|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ความแรงของ "สลากออมสิน"อาจเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่สร้างสีสันให้วงการธุรกิจการเงิน เห็นได้จากยอดการจำหน่ายสลากในงวดที่มีแคมทเปญพิเศษเป็นเครื่องล่อใจ ดึงเม็ดกว่า 2.5 หมื่นล้านบาทเข้าแบงก์ ซึ่งความเป็นจริงแล้วไม่ง่ายเลยสักนิดที่จะเรียกเม็ดเงินจำนวนมหาศาลได้มากมายขนาดนี้ในระยะเวลาที่จำกัด ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของออมสินในยุคสี "บานเย็น" โดยเฉพาะนโยบายการตลาดที่หวือหวาเปลี่ยนไปจากอดีตที่ผ่านมาค่อนข้างมาก
สี "บานเย็น"ของ "แบงก์ออมสิน"ได้ลบภาพความเป็น"ฟ้าคราม"ที่บ่งบอกถึงความเก่าแก่ล้าสมัยในอดีตของแบงก์แห่งได้หมดสิ้นไป ด้วยกลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่ในแนวคิดที่ทันสมัย แปลกแตกต่าง แต่ก็กล้าที่จะคิดและทำ ยังผลให้แบงก์ออมสินสามารถเข้าโจมตีได้ถึงจุดยุทธศาสตร์สำคัญในส่วนที่เป็นเป้าหมายตามต้องการ
ความหวือหวาในกลยุทธ์ทางการตลาด ไม่เพียงแต่ใช้สีสันและความสดใสมาเป็นลูกเล่นเท่านั้น หากแต่ยังรวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย รวมถึงการเปิดตัวต่อสาธารณะชนมากขึ้นล้วนเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของแบงก์รัฐแห่งนี้ได้ก้าวชั้นขึ้นมาเทียบเคียงแบงก์เอกชน แม้ว่าส่วนหนึ่งในเรื่องบริการจะยังสู้ได้ไม่เต็มร้อยก็ตาม
แต่ในเรื่องของผลิตภัณฑ์ทางการเงินนั้นอาจสูสีกัน เพราะปัจจุบันนี้ออมสินทำธุรกรรมทางการเงินได้มากขึ้นกว่าอดีตที่ผ่านมา และยังมีความได้เปรียบที่สามารถออก "สลากออมสิน"ได้ ซึ่งต่างจากแบงก์เอกชน หรือแบงก์รัฐแห่งอื่นที่ไม่มีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รองรับให้สามารถออกสลากได้
"สลาก" เป็นความพิเศษ และสร้างความได้เปรียบให้แบงก์ออมสินได้อย่างไร?
ย้อนกลับไปสู่อดีต ยุคแรกที่สลากออกมาวาดลวดลายสู่ตลาดการเงิน ว่ากันว่า สลาก คือ กุศโลบายที่ใช้เพื่อจูงใจให้ผู้ชอบการเสี่ยงโชค หันมาออมเงินขณะเดียวกันที่ได้รับสิทธิของการลุ้นรางวัล เมื่อฝากครบอายุก็จะได้รับเงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยที่เป็นผลตอบแทน
"กุศโลบาย" ก็ไม่ต่างจากการเสี่ยงแต่ไม่สูญ ทำให้ผู้ฝากอยากออมมากกว่านำเงินไปเสี่ยงโชคในประเภทอื่นๆ ดังนั้นในวันที่ 1 สิงหาคม2485 "สลากออมสินสามัญ" งวดที่ 1 จึงเกิดขึ้น ในราคาฉบับละ 5 บาท จำนวน 40,000 ฉบับ ออกรางวัลทุกเดือน อายุครบ 3 เดือน หากประสงค์จะถอนคืน จ่ายคืนให้ฉบับละ 3.50 บาท เมื่อฝากครบ 5 ปี ได้ดอกเบี้ยฉบับละ 25 สตางค์ และในงวดต่อๆ มา มีการพัฒนาปรับเปลี่ยนราคาต่อหน่วย เงินรางวัล รวมทั้งระยะเวลาครบอายุ เพื่อจูงใจมากขึ้น จนถึงงวดที่ 6 จึงระงับการจำหน่าย
นั่นคือจุดเริ่มต้นของการกำเนิดสลากออมสิน...
วรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี รองผู้อำนวยการ ธนาคารออมสินอาวุโส เล่าให้ฟังว่า กว่า 65ปีที่ผ่านมา สลากออมสินมีการพัฒนารูปแบบแตกต่างกันไป และมีชื่อเรียกในแต่ละรุ่นที่แตกต่างกันด้วย รวมถึงสิทธิประโยชน์ของการให้ผลตอบแทน แต่ปัจจุบัน ใช้ชื่อว่า "สลากออมสินพิเศษ"ซึ่งเป็นงวดที่ 32 แล้ว
"พัฒนาการของรางวัลและผลตอบแทนก็เปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่ 2 ปีที่แล้ว เงินรางวัลที่หนึ่งยังอยู่ที่ 3 ล้านบาทเท่านั้น แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 10 ล้านบาทแล้ว ที่สำคัญผู้ซื้อสลากมีโอกาสถูกรางวัลที่1ได้ถึง 2 ครั้งในการออกรางวัลงวดเดียวกัน เท่ากับมีสิทธิลุ้นโชคถึง 20 ล้านบาท"
กรณีนั้นต้องนับว่าเป็น "คนเหนือดวง"จริง ๆ เพราะโอกาสที่จะถูกรางวัลไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด แม้แค่รางวัลต่ำสุดเลขท้าย 4 ตัว ถ้าจะเอาแบบถูกทุกงวด อย่างต่ำต้องซื้อ 10,000 หน่วย คิดเป็นเงินถึง 500,000 บาท
ถึงกระนั้นในรายเล็กรายน้อยก็ยังสนใจที่จะเข้ามาลุ้นรางวัลอยู่ดี เพราะซื้อสลากไปเงินต้นก็ยังอยู่ครบ ฝากจบระยะเวลากำหนดได้ดอกเบี้ย สำคัญสุดยังไงตลอดระยะเวลาที่ฝากเงินก็ยังมีสิทธิในการลุ้นรางวัลอยู่ดี และด้วยเหตุผลประการสำคัญเช่นนี้เองที่ทำให้สลากออมสินมีกระแสของการตอบรับที่ดีมาตลอดจนนำมาสู่การคืนกำไรให้ผู้ซื้อสลาก
วรวิทย์ เล่าว่าในตอนแรกก็คิดอยู่ว่าจะคืนกำไรผู้ฝากเงินอย่างไรดี จึงระดมความเห็นจากทีมงานทั้งหมดก็ได้ข้อสรุปว่า น่าจะออกมาเป็นโครงการพิเศษ โดยใช้ชื่อว่า "สลากออมสินพิเศษ เงินฝาก...คุ้มแล้ว...คุ้มอีก" ที่ให้สิทธิผู้ซื้อตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม2549 ถึง 20 มากราคม 2550 ได้มีสิทธิลุ้นรถยนต์ โตโยต้า นิว คัมรี รุ่น 2.4 Gรวมจำนวน 3 คัน มูลค่า 4,500,000 บาท
"แคมเปญนี่น่าจะได้รับความสนใจ เพราะคิดว่าออกมาในช่วงเวลาที่เหมาะสมคือท้ายปี และอาจกลายเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้โชคดี ถือเป็นของแถมไปในตัว ซึ่งผลตอบรับก็มากเกินกว่าที่คิด จากเป้าหมายที่วางไว้แค่ 10,000 ล้านบาท ยอดกับทะลุเป้าถึง 25,000 ล้านบาท"
วรวิทย์ บอกว่า ก็อย่างที่เล่า สลากออมสินมีสิทธิลุ้นรางวัล ครบกำหนดได้เงินต้นคืนพร้อมผลตอบแทนที่กำหนดไว้ ส่วนรถยนต์ คัมรี คือของขวัญปีใหม่ที่แถมให้....
ของขวัญที่แถมให้นี่เองที่สร้างสีสันและกระแสคึกคักต่อวงการธุรกิจการเงิน อันรวมไปถึงเจ้าของสัญลักษณ์ "สีบานเย็น"อย่างแบงก์ออมสิน เสมือนการรุกฆาตที่มาเหนือเมฆ
อาจกล่าวได้ว่ากลยุทธ์ทางการตลาดครั้งนี้ดีเกินคาด ไม่เพียงความสำเร็จจากการระดมเงินเข้าแบงก์ หากแต่ยังตอกย้ำในแบรนด์ที่สื่อถึงความทันสมัย ไม่เก่าคร่ำครึเหมือนอดีตที่ผ่านมา
วรวิทย์ เล่าให้ฟังอีกว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้แข่งขันเพื่อแย่งชิงเงินฝากจากใคร แต่เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า และเม็ดเงินไม่ให้อพยพไปแบงก์อื่นที่มีลูกเล่นในการดึงเงินเช่นกัน
เหตุที่เลือก รถยนต์ โตโยต้า นิว คัมรี รุ่น 2.4 G... เพราะต้องการสร้างความฮือฮาให้ตลาด
วรวิทย์ ยังเล่าอีกด้วยว่า "ผมอาจยึดตัวเองเป็นหลักด้วย วันหนึ่งผมเดินไปดูรถยนต์รุ่นนี้ ขนาดคนอย่างผมมีรถยังอยากได้เลย และทำไมคนอื่นจะไม่อยากได้บ้าง" จากความรู้สึกในครั้งนั้นเป็นการจุดประกายมาสู่โครงการนี้ แต่ วรวิทย์ ยืนยันว่า ไม่ใช่เพราะผมคนเดียว หากถ้าไม่มีทีมงานโครงการ "สลากออมสินพิเศษ เงินฝาก...คุ้มแล้ว...คุ้มอีก" ก็คงเกิดขึ้นไม่ได้
เพราะนอกจากที่จะต้องใช้แนวคิดที่แปลกและแตกต่างแล้วต้องอาศัยข้อมูลจากบริษัทวิจัยช่วยศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วยว่าอะไรคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ นั่นเพราะลูกค้าแต่ละกลุ่มจะมีความต้องการของตัวเองที่แตกต่างกันไป
ปัจจุบันสลากพิเศษงวด 32 มีเงือนไขไม่ต่างไปจากเดิมยกเว้นของแถมรางวัลใหญ่ รถยนต์ โตโยต้า นิว คัมรี รุ่น 2.4 G กล่าวคือ สลากออมสิน งวดที่ 32 รางวัลที่ 1 มูลค่ารางวัลละ 10 ล้านบาท 2 รางวัล รางวัลพิเศษ มูลค่า 1 ล้านบาท ฝากครบอายุรับเงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 4.25 บาท โดยการซื้อ 1 หน่วยจะมีราคา 50 บาท ฝากครบ 1 เดือนมีสิทธิ์ถูกรางวัล ตลอดอายุการฝาก 3 ปี มีสิทธิ์ถูกรางวัล 35 ครั้ง
ส่วน เงื่อนไขการถอนคืน หากฝากครบ 3 ปีรับเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 54.25 บาท ถ้าฝากไม่ครบ 1 ปี รับเงินคืนหน่วยละ 48 บาท ฝากครบ 1 ปีแต่ไม่ครบ 2 ปีรับเงินคืนหน่วยละ 48.50 บาท และฝากครบ 2 ปีแต่ไม่ครบ 3 ปีรับเงินคืนหน่วยละ 49 บาท
ปรากฏการณ์ "สีบานเย็นพิฆาต"แผ่ขยายไปทั่วทุกอณูพื้นที่...ด้วยยุทธศาสตร์การเข้าโจมตีที่ตรงเป้าหมายได้อย่างเหนือชั้น...สำหรับโครงการ "สลากออมสินพิเศษ เงินฝาก...คุ้มแล้ว...คุ้มอีก" ด้วยยอดจำหน่ายทะลุเป้า....
ได้ทั้งรักษาฐานลูกค้าแถมยังได้เงินออมไหลมาจากแหล่งอื่น สร้างภาพลักษณ์ "สีบานเย็น"ที่เจ้าของต้นคิดก็ยังคาดไม่ถึง
|
|
|
|
|