|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เอเชียโฮเต็ล กลับเข้าเทรดวันแรกพุ่ง 443% โบรกฯแนะเลี่ยงลงทุนระบุราคาพุ่งเกินราคาตามพื้นฐาน บล.กรุงศรีฯให้ราคาเหมาะสม 18.50 บาท เผยยังประเมินแนวโน้มการเติบโตได้ยาก ขณะที่บล.นครหลวงคาดจะไม่มีการจ่ายปันผลในปี 2550 –2552 และมีความเป็นไปได้ที่บริษัทอาจต้องล้างขาดทุนสะสมด้วยการลดพาร์
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท เอเชียโฮเต็ล จำกัด (มหาชน) หรือ ASIA ภายหลังจากที่ตลาดลหัทรัพย์แห่งประเทศไทยปลดเครื่องหมาย SP (Suspension) และ NC (Non-Compliance) และอนุญาตให้กลับมาซื้อขาย ในหมวดธุรกิจการท่องเที่ยวและสันทนาการ (กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ) นับเป็นบริษัทแรกของปี 50ที่ได้รับการอนุมัติให้ย้ายกลับเข้ามาซื้อขายจากหมวดที่ถูกห้ามซื้อขาย
ทั้งนี้ราคาหุ้นวานนี้ (22 ม.ค) ซึ่งเป็นวันแรกที่กลับเข้ามาซื้อขายราคาปิดที่ 25 บาท เพิ่มขึ้น 20.40 บาท หรือ 443.48% โดยราคาสูงสุดของวันอยู่ที่ 27 บาทและราคาต่ำสุดอยู่ที่ 4.60 บาท มูลค่าการซื้อขาย 26.56 ล้านบาท
บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา จำกัด ไม่แนะนำให้ลงทุน ให้ราคาเหมาะสมที่ 18.50 บาท โดยระบุว่าเนื่องจากบริษัทได้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้เกิน 75% มีส่วนทุนเป็นบวก และมีผลดำเนินงานกำไรสุทธิติดต่อกัน 3 ไตรมาสตามเกณฑ์ ทั้งนี้บริษัทได้ผ่านกระบวนการปรับปรุงหนี้อย่างเป็นสาระสำคัญจากการประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ และปรับโครงสร้างของผู้ถือหุ้นใหม่ในบริษัทย่อย และปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ แม้ว่าจะทำให้มีมูลหนี้ลดลงและผลประกอบการดีขึ้น
ทั้งนี้บริษัทมองว่ากระบวนการปรับโครงสร้างดังกล่าวยังถือว่าไม่เบ็ดเสร็จ เนื่องจากสาระของส่วนทุนที่กลับมาเป็นบวกนั้นเกิดจากการกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ในปี 48 ถึง 1,517 ล้านบาท อย่างเป็นนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับส่วนทุนที่เป็นบวก 841 ล้านบาทในปีเดียวกัน ซึ่งเราคาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทยังจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างทุนหรือสินทรัพย์ต่อไป เช่น การลดทุนด้วยพาร์เพื่อล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 1,105 ล้านบาท (30 ก.ย. 49) และ/หรือ เพิ่มทุนใหม่ตามมา นอกจากเหนือจากธุรกิจเดิมและปัจจุบัน 3 พอร์ตโรงแรมและ 1 ศูนย์การค้า (เซียร์รังสิต) แผนการดำเนินธุระกิจต่อไปในอนาคตยังไม่เกิดเป็นที่ชัดเจน เราประเมินว่าผลประกอบการของบริษัทจะยังมีความไม่แน่นอนถึงอัตราการเติบโต ไม่แนะนำให้ลงทุน
นางสาวธาริสา ชัยสุนทรโยธิน ผู้อำนวยการอาวุโส บล.นครหลวงไทย แนะ"ขาย" หุ้น ASIA แม้ว่าบริษัทจะได้รับผลบวกจากการที่ต้นทุนลดลง จากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ประหยัดไปประมาณ 400 ล้านบาทต่อปี แต่ยังมีภาระหนี้ที่ค่อนข้างสูง ประกอบกับบริษัทเองตัวสินทรัพย์ที่มีอยู่เดิม 4 แห่ง อาจจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ในอัตราที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย
ทั้งนี้ โรงแรมที่บริษัทมีอยู่ถือว่าค่อนข้างเก่า ทั้งโรงแรมเอเชียที่ กทม.และในต่างจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวดูแล้วไม่สามารถที่จะดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาได้ ขณะที่โรงแรมเอเชียในกทม.ก็เป็นแค่ 4 ดาว ส่วนโรงแรมเอเชียพัทยาก็อยู่ในระดับกลาง
สำหรับราคาเหมาะสมบริษัทประเมินอยู่ที่ 23.00 บาท จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ ASIA โดยวิธี Discounted CashFlow โดยมีสมมุติฐานของ WACC ที่ 16% และ Terminal Growth Rate ที่ 3% ละเนื่องจาก ASIA ยังคงมีการบันทึกขาดทุนสะสมอยู่ 1,100 ล้านบาท SCIBS ประเมินว่าจะไม่มีการจ่ายปันผลในปี 2550 –2552 และในอนาคต ASIA อาจจะต้องทำการล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่โดยการลดพาร์ จากราคาพาร์ที่10 บาท SCIBS จึงแนะนำ “ขาย
|
|
|
|
|