Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน30 มกราคม 2550
TPIPLดบ.ลดดันกำไร49พุ่ง82%             
 


   
www resources

โฮมเพจ ทีพีไอโพลีน

   
search resources

ทีพีไอ โพลีน, บมจ.
อรพิน เลี่ยวไพรัตน์
Cement




ทีพีไอ โพลีน โชว์ผลงานปี 49 กำไรสุทธิรวมเฉียด 2.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 1.2 พันล้านบาท หรือ 82% หลังจ่ายหนี้คืนเกือบ 1.4 หมื่นล้านบาท ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยจ่ายลด บวกกับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 1.8 พันล้านบาท ด้านโบรกเกอร์ แนะถือ-ซื้อเก็งกำไร หลังจากเศรษฐกิจชะลอตัวอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ แย้มระยะสั้นมีข่าวดีรับกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้อีก 2.3 พันล้านบาท

นางอรพิน เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL กล่าวถึง ผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,775.81 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.27 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,521.51 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.93 บาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1,254.30 ล้านบาท คิดเป็น 82.44%

ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและรายได้รวม 22,627 ล้านบาท และ 26,321 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.72% และ 12.99% จากจำนวน 21,403 ล้านบาทและ 23,295 ล้านบาท ในปี 2548 ตามลำดับ โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และรายการตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 3,542 ล้านบาท ลดลง 10.57% จาก 3,960 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินธุรกิจปกติ 1,540 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.46% จากจำนวน 1,279 ล้านบาท

สำหรับสาเหตุที่บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 82.44% นั้น สืบเนื่องจากบริษัทบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นจำนวน 1,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 183 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 1,081.08% บวกกับบันทึกดอกเบี้ยจ่ายจำนวน 1,074 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 31.47% ที่มีดอกเบี้ยจ่าย 1,568 ล้านบาท เนื่องจากในปี 2549 บริษัทได้ชำระคืนหนี้เงินต้นให้แก่เจ้าหนี้เป็นจำนวนประมาณ 13,726 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นเท่ากับ 24.61 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ไซรัส ประเมินผลการดำเนินปี 2550 ว่า ทีพีไอโพลีน จะมีกำไรสุทธิลดลง 11% จากการชะลอตัวของการลงทุนในประเทศ ทำให้ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ไม่เป็นเป้าตามเป้าที่ที่คาดว่าจะโตได้ประมาณ 3% โดยคาดกำไรจากการดำเนินงานปีนี้ไว้ที่ 1,642 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.80 บาท แต่ยังคงขยายตัวจากปีก่อน 64.3% เนื่องจากภาระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายทางด้านกฎหมายที่ลดลง รวมทั้งราคาปูนซีเมนต์ที่มีโอกาสปรับขึ้นในปี 2551 และต้นทุนพลังงานที่เริ่มนิ่ง ส่งผลทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น

ขณะเดียวกัน ระยะสั้นอาจจะได้รับกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ หลังจากที่ปัญหาเรื่องหนี้ซื้อคืนแบบมีส่วนลดยุติ หากชนะคดีจะมีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ 2,362 ล้านบาท แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติให้คณะกรรมการปลดนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ พ้นจากตำแหน่งกรรมการ รวมถึงเรื่องคดีซื้อเครื่องจักร หากแพ้คดีอาจจะต้องเสียค่าปรับประมาณ 2,252 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยอัตรา 7.5% ต่อปี

โดยประเมินราคาตามปัจจัยพื้นฐานปี 2550 ไว้ที่หุ้นละ 13.6 บาท ลดลงจากเดิมที่ 14.6 บาท จากที่คาดว่าความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศในปีนี้จะชะลอตัว ประเมิน พี/อี เรโช ที่ 16.7 เท่า และ P/B ที่ 1.2 เท่า ซึ่งยังมีส่วนต่าง (Upside) 11.5% แนะนำ "ถือ"

ขณะที่ บล. กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กลับมองว่า ผลการดำเนินงานทีพีไอโพลีน ในปีนี้น่าจะปรับตัวดีขึ้นมากจากปี ก่อน จากราคาปูนซีเมนต์ได้ทยอยปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ต้นทุนพลังงานปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ส่งผลบวกทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น บวกกับการเพิ่มทุนไปชำระหนี้ทำให้ภาระหนี้ลดลงมาก ดังนั้น จึงคาดว่าจะมีกำไรปกติจะฟื้นตัวอย่างมากเป็น 1,987 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98% ขณะเดียวกันยังคาดว่าจะรับรู้กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ส่วนที่เหลือที่กำลังอยู่ในการพิจารณาของศาลอีกประมาณ 2,362 ล้านบาท

จากปัจจัยดังกล่าว จึงแนะนำให้ซื้อเก็งกำไร โดยราคาเหมาะสมที่หุ้นละ 14 บาท P/E เท่ากับ 14 เท่า เนื่องจากยังมี Upside ประมาณ 15% แต่ยังต้องระวังปัจจัยเสี่ยงกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวโทษให้ปลดนายประชัย ออกจากกรรมการบริษัท ซึ่งอาจจะมีผลต่อการถูกเพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น TPIPL ล่าสุด วานนี้ (29 ม.ค.) ราคาไม่ได้ตอบรับกับผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก โดยราคาปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 12.50 บาท ก่อนจะปรับตัวลดลงมาปิดที่ราคาต่ำสุด 12.00 บาท ลดลงจากวันก่อน 0.20 บาท หรือคิดเป็น 1.64% มูลค่าการซื้อขายรวม 177.65 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us