จีนกำลังรณรงค์แนวคิด green GDP ทั่วประเทศ

รัฐบาลกลางจีน โดยสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของจีน (SEPA) กำลังรณรงค์แนวคิด "green GDP" ซึ่งมีกำเนิดในต่างประเทศในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ไปทั่วจีน โดยพยายามกดดันให้มณฑลต่างๆ ของจีน ยอมรับแนวคิดในการรวมเอาความสูญเสียหรือต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อม เข้าไปในตัวเลขการเติบโตของ GDP

ในปี 2004 SEPA ร่วมกับสำนักสถิติแห่งชาติจีน ออกรายงาน green GDP แห่งชาติครั้งแรก ซึ่งระบุว่า ความสูญเสียด้านสิ่งแวดล้อมของจีน มีมูลค่าเท่ากับ 64.5 พันล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ปัญหาของ green GDP คือ ยังคงเป็นแนวคิดที่คลุมเครือ ซึ่งเกิดจากวิธีการคิดคำนวณความสูญเสียด้านสิ่งแวดล้อม ที่ครอบคลุมปัจจัยต่างๆ ไว้มากเกินไป ตั้งแต่มลพิษทางน้ำ ไปจนถึงการกัดกร่อนของดิน อุบัติเหตุในการทำงาน ไปจนถึงการลาหยุดงาน ทำให้ได้ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์

ปัญหาอีกประการเป็นปัญหาการเมือง ในอดีต ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ มีผลอย่างมากต่อการได้รับพิจารณาเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งของข้าราชการท้องถิ่นจีน แต่การรณรงค์ green GDP กลับหมายความว่า ต่อจากนี้ไป ข้าราชการจีนจะต้องปกป้องสิ่งแวดล้อม และในขณะเดียวกันก็ยังจะต้องรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจไปด้วย ทำให้พวกเขาต่างรู้สึกวิตกกังวล ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับความก้าวหน้าในตำแหน่งงานของตน

เมื่อไม่นานมานี้ สื่อของทางการจีนได้กล่าวโจมตีข้าราชการท้องถิ่นจีนว่า ขัดขวางหรือไม่ยอมปฏิบัติตามมาตรฐานของ green GDP เกี่ยวกับการใช้พลังงานและการแพร่สารก่อมลพิษ หรือไม่ก็แต่งตัวเลขวัดมาตรฐานทั้งสองประการนั้นขึ้นมาเอง และบางมณฑลรวมทั้งบางเมือง ยังบอกว่า ต้องการจะขอถอนตัวจากการทดลองปฏิบัติตามแนวคิด green GDP ด้วย

อย่างไรก็ตาม นายกเทศมนตรีตามเมืองต่างๆ ของจีน เริ่มยอมรับแนวคิด green GDP มากขึ้น และในที่สุด ข้าราชการท้องถิ่นของจีนก็คงจะไม่มีทางเลือก นอกจากจะยอมสนับสนุนแนวคิดนี้ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านชนบทของจีนบางคนเชื่อว่า ภายในปีนี้ อาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของจีน จากการที่แนวคิด green GDP จะมีผลอย่างมาก ต่อการประเมินผลงานความดีความชอบของข้าราชการจีน