ได้ดูคลิปวีดีโอการเปิดตัว iPhone ผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทแอปเปิลหรือยังครับ
ถ้ายังรีบไปหามาดูกันนะครับ ง่ายๆ ก็เข้าไปที่เว็บไซต์ของแอปเปิลแล้วเปิดไฟล์ Keynote Address ของสตีฟ จ็อบ มาดู ซึ่งเข้าได้ที่ http://events.apple.com. edgesuite.net/j47d52oo/event/
แล้วคุณจะรู้ว่า โลกเรากำลังจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในอนาคต
iPhone เป็นโทรศัพท์มือถือที่แอปเปิลตั้งใจจะใช้เป็นสินค้ายุทธศาสตร์ ในการบุกตลาดโทรศัพท์มือถือของโลก ซึ่งอาจจะกล่าวว่าเป็นการรอคอยการเข้าตลาดที่ยาวนานพอสมควร จนกระทั่งตลาดโทรศัพท์มือถือถือว่าอิ่มตัวในระดับหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม iPhone ถือเป็นการผสมผสานของเครื่องเล่นเพลงอย่าง iPod, กล้องถ่ายรูป ซึ่งเป็นมาตรฐานทั่วไปของโทรศัพท์มือถือไปแล้ว เว็บบราวเซอร์, โปรแกรมเช็กอีเมลและโทรศัพท์ นอกจากนี้ยังมีของเล่นอีกหลายอย่างที่ใส่ไว้ใน iPhone นี้ ไม่ว่าจะเป็น Google Map, Widget ต่างๆ และซอฟต์แวร์สำหรับเขียนอีเมลที่เริ่ดหรูขึ้น
นอกจากนี้ iPhone มีปุ่มเพียงปุ่มเดียว (เราสามารถดูได้จากภาพประกอบในบทความนี้) นอกเหนือจากนั้นการบังคับหรือ การเลือกเมนูต่างๆ จะใช้ระบบสัมผัสทางหน้าจอทั้งสิ้น โดยจะมีลูกเล่นที่เหนือกว่าระบบสัมผัสทั่วไปที่เรียกว่า Multi-Touch ซึ่งเป็นการปฏิวัติรูปแบบของยูสเซอร์อินเตอร์เฟซ ครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง นั่นทำให้การควบคุมการแสดงภาพ, การเลือกเบอร์โทร, การส่งอีเมล และการควบคุมจัดการต่างๆ ทำได้อย่างน่าสนใจขึ้นและมีช่องทางลัด (Short-cut) ในการทำงานมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ชื่อ iPhone ของแอปเปิลยังเป็นกรณีพิพาทกับซิสโก้ (Cisco) อยู่เนื่องจากเป็นชื่อที่ซิสโก้ใช้มาก่อนหน้านั้นแล้ว
จริงๆ แล้วผมคิดว่าชื่อ iPhone ไม่ใช่ประเด็นที่น่าสนใจนักเพราะถ้าไม่มีทางออกจริงๆ แอปเปิลก็อาจจะเลือกเปลี่ยนชื่อไปโดยแอปเปิลคงจะหาชื่อเท่ๆ เก๋ๆ ให้มันได้ไม่ยากนัก แต่สิ่งที่ผมอยากจะพูดถึงคือ iPhone ให้ภาพอะไรหลายๆ อย่างที่กำลังจะเป็นไปในอนาคต
หนึ่งคือ iPhone นำเครื่องมือรวมถึงของเล่นหลายๆ อย่างมารวมกันไว้ในอุปกรณ์ตัวเดียวกัน นั่นคือเป็นทั้งโทรศัพท์, บราวเซอร์, กล้องถ่ายรูป, ออแกไนเซอร์, เครื่องเล่นเพลง, เครื่องฉายหนัง ฯลฯ เรียกได้ว่าความเป็นโทรศัพท์แทบจะไม่เหลือหลอแล้วแต่กลายเป็นหม้อจับฉ่ายที่มีอะไรหลายๆ อย่างที่โทรศัพท์มือถือปัจจุบันมีกัน
สอง iPhone กำลังจะทำให้เราสามารถซื้อมันมาแทนคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ในเมื่อทุกวันนี้คอมพิวเตอร์ที่ใช้กันตามบ้านส่วนใหญ่ใช้เพื่อเล่นอินเทอร์เน็ต, แชท และส่งอีเมลเป็นหลัก นอกจากนี้อาจจะรวมถึงการนำมาฟังเพลงหรือดูหนัง ในขณะที่งานด้านออฟฟิศไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์งานเอกสาร การทำบัญชี หรืองานอื่นๆ ก็จำเป็นสำหรับคนบางกลุ่มเท่านั้น หรือคนอีกส่วนหนึ่งก็ใช้บ้างแต่ไม่บ่อยนัก นั่นคือ iPhone สามารถตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ตามบ้านได้แล้วในระดับหนึ่ง
สาม iPhone มี iPod เป็นส่วนหนึ่งอยู่แล้วซึ่งตอบสนองความต้องการทางด้านความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงและการดูภาพยนตร์
สี่ iPhone ตอบสนองความต้องการทางจิตวิทยาของผู้คนยุคสมัยใหม่ที่ต้องการความเท่, ความเก๋ และไลฟ์สไตล์ ที่จะต้องมีเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนประกอบในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือที่มีฟังก์ชันหลากหลาย เครื่องเล่นเพลงเล็กๆ ที่ทำให้เราสามารถแยกตัวออกจากสังคมที่วุ่นวายได้ และการอยู่ที่ไหนในโลกก็ได้แต่สามารถติดต่อกับเพื่อนหรือเครือข่ายในชีวิต ประจำวันได้โดยผ่านการใช้อินเทอร์เน็ต อีเมล หรือการแชท ซึ่ง iPhone มีทุกอย่างเหล่านั้น
ห้า iPhone เป็นเครื่องมือที่สนับสนุนการสร้างโลกส่วนตัว สร้างพื้นที่ส่วนตัวที่ผู้คน สามารถออกแบบมันได้เองโดยอาศัยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ นั่นเอง
สุดท้าย iPhone มีดีไซน์ที่ตรงกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ๆ อย่างแท้จริง นอกจากนี้การใช้งานที่ค่อนข้างง่ายโดยมีความซับซ้อนต่ำก็ทำให้สามารถดึงดูดคนใช้ที่เบื่อหน่ายกับโทรศัพท์มือถือรุ่นไฮเทค มีฟังก์ชันมากมายแต่ไม่เคยใช้ได้ครบเสียที แถมกว่าจะสามารถใช้ได้ก็มีขั้นตอนที่ซับซ้อนมากมาย ดีไซน์ของแอปเปิลมีผลทางจิตวิทยาสูงมากในการตัดสินใจซื้อเครื่องของคนรุ่นใหม่และทำให้ผู้ผลิตเครื่องเล่นเพลง หรือมือถือมีการลอกเลียนหน้าตาของแอปเปิล ให้เห็นกันมากต่อมากแล้ว
ผมจึงออกจะมองว่า iPhone อาจจะไม่ใช่ชื่อที่เหมาะสมนัก มันควรจะชื่อว่า iWorld, iSpace หรืออะไรก็ตามที่บ่งบอกอะไรมากกว่าการเป็นแค่โทรศัพท์มือถือ เพราะโทรศัพท์มือถือกลายเป็นส่วนประกอบเล็กๆ ไปเสียแล้วเมื่อเทียบกับคุณสมบัติทั้งหมดของ iPhone และคุณสมบัติที่แต่ละคนคาดหวังไว้ ประเด็นเรื่องชื่อไม่ได้สลักสำคัญมากนัก เพียงแต่แอปเปิลอาจจะต้องการตั้งชื่อ iPhone เพื่อจะสามารถเจาะเข้า ไปในตลาดโทรศัพท์มือถือได้ง่ายขึ้นโดยอาศัยชื่อนี้ โดยตลาดโทรศัพท์มือถือมียอดขายประมาณปีละ 1,000 ล้านเครื่อง และแอปเปิลต้องการส่วนแบ่งเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ หรือ 10 ล้านเครื่องเท่านั้นภายในปี 2008
ด้วยราคาตั้งต้นที่จะขายในตลาดสหรัฐอเมริกาที่ 499 หรือ 599 เหรียญสหรัฐ ในเดือนมิถุนายนนี้ดูจะเป็นราคาในระดับกลางค่อนข้างสูง แต่เมื่อถึงเวลาจริงการแข่งขันที่สูงในตลาดที่ลดลงอย่างต่อเนื่องก็อาจจะทำให้ราคาเครื่องไม่สูงมากนักในระยะยาว นอกจากนี้เมื่อมีความต้องการมากขึ้นก็จะทำให้ราคาลดลงเช่นกัน ราคาระดับนี้จึงน่าจะทำให้ iPhone ของแอปเปิลสามารถมีส่วนแบ่งตลาดในระดับที่ต้องการได้ไม่ยาก นัก ที่สำคัญ iPhone มีส่วนประกอบของ iPod และเครื่องมืออื่นๆ ที่ทำให้แฟนคลับของ iPod จะกลายเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญของ iPhone ด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับแฟนคลับ iPod ที่ยังไม่ได้ซื้อ iPod ก็อาจจะตัดสินใจเลือกซื้อ iPhone แทนได้
นั่นทำให้เจ้าตลาดอย่างโมโตโรล่า, โนเกีย, ซัมซุง, โซนี่อีริคสัน และโทรศัพท์มือถือเจ้าอื่นจะต้องคิดหนักอีกครั้ง หลังจากในช่วงปีที่ผ่านมาโทรศัพท์มือถือเหล่านี้กำลังจะก้าวข้ามเข้าไปในตลาดของ iPod ที่แอปเปิลสร้างมาในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา โดยเราจะสังเกตว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นหลังๆ จะเน้นความสามารถทางด้านการเล่นเพลงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็เคยตั้งข้อสังเกตไว้ว่าแอปเปิลปล่อยให้โซนี่วอล์กแมนครองตลาดอย่างยาวนาน 20 กว่าปีกว่าที่ iPod จะเข้ามาแทนที่โซนี่วอล์กแมนได้ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 แต่ iPod กำลังจะเสียตลาดของตนไปในเวลาเพียงไม่กี่ปีเมื่อประสิทธิภาพของโทรศัพท์มือถือสามารถมาแทนที่ iPod ได้อย่างไม่ยากนัก แต่แอปเปิลให้คำตอบกับผมแล้วว่าพวกเขาจะทำอย่างไร ที่จะป้องกันไม่ให้ iPod เสียตลาดไปง่ายๆ ซึ่งคำตอบของพวกเขาก็คือเข้าไปในตลาดโทรศัพท์มือถือเสียเองโดยการนำ iPod ไปรวมกับโทรศัพท์มือถือแล้วได้ iPhone มาแถมด้วยของเล่นอีกหลายๆ อย่าง
อย่างไรก็ตาม บทความนี้มิใช่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของแอปเปิล เพราะผมกำลังมองไปถึงอนาคตวงการโทรศัพท์มือถือ โดยเห็นว่าแอปเปิลกำลังทำการกระตุ้นตลาดโทรศัพท์มือถือครั้งสำคัญหลังจากที่พัฒนาการของโทรศัพท์มือถือกำลังจะเริ่มย่ำอยู่กับที่มากขึ้น โดยพัฒนาการที่สำคัญเพียงอย่างเดียวที่เห็นในระยะครึ่งปีที่ผ่านมาคือการพยายามก้าวเข้าไปสู่การเป็นเครื่องมือเพื่อความบันเทิงอย่างเต็มตัว ซึ่งจริงๆ แล้วที่ผ่านมาโทรศัพท์มือถือรุ่นก่อนหน้านี้ก็เป็นเครื่องมือเพื่อความบันเทิงอยู่แล้วเพียงแต่อาจจะก้าวเข้าไปอย่างไม่เต็มตัวนัก
ที่สำคัญลูกเล่นของ iPhone ก็ไม่ได้ถึงขนาดมาปฏิวัติวงการโทรศัพท์มือถืออย่างถอนรากถอนโคน ฟังก์ชันและลูกเล่นหลายๆ อย่างของ iPhone เป็นสิ่งที่เป็นปัญหาของการใช้โทรศัพท์มือถือมานานและบริษัทโทรศัพท์มือถือก็ล้วนตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้แต่ไม่มีใครคิดจะแก้มันอย่างจริงๆ จังๆ ไม่ว่าจะเป็นความซับซ้อนในการ ใช้งานและปุ่มใช้งานที่ทำให้เครื่องดูเทอะทะ นอกจากนี้ความสามารถในการจัดการไฟล์, รูปภาพ, เพลง หรือรายการเบอร์โทรศัพท์ก็ล้วนเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในเครื่องโทรศัพท์มือถือ เกือบทุกเครื่อง แต่การทำให้ใช้งานง่ายก็เป็นสิ่งที่แอปเปิลให้ความสำคัญ จริงๆ แล้วแอปเปิลอาจจะเป็นบริษัทที่เข้าใจจิตวิทยาของผู้บริโภคได้ค่อนข้างดี ทำให้พวกเขาเลือก ที่จะออก iPhone มาตีตลาดโทรศัพท์มือถือ ในที่สุด
การกระตุ้นของแอปเปิลและการตั้งเป้าในการนำ iPhone เข้ามามีส่วนแบ่งตลาดอย่างชัดเจนของแอปเปิลซึ่งน่าจะทำให้ iPhone เป็นสินค้าหลักอีกกลุ่มหนึ่งนอกเหนือจากเครื่องแมคอินทอชและ iPod ที่สามารถ สร้างความสั่นสะเทือนในวงการได้อย่างชัดเจนและสามารถสร้างกลุ่มแฟนคลับที่รักแอปเปิลอย่างเหนียวแน่นได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในวงการก็ตอบสนองทางบวกด้วยราคาหุ้นของแอปเปิลที่เพิ่มขึ้นถึง 8 เปอร์เซ็นต์ภายหลังการเปิดตัวของ iPhone ในขณะที่หุ้นของคู่แข่งในวงการโทรศัพท์มือถือกลับตกลง ทันที
ยังมีเวลาอีกกว่าครึ่งปีที่ iPhone จะวางตลาดจริงๆ ซึ่งคู่แข่งในวงการโทรศัพท์ มือถือคงไม่อยู่นิ่งเป็นแน่แท้
เสียงปรบมือเป็นระยะๆ ระหว่างการโชว์ iPhone ของสตีฟ จ็อบ ในงาน Macworld Expo เมื่อใดก็ตามที่เขาบอกเล่า ถึงลูกเล่นใหม่ๆ ของ iPhone สะท้อนถึงความสะใจเล็กๆ ของผู้ชมผู้ฟังที่ได้เห็นเครื่องมือที่พวกเขารอคอยมานาน แต่ขณะเดียวกันก็เป็นปฐมบทของสงครามในตลาดโทรศัพท์มือถือที่แอปเปิลกำลังทำให้มันกระเพื่อมหนักขึ้นๆ
บริษัทโทรศัพท์มือถือคู่แข่งรายอื่นๆ คงไม่ปล่อยให้ลูกเล่นของ iPhone มาครอบงำตลาดโทรศัพท์มือถือได้หรอก ใช่ไหม ครับ
อ่านเพิ่มเติม
1. Markoff, J. (2007), 'Apple Introduces Innovative Cellphone,' The New York Times, Jan 10, 2007.
2. 'Drop the Computer : With new products and a shorter name, Apple hopes to change the world again,' The Economist, Jan 11, 2007.
3. Keynote Address, Macworld San Francisco 2007, http://events.apple.com.edgesuite.net/j47d52oo/event/
4. 'Live from Macworld 2007 : Steve Jobs keynote,' http://www.engadget.com/bloggers/ryan-block
5. 'Apple magical iPhone unveiled,' BBC News, Jan 9, 2007.
|