Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 มกราคม 2550
เอลนินโย่พ่นพิษนมผงขาดตลาดผู้ค้าดิ้นต้นทุนพุ่งร้องรัฐขึ้นราคานม             
 


   
www resources

โฮมเพจ ซีพี-เมจิ

   
search resources

ไพศาล จงบัญญัติเจริญ
Dairy Product
ซีพี-เมจิ, บจก.




ซีพี-เมจิ ชี้ เอลนินโย่พ่นพิษตลาดนมผงขาดแคลนทั่วโลก 3 ยักษ์ใหญ่ผลิตลดลง กระทบราคาส่อเค้าขยับขึ้น เทรนด์ผู้ผลิตไทย-เทศแห่ร่วมทุนรับมือทะลวงตลาดข้ามภูมิภาค ด้านตลาดนมไทย 3 หมื่นล้านกระอัก ยูเอชทีรับศึกหนักแบกรับต้นทุนอ่วม ด้านตลาดไทยนมดิบโอกาสขาดแคลน-ปรับราคา ผู้ประกอบการเตรียมชงกรมการค้าภายในปรับราคานมขึ้น 1.50 บ.ต่อลิตร ซีพีเมจิอัดฉีด 600 ล้านบาท สู้ศึกตลาดเต็มรูปแบบ สิ้นปีโต 20% จากปืที่ผ่านมามีรายได้ 3,000 ล้านบาท

นายไพศาล จงบัญญัติเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมตราเมจิ เปิดเผยว่า ภาวะตลาดนมผงและนมดิบปีนี้มีแนวโน้มว่าจะขาดแคลน เนื่องจากผู้ผลิตนมผง 3 รายใหญ่ของโลก ได้แก่ อเมริกา ยุโรป ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ประสบกับปัญหาภาวะโลกร้อนกำลังการผลิตจึงลดลง โดยพบว่าราคานมผงทยอยปรับเพิ่มขึ้น ตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมาจาก 2,100 เหรียญฯ ต่อตันเป็น 3,200 เหรียญต่อตันในปัจจุบัน หรือเฉลี่ย 14 บาทต่อลิตร ภาวะดังกล่าวยังส่งผลต่อตลาดนมดิบภายในประเทศไทยที่จะขาดแคลน จากปัจจุบันเกษตรกรไทยผลิตได้ 1,500 ตัน ซึ่งมีแนวโน้มว่าภาครัฐต้องปรับราคานมดิบจากเกษตรกรเพิ่มขึ้นจาก 12.50 บาทลิตร เพิ่มเป็น 13.75 บาท ซึ่งล่าสุดนมดิบขยับราคาขึ้นแล้ว 12.75 บาท

สำหรับภาวะนมผง-นมดิบจะขาดแคลนในช่วง 2 ปีนี้ จะส่งผลกระทบต่อตลาดนมโดยรวมของประเทศไทยมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันผู้ประกอบการต้องนำเข้านมผงจากต่างประเทศ โดยเฉพาะนมยูเอชทีเป็นเซกเมนต์ที่ใช้นมผงนำเข้ามากที่สุดจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก รองลงมา คือ นมพาสเจอร์ไรส์ นับว่าเป็นเซกเมนต์ที่ใช้นมดิบเป็นวัตถุดิบมากที่สุด โดยมีแนวโน้มผู้ประกอบการนมจะเสนอให้กรมการค้าภายในปรับราคานมเพิ่มขึ้น ตามราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น 1.50 บาทต่อลิตร ซึ่งหากไม่มีการปรับราคาขึ้นผู้ประกอบการจะต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้การขาดแคลนนมผง ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ในอุตสาหกรรมนมร่วมทุนกันมากขึ้น ยกตัวอย่าง ดาน่อน ผู้ประกอบการนมรายใหญ่จากประเทศฝรั่งเศสร่วมทุนกับบริษัทดัชมิลล์ ประเทศไทย จัดตั้งบริษัทดาน่อน แดรี่ ประเทศไทย และบริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมตรามะลิได้ร่วมทุนกับบริษัทคัมพินา อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ผลิตนมภายใต้ยี่ห้อคัมพินา ยาซู โชคชัย อลาสก้า และอื่นๆ จากเนเธอร์แลนด์ จัดตั้งบริษัท ทีดีไอ คัมพินา จำกัด เพื่อร่วมมือกันทั้งทางการผลิต การตลาด และเครือข่ายการกระจายสินค้าขยายสู่ตลาดใหม่ๆ

ซีพีเมจิทุ่ม600ล.ขยายลงทุน

นายไพศาล กล่าวเพิ่มเติมว่าซีพี-เมจิ อยู่ในตลาดนมมากว่า 16-17 ปี ปีนี้นับว่าเป็นปีแรกที่ต้องประสบกับภาวะวัตถุดิบขาดแคลนขนาดนี้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ไม่ได้กังวลเรื่องวัตถุดิบที่ไม่เพียงพอ เพราะบริษัทได้ทำสัญญากับฟาร์มเกษตรกรนานหลายปี โดยมีนมดิบในสัดส่วน 900 ตัน พอที่จะผลิตได้นานถึงไตรมาสที่สามนี้ สำหรับการลงทุนปีนี้บริษัทวางไว้ 600 ล้านบาท แบ่งเป็นงบการตลาด 200 ล้านบาท และงบลงทุนเครื่องจักรใหม่ 100 ล้านบาท โดยแนวทางการตลาดจะมุ่งเน้น 4 เซกเมนต์หลัก ได้แก่ นมพาสเจอร์ไรส์เป็นสินค้าเรือธงหลักของบริษัท ซึ่งปัจจุบันครองส่วนแบ่งกว่า 50% จากตลาดมูลค่า 2,500 ล้านบาท ตามด้วยคัพ โยเกิร์ต นมเปรี้ยวแลตโตบาซิลัส และนมเปรี้ยวผสมน้ำผลไม้พร้อมดื่ม

สำหรับแผนการตลาดเปิดตัวสินค้าภายใต้นวัตกรรมใหม่ทุกไตรมาส โดยเฉพาะเน้นพัฒนานมมีแคลอรี่ต่ำหรือไม่มีแคลอรี่ ซึ่งเป็นเทรนด์ตลาดนมในปีนี้ลงสู่ตลาด อีกทั้งยังเน้นการทำโค มาร์เก็ตติ้ง คือ จับมือร่วมกับพันธมิตรเพิ่มขึ้น ซึ่งล่าสุดได้จับมือร่วมกับอาหารเช้าคอนเฟก เป็นต้น จากปัจจุบันมีพันธมิตรทั้งหมด 4 ราย ได้แก่ เซเว่น อีเลฟเว่น สตาร์บัคส์ ฯลฯ

ขณะเดียวกันปีนี้บริษัทจะสร้างช่องทางจำหน่ายเทรดิชันนัลเทรดเพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 35-40% โดยเตรียมเพิ่มตัวแทนจำหน่ายจาก 200 ราย เป็น 300 ราย และเพิ่มทีมขายตรงเป็น 3 ,000คน ส่วนตลาดต่างประเทศมีแผนขยายตลาดไปยังประเทศไต้หวัน ขณะที่ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซียได้เริ่มเข้าไปทำตลาดแล้วได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี คาดว่าปีนี้สัดส่วนรายได้จากการส่งออกเพิ่มจาก 10% เป็น 15% ทั้งนี้ภายในอีก 3 ปีข้างนี้หากซีพี-เมจิ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จะขยายโปรดักส์ไลน์ไปสู่เซกเมนต์อื่นๆ อาทิ นมถั่วเหลืองพาสเจอร์ไรส์ เป็นต้น

สำหรับตลาดนมโดยรวมมูลค่า 3 หมื่นล้านบาทปีนี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต10-12% โดยตลาดนมพาสเจอร์ไรส์มูลค่า 2,500 ล้านบาท คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 12% ส่วนตลาดคัพ โยเกิร์ต 3,000 ล้านบาท โตเกิน 20% ตลาดนมเปรี้ยวผสมผลไม้พร้อมดื่ม 1,200 ล้านบาท ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดนมถั่วเหลืองมูลค่า 7,000 ล้านบาท เป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตมากที่สุด ที่เหลือเป็นมูลค่าตลาดยูเอชที7,500 ล้านบาท ตลาดสเตอริไลน์มูลค่า 1,500 ล้านบาท และตลาดเครื่องดื่มช็อกโกแลตมูลค่า 2,500 ล้านบาท ทั้งนี้ผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 20% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยบริษัทมีรายได้ 3,000 ล้านบาท โดยซีพี-เมจิมีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 26% จากรายได้รวม   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us