บอร์ด "บางกอกแลนด์" อนุมัติปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ ขายศูนย์การแสดงสินค้า "อิมแพ็ค อารีน่า" ให้กับบริษัทย่อย "อิมแพ็ค" มูลค่ากว่า 9.2 พันล้านบาท แต่รับชำระเป็นหุ้นเพิ่มทุนทั้งจำนวนเพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นไว้ 99% ก่อนจะหาพันธมิตรร่วมทุนรายใหม่ และผลักดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย
นายอนันต์ กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BLAND กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทครั้งที่ 5/2550 ได้มีมติอนุมัติการดำเนินการต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของการกำกับดูแลกิจการที่ดีของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกอบด้วย การปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ และการแก้ไขข้อบังคับข้อที่ 25 เกี่ยวกับอำนาจการลงนามของกรรมการบริษัท
สำหรับประเด็นเรื่องการปรับโครงสร้างบริษัทใหม่นั้น คณะกรรมการได้อนุมัติให้จัดการรวมกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของบริษัทที่เกี่ยวกับศูนย์การประชุมและห้องจัดแสดงเข้าเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทในกลุ่มเพียงบริษัทเดียว คือ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด (อิมแพ็ค) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 100%
โดยบริษัทจะขายที่ดินและอาคารบางส่วน รวมถึงที่ดินที่บริษัทจะได้มาจากบริษัท บางกอก แอร์พอร์ต อินดัสตรี จำกัดในภายหลัง ให้แก่อิมแพ็ค ในราคารวมทั้งสิ้น 9,218,686,000 บาท (ราคาประเมินโดยบริษัท อเมริกัน แอ๊พเพรซัล (ประเทศไทย)) จากมูลค่าตามบัญชี 5,956 ล้านบาท (งบการเงิน 30 กันยายน 2549) ขณะที่อิมแพ็คชำระค่าทรัพย์สินด้วยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 92,186,860 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ในราคาหุ้นละ 100 บาท รวมมูลค่า 9,218,686,000 บาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการโอนขายที่ดินและอาคารดังกล่าว
ส่วนรายละเอียดทรัพย์สินประกอบด้วย อิมแพ็ค อารีนา และห้องจัดแสดง 1 ถึง 4 มูลค่า 2,875,000,000 บาท รวมถึงที่ดินที่เมืองทองธานี แจ้งวัฒนะ รวมทั้งสิ้น 264 ไร่ 1 งาน 28.10 ตารางวา ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องจัดแสดงของอิมแพ็ค มูลค่า 6,343,686,000 บาท รวมทั้งสิ้น 9,218,686,000 บาท
ทั้งนี้ บริษัทถือหุ้นอิมแพ็ค จำนวน 399,993 หุ้น และผู้ถือหุ้นรายอื่นอีก 7 ราย ถือหุ้นรายละ 1 หุ้น (หุ้นทั้งหมดของอิมแพ็คมีจำนวน 400,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท) ซึ่งอิมแพ็คจะเพิ่มทุนจาก 40 ล้านบาท เป็น 9,258,847,300 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 92,588,473 หุ้น ด้วยการออกหุ้นใหม่ 92,188,473 หุ้น เพื่อเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน โดยบริษัทจะจองซื้อหุ้นสามัญตามสิทธิที่ได้รับรวม 92,186,860 หุ้น
สำหรับแผนการดำเนินงานภายหลังจากการโอนขายที่ดินและอาคารเรียบร้อยแล้ว บริษัทจะดำเนินการจัดหาผู้ลงทุนซึ่งเป็นนักลงทุนระยาวเข้ามาลงทุนในอิมแพ็ค โดยจะเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนใหม่หรือซื้อหุ้นในส่วนที่บริษัทถืออยู่ แต่ทั้งนี้บริษัทจะยังคงสัดส่วนการถือหุ้นในอิมแพ็คไม่ต่ำกว่า 51% ของหุ้นทั้งหมดของอิมแพ็คหลังจากการเข้าลงทุนระยะยาวของผู้ลงทุนดังกล่าว หลังจากนั้นจะนำอิมแพ็คเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และจดทะเบียนหน่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ส่วนประเด็นการแก้ไขข้อบังคับที่ 25 นั้น อนุมัติให้แก้ไขเป็น กรรมการสองคนลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัทจึงจะผูกพันบริษัท โดยกรรมการผู้มีอำนาจประกอบด้วย กรรมการกลุ่ม ก. นายอนันต์ กาญจนพาสน์ ลงลายมือชื่อร่วมกับนายสาคร กาญจนพาสน์ หรือ นายซุยฮัง กาญจนพาสน์ หรือนายซุยพาง กาญจนพาสน์ หรือนายดิเรก มหาดำรงค์กุล หรือนายบุรินทร์ วงศ์สงวน หรือนายถวิล บุญเรืองขาว หรือนายวัฒนศักดิ์ สนิทวงศ์ฯ รวมเป็นสองคนและประทับตราสำคัญของบริษัท หรือ(ข) นายซุยฮัง กาญจนพาสน์ หรือนายซุยพาง กาญจนพาสน์ คนใดคนหนึ่งลงลายมือชื่อร่วมกับ นายสาครกาญจนพาสน์ หรือนายดิเรก มหาดำรงค์กุล หรือนายบุรินทร์ วงศ์สงวน หรือนายถวิล บุญเรืองขาว หรือนายวัฒนศักดิ์ สนิทวงศ์ฯ รวมเป็นสองคนและประทับตราสำคัญของบริษัท
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวบริษัทจะนำเสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณา โดยกำหนดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2550 ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา 11.00 น. ณ ห้องจูปิเตอร์ 11-13 อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ จังหวัดนนทบุรี และปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้นในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา 12.00 น. จนกว่าการประชุมดังกล่าวจะแล้วเสร็จ
|