ฟินันซ่า แตกไลน์ลุยลงทุนต่างประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนจาก 30% เป็น 50% ของสินทรัพย์ทั้งหมด ล่าสุดตั้งบริษัทย่อยลงทุนในจีน วงเงิน 800 ล้านบาทพร้อมเป็นที่ปรึกษาในการลงทุนเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียม หลังประสบความสำเร็จจากการลงทุนที่เวียดนาม

นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) หรือ FNS เปิดเผยแผนการดำเนินงานปี 2550 ว่า บริษัทมีแผนขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศมากขึ้นเนื่องจากบริษัทต้องการกระจายรายได้ และเพื่อกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนภายในประเทศ โดยบริษัทมองว่าภาวะการลงทุนในปัจจุบันไม่ได้เป็นช่วงเวลาที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนในประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าภายใน 2-3 ปีข้างหน้าจะขยายสินทรัพย์ออกไปยังต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วน 50% ของสินทรัพย์ทั้งหมด จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 30% นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาประเทศในแถบเอเชียที่จะเข้าไปลงทุนเพิ่ม โดยบริษัทจะพิจารณาเลือกลงทุนจากผลตอบแทนเป็นหลัก

นอกจากนี้คณะกรรมการได้อนุมัติให้บริษัทจัดตั้งบริษัทย่อย ภายใต้ชื่อ Finansa People’s Republic of China หรือ Finansa PRC เข้าไปลงทุนในประเทศจีน โดยบริษัทดังกล่าวจะถือหุ้นโดยบริษัท Finansa Hong Kong (FHK) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ฟินันซ่า จำนวน 100% เบื้องต้นคาดว่าจะทยอยใช้เงินลงทุนภายใน 1 ปี ประมาณ 10-20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 700-800 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามาบริษัทคาดว่าจะจัดตั้งบริษัทแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกปีนี้ โดยบริษัทดังกล่าวจะประกอบธุรกิจในการให้คำปรึกษา เข้าลงทุน และให้บริการด้านการเงินต่างๆ ในประเทศจีน ทำให้บริษัทมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปของค่าธรรมเนียมในการบริหารงาน กำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นและเงินปันผล

นายวรสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมาฟินันซ่า ได้เข้าลงทุนในตลาดเวียดนามผ่านกองทุน Vietnam Equity Fund ที่ทางบริษัทเป็นผู้บริหาร โดยในปี 2006 ได้รับผลตอบแทนมากกว่า 100% นอกเหนือจากกำไรที่ได้รับจากการร่วมลงทุนในกองทุนดังกล่าว ฟินันซ่ายังได้รับผลตอบแทนในรูปของค่าบริหารกองทุนและส่วนแบ่งกำไรอีกด้วย โดยคิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณ 100 ล้านบาท ในปี 2006 ที่ผ่านมา

“ตลาดหุ้นเวียดนามนั้นในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเป็นตลาดที่ร้อนแรงมากๆ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา VN-Index สามารถทำสถิติทะลุ 1000 จุดได้ และในปี 2006 VN-Index ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 144%” นายวรสิทธิ์กล่าว

สำหรับ Finansa Singapore นั้น ปัจจุบันธุรกิจหลักคือการบริหารกองทุน The Asian Debt Fund ซึ่งมีขนาดกองทุนประมาณ 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2006 ฟินันซ่าได้รับผลตอบแทนในรูปของกำไรจากการลงทุนและค่าบริหารรวมเป็นเงินทั้งสิ้นราวๆ 100 ล้านบาท จากจำนวนเงินลงทุน 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 25%