Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2550








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2550
ดูแลอย่างจำเป็น             
 


   
www resources

โฮมเพจ DTAC

   
search resources

โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น, บมจ.
Mobile Phone




ตัวเลขสถิติระบุเอาไว้ชัดเจนว่าปีที่ผ่านมา ประเทศไทยขึ้นทำเนียบอันดับสองของโลกที่มีการใช้โทรศัพท์มือถือต่อครั้งยาวนานที่สุดที่ 4 นาทีต่อคนต่อครั้ง เป็นรองเพียงประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาเพียงเท่านั้น

ปรากฏการณ์ดังกล่าว ซิคเว่ เบรกเก้ ซีอีโอของดีแทค กล่าวเอาไว้ต่อหน้าบรรดาสื่อมวลชนเมื่อครั้งเดินทางไปร่วมงานแถลงข่าวทิศทางการแข่งขันในตลาดโทรศัพท์มือถือของดีแทคในปีหน้าถึงหัวหินเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า ไม่ต่างอะไรกับปรากฏการณ์ชาเขียวฟีเวอร์ หรือ Green Tea Effect การระบาดของชาเขียวที่แทบจะแทรกไปอยู่ในทุกสินค้า ตั้งแต่น้ำดื่มยันอาหารและขนมขบเคี้ยว

แต่สูงสุดคืนสู่สามัญคือสิ่งที่ใช้นิยามและเปรียบเทียบเหตุการณ์กับระยะเวลาได้เป็นอย่างดี เนื่องด้วยสองสามเดือนที่ผ่านมาปรากฏการณ์ชาเขียวระบาดก็ลดอัตราลงไป ผู้บริโภคเริ่มอิ่มตัว และหันมาบริโภคชาเขียวในระดับเท่าๆ ปริมาณเดิมก่อนหน้าที่จะมีการนิยมกันมากๆ เช่นเดียวกันกับวงการโทรศัพท์มือถือในเมืองไทยที่มีแนวโน้มและทิศทางแบบเดียวกัน โดยจากการสำรวจล่าสุดพบว่า คนไทยใช้โทรศัพท์กันน้อยลง จากเดิมใช้ 4 นาทีต่อคนต่อครั้ง กลายเป็นมาใช้เพียง 2 นาทีต่อคนต่อครั้ง ลดลงหนึ่งเท่าว่ากันอย่างนั้น

เมื่อถึงจุดอิ่มตัวคนก็เริ่มชะลอและลดระยะเวลาของการคุยให้น้อยลงและเริ่มเป็นปกติของการใช้งานดังเช่นหลายปีก่อนหน้านี้ ดังนั้น สิ่งที่ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถืออย่างดีแทคจะทำได้ก็คือ การหันมาเปลี่ยนให้คนอยู่กับเครือข่ายของตนนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะการจูงใจให้คนใช้โทรศัพท์มือถือแบบเติมเงินให้หันมาใช้ระบบรายเดือนมากยิ่งขึ้น บวกกับการขยันเพิ่มวิธีการดูแลเอาใจใส่ลูกค้าแบบที่เรียกว่า กลยุทธ์ 3C อันรวมไปด้วย Call, Care และ Convenience เข้าไปด้วย

วงเงินประกันอุบัติเหตุที่ให้กับลูกค้าในระบบรายเดือนที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้วถือเป็นหนึ่งใน Care ของกลยุทธ์ 3C

และเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาดีแทคก็เปิดตัว C ตัวใหม่อย่าง Convenience สู่สาธารณชนอีกครั้ง โดยจับมือ 6 ธนาคารใหญ่ ทั้งธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารยูโอบี ไทยธนาคาร ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพื่อเปิดตัว "Sabai Pay" บริการให้ลูกค้าระบบรายเดือนของดีแทค สามารถจ่ายเงินค่าบริการรายเดือนผ่านทางตู้เอทีเอ็มรวมทั้งหมด 10,400 ตู้จากธนาคารทั้ง 6 ตลอด 24 ชั่วโมงที่ต้องการ โดยระบบจะทำการยืนยันการจ่ายผ่านทางบริการข้อความเอสเอ็มเอสแบบเรียลไทม์ หรือตัดเงิน ณ เวลาจริงที่จ่ายด้วย

นอกจากนี้ยังพ่วงด้วยการเปิดตัวบริการตัดเงินค่ารายเดือนผ่านทาง call center 1678 เพียงแค่ยกหูและทำการตัดเงินผ่านบัตรเครดิต เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าที่ไม่มีเวลาไปยืนรอที่เคาน์เตอร์เพื่อจ่ายค่าบริการในแต่ละเดือน

งานนี้ลูกค้าก็ไม่ต้องเสียเวลาแถมสะดวกยิ่งขึ้น ธนาคารก็ได้เงินจากบริการดังกล่าวผ่านทางดีแทค ขณะที่ดีแทคก็สามารถรักษาฐานลูกค้าและป้องกันเบี้ยวหนี้ได้ดีกว่าเดิม คิดแล้ว "win win" ดีแท้ แต่แท้ที่จริงเพียงเพราะดีแทคจำเป็นต้องดูลูกค้าของตน ก็เท่านั้นเอง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us