Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 มกราคม 2550
ทุนใหม่ปั้นไรมอนแลนด์ยักษ์ใหญ่อสังหาฯ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ไรมอน แลนด์, บมจ.
Real Estate




นายทาลาล จัสซิม อัล-บาฮาร์ ประธานกรรมการผู้จัดการ กลุ่มโรงแรมและรีสอร์ท IFA HR เปิดเผยเป็นครั้งแรก ภายหลังที่ได้เข้ามาซื้อหุ้นจากกลุ่มไทเก้นในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ว่า การร่วมทุนกับบริษัทฯ เนื่องจากต้องการให้เป็นฐานะในการลงทุนของบริษัท ที่จะสามารถขยายฐานการลงทุนไปสู่ภูมิภาคเอเชียได้สะดวก

และง่ายขึ้น โดยประเทศไทยถือว่าเป้ฯระเทศที่มีฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี และจะสามารถขยายตัวได้ดีในอนาคต

ทั้งนี้ ทางกลุ่มไม่มีแผนที่จะลงทุนบริษัทอื่นในประเทศไทยเพิ่มในขณะนี้ หลังจากที่ได้เลือกลงทุนในบริษัทไรมอนแลนด์ฯไปแล้วประมาณ 24% เพราะมีเป้าหมายที่จะสร้างให้ไรมอนแลนด์ฯเป็นบริษัทอสังหาฯที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยทางกลุ่มคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในบริษัทประมาณ 30% ซึ่งไม่นับรวมการปรับเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น

นายไนเจิล เจ. คอร์นิค กรรมการผู้อำนวยการ กล่าวว่า ผู้ร่วมทุนจากตะวันออกกลาง ทั้ง2 ราย จะมีส่วนช่วยเสริมความแข็งแกรงด้านการเงินให้แก่บริษัท และสามารถขยายการลงทุนโครงการใหม่ๆ ขณะเดียวกันยังได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ๆในการก่อสร้าง และด้วยความแข็งแกร่งของชื่อเสียง(แบรนด์)ของผู้ร่วมทุน จะช่วยบริษัทมีฐานลูกค้าที่กว้างมากขึ้น เนื่องจากมีฐานลูกค้าที่ใหญ่ในตะวันออกลาง ยุโรป และสหรัฐอเมริกาฯ ทำให้เป็นผลดีต่อการทำตลาดของบริษัทอย่างมาก ทั้งนี้ ผู้ร่วมทุนทั้ง 2 กลุ่ม จะถือหุ้นในสัดส่วน 42% แต่ละบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 24.9 % มีมูลค่ารวมประมาณ 2,000 ล้านบาท และมีทางกลุ่มเข้ามานั่งในการบริหารงานในคณะกรรมการ 6 ที่นั่ง

อนึ่ง กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ มีประสบการณ์ด้านตลาดอสังหาฯระดับโลก ซึ่งกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ท IFA เป็นบริษัทที่ทำการพัฒนาโครงการที่พักอาศัย ,โรงแรม และรีสอร์ทระดับไฮเอนด์ เช่น มีการร่วมมือกับโรงแรมที่มีชื่อเสียงหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มโรงแรมสตาร์วูด (Starwood) กลุ่มโรงแรมแฟร์มงต์ โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท และกลุ่มโรงแรมโมเวนพิค โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท และถือเป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้ไรมอนแลนด์ได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มของการบริหารรีสอร์ทในจุดต่างๆของประเทศไทย

2-3ปีผุดโครงการใหญ่เกือบ3หมื่นล.

นายกิตติ ตั้งศรีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและจัดการ บริษัท ไรมอนแลนด์ฯ กล่าวว่า ผลในเชิงบวกต่อบริษัท จะทำให้ศักยภาพทางด้านการเงินเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทได้เตรียมแผนพัฒนาโครงการใหม่ในระยะ 2-3 ปี มูลค่าโครงการประมาณ 25,000-30,000 ล้านบาท โดยแหล่งเงินของการลงทุนมาจากรายได้ของโครงการที่เปิดขายในขณะนี้และที่กำลังเปิดขายในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะเข้าไปพัฒนาโครงกาในหัวหิน ,สมุย และกระบี่เพิ่ม ซึ่งการไปพัฒนาโครงการใหม่นี้ บริษัทจะนำแบรนด์ของผู้ร่วมทุนทั้ง 2 เข้ามาช่วยในการตลาดด้วย

สำหรับโครงการที่บริษัทได้ลงทุนพัฒนาไปแล้วในปี 2550 ประกอบด้วย "เดอะ ริเวอร์" เจ้าพระยา มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท และล่าสุดบริษัทได้ซื้อที่ดินในจ.ภูเก็ต จำนวน37 ไร่ใกล้กับอามันบุรีรีสอร์ท คาดว่าโครงการมีมูลค่าประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะลงทุนพัฒนาเป็นโรงการประเภทใด ส่วนที่ดินสถานทูตเขมร ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ

ในส่วนรายได้ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ จะมาจาก 3 โครงการที่เปิดขายคือ โครงการเดอะไฮท์ กะตะ มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ,โครงการ นอร์ท์พอยต์ พัทยา มูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท และโครงการเดอะ ล็อฟท์ เย็นอากาศ มูลค่าโครงการ 1,270 ล้านบาท ส่วนในปี2551 คาดว่าจะมีรายได้เติบโตกว่าปี 50ถึง 100% เนื่องจากจะมีโครงการใหม่ที่มูลค่าสูงๆ เปิดตัวอีกมาก อนึ่ง ในปี 2548 บริษัทสามารถขายทั้ง 3 โครงการที่กล่าวมาได้รวมประมาณ 3,000 ล้านบาท แต่รับรู้รายได้เพียง 100 ล้านบาทเท่านั้น และจะทยอยรับรู้รายได้ทั้ง 3,000 ล้านบาทในปี 2552 และในปี 50 คาดว่าจะสามารถขายได้อีก 5,000-6,000 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้หมดในปี 2553

ไม่หวั่นมาตรการรัฐเหตุเข้ามาถูกต้อง

นายทาลาล จัสซิม กล่าวเสริมถึงประเด็น ปัญหาการเมืองและมาตรการสำรองเงินทุนต่างประเทศ 30% และการแก้ไข พ.ร.บ. ประกอบธุรกิจคนต่างชาติ อาจทำให้สิทธิอำนาจในการบริหารลดลงไปนั้น คิดว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาฯในประเทศบ้าง แต่โดยส่วนตัวแล้วมองอนาคตมากกว่า ซึ่งเหตุผลที่เข้ามาลงทุนในไรมอนแลนด์ฯ เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพที่มีอยู่สูง สามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่บริษัทได้ดี

ด้านนาย ริชาร์ด จอห์นสัน กรรมการผู้จัดการ กลุ่ม อีสธมาร์ เรียลเอสเตท กล่าวว่า ปัญหาด้านการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ตนได้มีการศึกษาและหารือร่วมกับเพื่อนนักธุรกิจ และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์มาแล้ว และคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดเกิดนั้น หรือได้รับผลกระทบใด เนื่องจากการเข้ามาถือหุ้นของกลุ่มบริษัทนั้น ไม่ได้ซื้อจากตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่เป็นการซื้อจากบริษัทและผู้ถือหุ้นบริษัทโดยตรง

จึงไม่มีผลและได้รับผลกระทบจากการกันสำรองเงินทุนต่างประเทศ 30%

ส่วนปัญหาที่เกี่ยวกับอำนาจในการบริหารบริษัท เชื่อว่าไม่มีปัญหาในการบริหารเช่นกัน เนื่องจากการบริหารงาน หรือการลงมติจะเป็นไปตามคะแนนเสียงข้างมาก ยึดถืออำนาจตามกฎหมายเป็นหลัก คือการถือหุ้นของชาวต่างชาติไม่เกิน 49% และคนไทยถือหุ้นในสัดส่วน 51% เป็นอย่างต่ำ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us