การยิงสปอร์ตโฆษณาผ่านสื่อทีวีของสายการบินต้นทุนต่ำไทยแอร์เอเชีย อยู่บ่อยครั้งในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “อะเมซิ่ง ไทยแอร์เอเชีย” กำลังบ่งบอกถึงมิติใหม่ของธุรกิจการบิน ที่ไม่เพียงแต่จะเน้นในเรื่องของราคาถูกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น...การสร้างอิมเมจด้านบริการถือเป็นหัวใจหลักที่กลุ่มไทยแอร์เอเชียพยายามหันมาหยิบยกให้เห็นภาพชัดเจนกันมากขึ้น

สองปีกว่ากับการลงทุนในธุรกิจการบินต้นทุนต่ำ ด้วยการแข่งขันโดยใช้เรื่องของตั๋วราคาถูกมาเป็นกลยุทธ์ ส่งผลให้ไทยแอร์เอเชีย มีจำนวนผู้โดยสารทะลุเป้าเกินกว่า 3 ล้านคนไปแล้ว...ถึงแม้จะประสบความสำเร็จก็ตาม แต่สายการบินโลว์คอสด้วยกันเองกลับไม่นิยมนำมาใช้กันเลย...เพราะมีแต่จะเข้าเนื้อขาดทุนไม่ก่อให้เกิดผลกำไร...แต่ ไทยแอร์เอเชีย กลับทำได้และมีผลกำไรอย่างต่อเนื่องส่งผลให้มีความจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์เรื่องของราคาต่อไปเพราะถือว่าเป็นกลยุทธ์รุ่นบุกเบิกเปิดตลาดใหม่ๆ

สอดคล้องกับกลยุทธ์ล่าสุดที่ไทยแอร์เอเชียกล้าออกมาแจกตั๋วเครื่องบินฟรี 1 ล้านที่นั่ง โดยใช้เส้นทางทั่วเอเชียกว่า 70 เส้นทาง สร้างความฮือฮาต่อวงการโลว์คอสแอร์ไลน์เมื่อต้นปี 2550 ที่ผ่านมา แม้ว่าจะแจกตั๋วฟรีแต่อย่าลืมว่าจำนวนลูกค้าที่ได้รับตั๋วฟรีไปจะต้องจ่ายค่าเซอร์ชาร์ทต่างๆด้วยตัวเองทั้งหมด...นับเป็นการเปิดตลาดด้วยกลยุทธ์ที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยแอร์เอเชีย จำกัด บอกว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะเป็นของขวัญปีใหม่ และหวังให้เกิดการตัดสินใจเดินทางมากขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยเพิ่มอัตราบรรทุกให้แก่แอร์เอเชียด้วย โดยในส่วนของไทยแอร์เอเชีย จะมีอัตราบรรทุกช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซัน) เฉลี่ย 85% ขณะที่นอกฤดูกาลท่องเที่ยวมีอัตราบรรทุกเฉลี่ย 75-76% โดยเฉลี่ยทั้งปีมีอัตราบรรทุก 81%

ส่งผลให้การดำเนินงานในรอบปี 2549 ที่ผ่านมาคาดว่าบริษัทจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3,400 ล้านบาท และมีผลกำไรมากกว่าปี48 เป็นจำนวนกว่า 100 ล้านบาททีเดียว

การเปิดกลยุทธ์แจกตั๋วฟรีถึง 1 ล้านใบครั้งนี้ของไทยแอร์เอเชีย ผู้ประกอบการด้านธุรกิจการบินมองว่า น่าจะเป็นอีกหนทางหนึ่งในการเพิ่มจำนวนผู้โดยสารให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพราะอย่าลืมว่าผู้โดยสารที่ได้ตั๋วฟรีจะไม่ได้เดินทางในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งการเดินทางในแต่ละไฟต์บินก็จะมีผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วในราคาปกติเช่นกัน

และเพื่อเป็นการกระตุ้นให้คนอยากเดินทางมากขึ้นการเพิ่มเส้นทางบินใหม่ๆของไทยแอร์เอเชียที่ขยายเส้นทางบินไปยัง ลังกาวี จึงเป็นยุทธวิธีที่หยิบนำมารวมไว้ในช่วงเวลาสถานการณ์แบบนี้

ขณะเดียวกันการเพิ่มจำนวนฝูงบินให้สอดคล้องกับเส้นทางบินที่ขยายออกไปจากเดิมที่มีจำนวนเที่ยวบิน 84 เที่ยวต่อวัน ก็จะเพิ่มเป็น 120 เที่ยวต่อวันในปี 2550 ขณะเดียวกันไทยแอร์เอเชีย กลับประกาศว่าจะมีจำนวนเครื่องบินแอร์บัสเอ 320 กว่า 40 ลำในระยะเวลาเพียง 5 ปีที่จะถึง ส่งผลให้การทำตลาดของไทยแอร์เอเชีย เน้นเรื่องของราคาถูกมาโดยตลอดต้องเริ่มปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ด้วยการสร้างอิมเมจมากขึ้น

การเลือกใช้ “อะเมซิ่ง ไทยแอร์เอเชีย”มาโปรโมทผ่านสื่อทางทีวีนับเป็นยุทธวิธีที่ ไทยแอร์เอเชีย กำลังพยายามลบภาพของสายการบินต้นทุนต่ำออกไป ถึงแม้ว่าเรื่องของราคาถูกจะยังคงใช้อยู่อย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อได้ว่าการสร้างภาพลักษณ์ที่หันมาเน้นเรื่องของการให้บริการทั้งบนเครื่องและบนพื้นดิน ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้โดยสารที่ต้องมีอยู่อย่างตลอดเวลาและต่อเนื่อง

ซึ่งจะเห็นได้ว่าภาพโฆษณาชิ้นนี้ที่ออกเผยแพร่ไม่มีการใช้คำว่า “เริ่มต้นที่ราคา...”เหมือนเมื่อครั้งเปิดตลาดใหม่ๆ...แต่เป็นการเน้นในเรื่องการรับรู้ของความเป็นแบรนด์สายการบินต้นทุนต่ำที่จะอยู่ในความทรงจำของผู้โดยสาร แต่แอบแฝงไปด้วยกลยุทธ์ราคาถูกที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย

ดังนั้นการออกมาประกาศตัวเองว่าจะเป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเครื่องบินประจำการใหม่ที่สุดในอีกภายใน 3-5 ปีข้างหน้า พร้อมกับขยายเส้นทางบินทั้งภายในประเทศและต่างประเทศให้มากที่สุด จึงน่าจะเป็นเพียงแค่จุดมุ่งหมายที่ไทยแอร์เอเชียวางไว้เพื่อรองรับกลุ่มจำนวนผู้โดยสารเท่านั้น

ขณะที่การปรับยุทธศาสตร์ใหม่ของไทยแอร์เอเชียครั้งนี้ กำลังถูกจับตามองจากสายการบินต้นทุนต่ำหลายแห่ง หลังจากที่มีการเคลื่อนไหวหันมาเน้นเรื่องของการสร้างแบรนด์อิมเมจมากกว่าที่จะนำเสนอเรื่องของราคาถูกเป็นหลัก แม้ว่าจะมีการโปรโมทเรื่องของการแจกตั๋วเครื่องบินฟรีก็ตาม ซึ่งจะประสบความสำเร็จหรือไม่?... เป็นเรื่องที่ท้าทายไม่น้อยและไทยแอร์เอเชียจะสามารถสานฝันให้ตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน...ต้องติดตาม...