ด้วยความ ที่เป็นผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ธนภัทร โมรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท
เตียหงี่เฮียง (เจ้าสัว) จำกัด กล่าวย้ำว่ากระบวนการผลิตสำคัญนั้น มาก คือ
ต้องพยายามควบคุมความสะอาด และรสชาติให้เป็นไปตามสูตร คัดเฉพาะหมูชำแหละ ที่สดเท่านั้น
ผู้บริโภคซื้อรับประทานเมื่อใดก็ตาม รสชาติต้องคงเดิม ขั้นตอนการปรุงผสมสูตรผลิตภัณฑ์ทุกชนิดตัวธนภัทรจะเป็นคนทำเอง
หลังจากนั้น จึงจะให้คนงานมารับช่วงในการทำต่อ เนื่องจากต้องการรักษาสูตรไม่
ให้รั่วไหลไปยังคนอื่น ถือเป็นสูตรอาหารเอกลักษณ์เฉพาะของ"เตีย หงี่เฮียง"
ปัจจุบันโรงงานเตียหงี่เฮียงใช้วัตถุดิบเนื้อหมูชำแหละประมาณ 3 ตันกว่าต่อวัน
มีคนงานประจำโรงงานประมาณ 70 คนที่เหลืออีกราว 20 คน จะเป็นเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน
โดยได้ปรับระบบการจัดการให้คล่องตัวขึ้น ด้วยการแบ่งโครงสร้างองค์กรเป็น
4 แผนก ประกอบด้วยฝ่ายบุคคล ฝ่ายการตลาด ฝ่ายบัญชี และฝ่ายการผลิต
มีธนภัทร และภรรยาเป็นคนควบคุมดูแลตรวจสอบการทำงานทุกแผนก ขณะเดียวกันก็ตั้งหัวหน้าฝ่ายขึ้นมาดูแลแต่ละแผนกอีกทอดหนึ่ง
นับจากปี 2516 เป็นต้นมา การผลิตทุกตัว ทั้งหมูหยอง หมูแผ่น กุนเชียง หมูสวรรค์
เนื้อสวรรค์ แหนม หมูยอ แหนมซี่โครง ข้าวตังหมูหยองจะรวมผลิตในตัวอาคารโรงงานเดียวกัน
แต่ในปี 2536 ได้แยกส่วนการผลิตข้าวตังหมูหยองออกไปทำการผลิตอีกตัวอาคารหนึ่ง
ด้วยเหตุผลที่เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทขนมขบเคี้ยว มีความต่างจากผลิตภัณฑ์ตัวอื่น
ที่สำคัญปริมาณการผลิตค่อนข้างจะมาก และใช้พื้นที่ในการทำงานกว้างกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่น
โดยมอบหมายงานให้กฤษณี หุ่นธานี และบุญคุณ เลิศกิจขจร ซึ่งเป็นญาติฝ่ายภรรยาเป็นผู้ดูแล
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปพื้นเมืองภายใต้แบรนด์ "เตียหงี่เฮียง" มีร้านขายปลีกในจังหวัดนครราชสีมาทั้งหมด
4 จุดคือ ร้านใหญ่บนถนนท้าวสุระ สาขาย่อยอีก 3 จุดกระจายในย่านชุมชนต่างๆ
ในเมืองโคราช
นอกจากนี้ยังขายส่งไปตามร้านค้าต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตลาดภาคเหนือก็จะมีจำหน่ายในจังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเชียงใหม่
จังหวัดตาก และภาคใต้มีวางขายในบางจังหวัด เช่นจังหวัดพังงา จังหวัดสงขลา
อำเภอหาดใหญ่
ธนภัทรเปิดเผยว่ากิจการเตียหงี่เฮียงจะต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ เพื่อยกระดับเป็นสินค้าระดับชาติในอนาคต
ภายใต้การบริหารงานของเขาเป็นหลัก เพราะเพิ่มผู้เป็นบิดา ซึ่งขณะนี้อายุได้ย่างเข้า
80 ปี และได้วางมือไปนับสิบปีแล้ว ส่วนพี่น้องอีก 5 คนคือ เพ็ญศรี รัชตะชัยยศ,
อำไพ แซ่ลิ้ม, อัมพร โมรินทร์, สุรชัย โมรินทร์ และพิเชษฐ์ โมรินทร์ ต่างแยกย้ายไปมีครอบครัว
และธุรกิจค้าขายส่วนตัวกันหมด