Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 มกราคม 2550
สยามฟิวเจอร์ฯเล็งภูธรปีหน้าคาร์ฟูร์ร่วมผุดซูเปอร์มาร์เกต             
 


   
www resources

โฮมเพจ สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์

   
search resources

สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์, บมจ.
Shopping Centers and Department store
นพพร วิฑูรชาติ




สยามฟิวเจอร์ฯ ลงทุน 1,000ล้านบาท ผุด 5 สาขาใหม่ปีนี้ เผยได้พันธมิตรใหม่ กลุ่มคาร์ฟูร์ซุ่มผุดรูปแบบซูเปอร์มาร์เกต ที่ สาขาถนนสุขาภิบาล 1 พร้อมรุกภูธร คาดปีหน้าเห็นแน่มั่นใจปีนี้รายได้เติบโต 25%

นายนพพร วิฑูรชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (SF) ผู้พัฒนาและบริหารศูนย์การค้าแบบเปิดเป็นแห่งแรกของไทย เปิดเผยว่า ในปี 2550 นี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดโครงการศูนย์การค้าใหม่อีก 5 ศูนย์ฯ ด้วยกันคือที่ รัชโยธิน, เกษตร-นวมินทร์,เมอคิวรี่ ทาวเวอร์ ,สุขาภิบาล 1 และที่พัทยา โดยจะใช้งบลงทุนทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท

โดยสาขาที่ถนนสุขาภิบาล 1 นั้นจะมีพันธมิตรเข้ามาใหม่ คือ กลุ่มคาร์ฟูร์ ที่จะเปิดตัวซูเปอร์มาร์เกตกับบริษัทฯเป็นสาขาแรก และเป็นแห่งแรกของคาร์ฟูร์ในไทยในรูปแบบดังกล่าวนี้ด้วยย จากเดิมที่พันธมิตรค้าปลีกรายใหญ่ของบริษัทฯ จะมีเช่น สาขาวังหินและลาดพร้าว 120 เป็นเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส ส่วนสาขาฉะเชิงเทราและถนนเพชรเกษมจะเป็นบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์

ทั้งนี้แผนงานจากนี้ไปจะเปิดสาขาใหม่เฉลี่ย 5 แห่งต่อปี สำหรับพื้นที่ที่จะทำการเปิดศูนย์ฯนั้นก็จะพิจารณาจากทำเลสถานที่ตั้งก่อนเป็นอันดับแรก โดยดูจากภายในรัศมี 2 กิโลเมตร ถ้ามีครัวเรือนที่อยู่อาศัยเกิน 20,000 หลังขึ้นไป และมีคนอาศัยเกิน 50,000 คน ก็ถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพที่จะเปิด อีกทั้งยังดูจากการเดินทางที่สะดวก และเป็นศูนย์ที่สามารถเปิดอยู่ใจกลางเมือง ด้วย ซึ่งมี 2 รูปแบบหลักๆคือ ศูนย์การค้าชุมชน และศูนย์การค้าแบบไลฟ์สไตล์

โดยสามารถแกแยกออกมาได้เป็น 3แบรนด์ คือ เอสพลานาด จะมีพื้นที่ประมาณ 40,000-50,000 ตารางเมตร,ดิ อะเวนิว มีพื้นที่ประมาณ 25,000ตารางเมตร และอะเวนูมีพื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร โดยปัจจุบันบริษทฯ มีพื้นที่ให้เช่าและขายรวม 1.9แสนตารางเมตร และคาดว่าใน ปีนี้หลังจากการขยายสาขาใหม่แล้วจะมีพื้นที่รวมเพิ่มเป็น 2.74 หรือเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 44%

ส่วนทางด้านตลาดต่างจังหวัดนั้นก็มีโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนสูงมาก ขณะนี้กำลังดูพื้นที่และทำเลในการเปิดอยู่ โดยจะไปเปิดทั้ง 2 รูปแบบ คาดว่าในปี 2551 จะพัฒนาโครงการได้ สำหรับปีนี้ ทางบริษัทฯคาดมีอัตรารายได้เติบโตเพิ่ม 23-25% จากปีที่แล้ว ซึ่งรายได้ของปี 2549 อยู่ที่ 1,700 ล้านบาท ถือว่ามีอัตรารายได้เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ โดยมียอดความถี่ในการซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 10%

สำหรับปีนี้จากเรื่องผลกระทบทางการเมือง และเรื่องของสถานการณ์ความไม่มั่นคง ทางบริษัทฯได้รับผลกระทบพอสมควร ซึ่งอาจจะทำให้ผู้บริโภคลดลง แต่คงไม่มากนัก เนื่องจากศูนย์ฯของทางบริษัทฯ ขายสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ไม่ได้ขายของแฟชั่น น่าจะส่งผล
ที่ดีได้ในระยะยาว

นายนพพร กล่าวว่า บริษัทฯได้ส่งโครงการ เจ อะเวนู เข้าประกวดรางวัล ICSC International Design and Development Awards ครั้งที่ 30 และได้รับรางวัลในสาขาศูนย์การค้าขนาดเล็ก โดยมียอดคนเข้าศูนย์ฯกว่า 20,000คนต่อปี สร้างรายได้ให้กับศูนย์กว่า 200ล้านบาท ซึ่งเป็นรางวัลระดับโลกที่มีการแข่งขันสูง ต้องสู้กับศูนย์การค้าที่เข้าร่วมประกวดอีกกว่า 100ศูนย์จากทั่วโลก   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us