่กลุ่มผู้ใหญ่ ปูพรมกรุยช่องทางเทรดิชันนัลเทรดก่อน ระบุซุปกึ่งสำเร็จรูปโวโนไปได้สวย สอดรับไลฟ์สไตล์คนไทย ส่วนกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้เล็งควักไม้เด็ด ตอกย้ำบัลลังก์ผู้นำตลาด
แหล่งข่าวจากบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มเซนชะ ผงปรุงรสรสดี กาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ ฯลฯ เปิดเผยกับ ”ผู้จัดการรายวัน” ว่า บริษัทฯได้เปิดตัวชาเขียวเซนชะในรูปแบบผงบรรจุภัณฑ์ชนิดซองลงสู่ตลาดด้วยกัน 2 รสชาติ ได้แก่ ฮันนี่ เลมอน และรสดั้งเดิม ทั้งนี้การเปิดตัวรูปแบบผง เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น จากเดิมชาเขียวพร้อมดื่มในรูปแบบบรรจุขวดเพ็ท เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นเป็นหลัก ส่วนชาเขียวชนิดผง เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยทำงานอายุมากกว่า 20-40 ปีขึ้นไป
ทั้งนี้การที่บริษัทฯเปิดตัวชาเขียวผง เนื่องจากมองว่าตลาดชาเขียวมูลค่า 4,000 ล้านบาท ยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพอยู่ แม้ว่าอัตราการเติบโตจะไม่ก้าวกระโดดเหมือนช่วงที่ผ่านมาก็ตาม และคาดว่าปีนี้ภาวะการอัตราการเติบโตจะลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อีกทั้งในตลาดชนิดผงยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดทำตลาดอย่างจริงจัง ขณะที่ผู้ประกอบการชาเขียวพร้อมดื่มรายใหญ่ก็ไม่มีสินค้าดังกล่าวอยู่ในตลาด ดังนั้นบริษัทฯจึงมองว่าเป็นโอกาสที่บริษัทฯจะเข้ามารุกตลาดนี้อย่างจริงจัง
สำหรับชาเขียวเซนชะรูปแบบซอง ขณะนี้ได้เริ่มกระจายสินค้าผ่านช่องทางเทรดิชันนัลหรือร้านค้าปลีกรายย่อยนำร่องไปแล้ว และภายในไตรมาสแรกจะกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกช่องทาง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับเชนโมเดิร์นเทรดทุกราย อาทิ คาร์ฟูร์,เทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี ทั้งนี้ชาเขียวเซนชะชนิดซองจำหน่ายราคา 5บาท โดยสามารถดื่มได้ทั้งในรูปแบบร้อนวางกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใหญ่ ส่วนรูปแบบเย็นเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น แตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่ในตลาด โดยมากชงดื่มในรูปแบบร้อนอย่างเดียวเท่านั้น
ส่วนด้านชาเขียวพร้อมดื่มเซนชะ หลังจากที่เปิดตัว 2 รสชาติใหม่ ได้แก่ ไลท์ พลัส ไฟเบอร์ โดยมีจุดขายเป็นรสต้นตำรับมีความหวานเท่าเดิมแต่ลดแคลอรีลง 50% และซี 100 พลัส ไนอะซิน รสมะนาวผสมน้ำผึ้ง แต่มีจุดขายมีวิตามินซี 100 มิลลิกรัมและสารไนอะซิน ลงสู่ตลาดในช่วงปลายปีนี้ที่ผ่านมา โดยจำหน่ายเฉพาะร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ดังนั้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯจึงได้วางแผนกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกช่องทาง
ปัจจุบันตลาดชาพร้อมดื่มมีมูลค่า 4,000 ล้านบาท เซนชะมีส่วนแบ่งต่ำกว่า 10% ส่วนผู้นำตลาดเป็น โออิชิ กรีนที ครองส่วนแบ่ง 60% อันดับที่สองคือ ยูนิฟ 20% เพียวริคุ 3% โมชิ 2% ทั้งนี้การเปิดตัวชาเขียวชนิดผง บริษัทไม่ได้คาดว่าหวังว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาด เนื่องจากไม่ได้เป็นตลาดเดียวกัน โดยตลาดชนิดผงมูลค่า 400 ล้านบาท แบ่งเป็น เซ็กเมนต์ เช่น ชาขาว, ชาเขียว, ชาแดง ฯลฯ โดยมีแบรนด์หลัก ได้แก่ เรนองที และใบชาสามม้า เป็นต้น
แหล่งข่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนผลิตภัณฑ์ซุปกึ่งสำเร็จรูปตราโวโนซึ่งเปิดตัวลงสู่ตลาดเมื่อปี 2547 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมีด้วยกัน 6 รสชาติ แต่ตลาดดังกล่าวยังเป็นนิชมาร์เก็ตอยู่ทำให้มูลค่าตลาดยังน้อยอยู่ อย่างไรก็ตามนับว่าซุปกึ่งสำเร็จรูปเป็นตลาดที่มีศักยภาพ เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของคนไทยเปลี่ยนแปลงไป ต้องการในความสะดวกมากขึ้น และมีพฤติกรรมการบริโภครสชาติอินเตอร์ สำหรับคู่แข่งในตลาดรายหลัก ได้แก่ คนอร์ และเบญจา
ส่วนกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ขณะนี้บริษัทฯได้วางแผนเพื่อตอกย้ำตำแหน่งผู้นำตลาดอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันครองส่วนแบ่งมากกว่า 60% จากมูลค่า 7,000-8,000 ล้านบาท หลังจากมีคู่แข่งหน้าใหม่เปิดตัวสินค้าลงสู่ตลาด
|