Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 มกราคม 2550
111โครงการอสังหาฯจ่อเปิดตัวปี50เอเจนซี่ฯชี้ปัจจัยหลักการเมือง-ศก.             
 


   
search resources

เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
โสภณ พรโชคชัย
Real Estate




ชำแหละตลาดที่อยู่อาศัยปี 50 "เอเจนซี่ฯ" ชี้ปี 49 มีสต๊อกเหลือขาย92,462 หน่วย คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 2 แสนล้านบาท ฟันธงปีนี้ หากการเมืองนิ่ง เศรษฐกิจไม่มีปัญหา 111 โครงการ พร้อมเปิดตัวการขายอย่างแน่นอน ประเมินจำนวนหน่วยขายอาจจะลดลงเทียบปี 49 ประมาณ 5% และมูลค่าลดลง 10% ชี้ บ้านเดี่ยวระดับราคา3-5 ล้านบาทยังมีความต้องการ ส่วน 1-3 ล้านบาท ไม่คุ้มค่ากับการลงทุนของผู้ประกอบการ

นายโสภณ พรโชคชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเจนซี่ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี2550 ว่า ตลอดช่วงปี 2549 มีโครงการอสังหาริมทรัพย์เกิดใหม่ทั้งหมด 70,444 หน่วย รวมมูลค่าสูงถึง 218,858 ล้านบาท โดยประเภทที่อยู่อาศัย จะมีการเปิดตัวมากที่สุดถึง 94% ของ โครงการที่เกิดขึ้นใหม่ในปี 49 หรือคิดเป็น 66,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวม 186,000 ล้านบาท และหากเทียบเป็นมูลค่า ก็เท่ากับ 85% ของมูลค่ารวมของการพัฒนาตลอดปีที่ผ่านมา

โดยในปัจจุบันที่อยู่อาศัยที่คงค้างอยู่ในระบบมีตัวเลขรวมถึง 92,462 หน่วย คิดเป็นมูลค่าขายรวมประมาณ 2 แสนกว่าล้านบาท โดยเป็นสต็อกที่อยู่อาศัยซึ่งเหลือขายยอดสะสมจากช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ รวมกับสต็อกที่อยู่อาศัยที่เหลือขายจากการเปิดตัวใหม่ในปี49 ที่มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในตลาดทั้งสิ้น 66,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่าขายรวมประมาณ 180,000 กว่าล้านบาท และสามารถระบายออกไปรวม 32,000 กว่าหน่วย

ทั้งนี้ ในส่วนของสต็อกบ้านที่เหลือขายสะสม 92,462 หน่วยดังกล่าว สามารถแบ่งออกเป็นประเภทบ้านเดี่ยว 37,000 หน่วย ,บ้านแฝด 9,100 หน่วย ทาวน์เฮาส์ 22,000 หน่วย อาคารชุด 24,500 หน่วย และอาคารพาณิชย์ 2,400 หน่วย

ส่วนสต็อกบ้านที่เหลือขายจากการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2549 มีจำนวนทั้งสิ้น 40,105 หน่วย ในสต๊อกทั้งหมด แยกเป็น บ้านเดี่ยว 9,300 หน่วย ,บ้านแฝด 1,967 หน่วย อาคารชุด 9,952 หน่วย และอาคารพาณิชย์ 886 หน่วย

สำหรับในส่วนของราคาขายของทรัพย์สินในปี49 ที่ผ่านมาพบว่า มีโครงการประมาณ 15%

ที่ราคาขายขยับตัวสูงขึ้น ส่วนที่ลดลงมีประมาณ 20% และในส่วนของทรัพย์สินที่มีราคาคงที่มีอยู่ 64% ซึ่งเมื่อคิดเฉลี่ยอัตราการปรับตัวขึ้นลงของราคาขายทรัพย์สินในตลาดโดยรวมแล้ว พบว่า มีอัตราการปรับตัวของราคาทรัพย์สินขึ้นเฉลี่ยประมาณ 1% ซึ่งถือว่าในปี2549 ราคาทรัพย์สินมีความผันผวนพอสมควร เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดีนัก จึงจะส่งผลให้ภาคอสังหาฯชะลอตัวไปบ้าง

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงราคาของบ้านหลังเดิม จากตัวอย่างการสำรวจพบว่า ราคาบ้านเพิ่มขึ้นไม่มากนัก ทรัพย์สินที่ราคาบ้านเพิ่มขึ้นน้อยสุดก็คือห้องชุดพักอาศัยราคาถูก ซึ่งมีมูลค่าลดลงมากที่สุด และการฟื้นตัวช้าที่สุด ซึ่งได้รับผลบวกจากซับพลายส่วนเกินในช่วงที่ผ่านมา ในทางตรงกันข้ามเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดอสังหาในสหรัฐฯแล้ว ราคาบ้านเพิ่มขึ้นถึง 12% ในปี 2548 และ 7.7% ในปี 2549 ถือว่าระดับการปรับตัวของราคาทรัพย์สินในประเทศไท ยังมีระดับที่ต่ำอยู่

111โครงการจ่อเปิดตัวปัญหาปท.ไม่รุนแรง

นายโสภณกล่าวว่า ในปี2550 นี้ จากการสำรวจจำนวนโครงการที่คาดว่าจะเปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 1-3 ของปี มีโครงการที่รอเปิดตัวอยู่ทั้งสิ้น 111 โครงการ แบ่งออกเป็นโครงการประเภทบ้านเดี่ยว 38 โครงการ, โครงการบ้านแฝด 1 โครงการ โครงกรทาวน์เฮาส์ 19 โครงการ และโครงการอาคารชุด หรือ โครงการคอนโดมิเนียม 53 โครงการ

" หากโครงการทั้งหมด มีการเปิดขายทั้งหมดจริงตามที่มีการแถลงข่าวในปีที่ผ่านมา จะทำให้มีที่อยู่อาศัยใหม่ที่เปิดขายในตลาดปี50 รวม 60,000 กว่าหน่วย หรือมียอดการเปิดตัวที่อยู่อาศัยโครงการใหม่ใกล้เคียงกับปี2549" นายโสภณกล่าว

ทั้งนี้ สาเหตุที่มีการชะลอการเปิดตัวออกไปของผู้ประกอบการโครงการทั้ง111 โครงการดังกล่าว เนื่องจากสาเหตุการณ์ลอบวางระเบิดกลางเมือง ส่งผลให้ผู้ประกอบการต่างก็ชะลอดูทิศทางของเศรษฐกิจและภาวะการเมือง รวมถึงสถานการณ์ด้านความปลอดภัย และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในตลาดจะกลับมาในช่วงใด และคาดว่า หากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นจากนี้ไป ผู้ประกอบการจะเริ่มทยอยการเปิดตัวโครงการที่มีการชะลอไว้

ซึ่งจากภาวะการเปิดตัวโครงการดังกล่าว คาดว่าตลาดที่อยู่อาศัยจะมีจำนวนหน่วยขายลดลงจากปี49ประมาณ 5% ส่วนด้านมูลค่าจะลดลงประมาณ 10% โดยจำนวนหน่วยและมูลค่ารวมที่ประมาณการไว้ คือ จำนวน 62,812 หน่วย มูลค่า168,197 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หากเกิดภาวะวุ่นวายทางการเมืองจนเศรษฐกิจถดถอย แนวโน้มข้างหน้าจะแย่ลงกว่าในปัจจุบัน

ตลาดบ้านเดี่ยว3-5 ล.ลูกค้ายังนิยม

ทั้งนี้ จากการศึกษาถึงแนวโน้มการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มที่อยู่อาศัยที่คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี ในปี50นี้ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาท ,ห้องขุดราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ,ห้องชุดราคา 1-2 ล้านบาท และห้องชุดราคา 3-5 ล้านบาท

ส่วนกลุ่มที่อยู่อาศัยที่คาดว่าจะมีอัตราการพัฒนาต่อเนื่องในปีนี้ ประกอบด้วย ทาวน์เฮาส์ราคาต่ำ1.0 ล้านบาท,ทาวน์เฮาส์ราคา 1-2 ล้านบาท, ทาวน์เฮาส์ราคา 2-3 ล้านบาท และ ทาวน์เฮาส์ราคา 3-5 ล้านบาท

ขณะที่ กลุ่มที่คาดว่าจะหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัดก็คือบ้านเดี่ยวราคา 1-3 ล้านบาท เนื่องจากราคาขายลดลงต่ำเกินกว่าที่จะสร้างรายได้ และบ้านเดี่ยวราคาเกินกว่า 5 ล้านบาทขึ้นไป เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคยังชะลอตัวอยู่   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us