Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มีนาคม 2546








 
นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2546
International Finance Corporation             
 

   
related stories

Michael Higgins กับบทบาทที่เพิ่มขึ้น

   
search resources

บรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ - IFC




บรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (International Finance Corporation : IFC) เป็น 1 ในกลุ่มสมาชิกธนาคารโลก (World Bank) ซึ่งประกอบด้วยธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการบูรณะและพัฒนา (IBRD) สมาคมพัฒนาการระหว่างประเทศ (IDA) และองค์การค้ำประกันพหุภาคี (MIGA)

IFC ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1956 (2499) เพื่อส่งเสริมกิจกรรมของภาคเอกชนในประเทศกำลังพัฒนา โดยมีการดำเนินงานหลัก 3 ด้าน ได้แก่ ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการของภาคเอกชน, ให้ความช่วยเหลือธุรกิจในประเทศกำลังพัฒนา ในการระดมเงินทุนในตลาดการเงินระหว่างประเทศ และให้คำปรึกษา รวมทั้งความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคแก่กิจการ และรัฐบาลของประเทศต่างๆ

ปัจจุบัน IFC มีสมาชิกที่ประกอบด้วยประเทศต่างๆ ทั่วโลก 175 ประเทศ มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 2.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีจำนวนพนักงานทั้งสิ้นประมาณ 2,000 คน ในสำนักงานใหญ่ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และใน 70 สำนักงาน ทั่วโลก

ปี 2544 IFC มีการลงทุนทั่วโลก จำนวน 240 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 3,700 ล้านดอลลาร์

สำหรับประเทศไทย IFC ได้เข้ามาลงทุนเป็นครั้งแรกในปี 1959 (2502) ซึ่งเมื่อนับจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2545 IFC ได้อนุมัติเงินลงทุนไปแล้ว 55 โครงการ คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 2,700 ล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้เป็นเงินลงทุนโดยตรงของ IFC เองจำนวน 999 ล้านดอลลาร์ ส่วนที่เหลืออีก 1,701 ล้านดอลลาร์ เป็นของผู้ให้กู้ร่วม

ภาคเศรษฐกิจของไทยที่ IFC ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือการลงทุนในสถาบันการเงิน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันการเงิน การสนับสนุนการปรับโครงสร้างทางการเงิน เพื่อเสริมสร้างธรรมาธิบาล การสนับสนุนบริษัทต่างๆ รวมทั้งบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้สามารถกู้เงินในระยะยาวได้ และการลงทุนในการพัฒนาสังคม โดยเฉพาะการสาธารณสุข และการศึกษา

โดยการลงทุนครั้งสำคัญของ IFC ในไทย ประกอบด้วยการอนุมัติเงินลงทุนจำนวน 37.5 ล้านดอลลาร์ เพื่อก่อตั้ง Thai Equity Fund ในปี 2543 ซึ่งเป็นกองทุนที่จะนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ และตราสารทุนของบริษัทในตลาด หลักทรัพย์ เพื่อเป็นกลไกหนึ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ในปี 2544 IFC ได้ค้ำประกันเงินกู้บางส่วนของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์นครธน จำนวน 50 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังได้เข้าลงทุนในบริษัทเทเลคอมเอเซีย จำนวน 100 ล้านดอลลาร์ โดยแบ่งเป็นการลงทุนกึ่งหุ้นจำนวน 25 ล้านดอลลาร์ และการประกันหุ้นกู้บางส่วนอีก 75 ล้านดอลลาร์

ในปี 2545 IFC ได้ให้เงินกู้ระยะยาวกับบริษัท แฟบริเนท ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการส่งออก เป็นเงินกู้ระยะยาวจำนวน 12 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปใช้ในการปรับปรุงเทคโนโลยี และขยายกำลังการผลิต

นอกจากการลงทุนทางด้านการเงินแล้ว ในปี 2544 IFC ยังได้ให้คำปรึกษาแก่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการกำหนดมาตรฐาน วิธีการและการกำกับดูแล ตลาดตราสารอนุพันธ์ และในปัจจุบัน IFC ยังเป็นที่ปรึกษาให้กับศูนย์ซื้อขายตราสารหนี้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us