Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 มกราคม 2550
โบรกเกอร์แนะซื้อหุ้น"ปูนใหญ่"ปันผลสูงสวนทางกำไรสุทธิลด             
 


   
www resources

โฮมเพจ เครือซิเมนต์ไทย

   
search resources

ปูนซิเมนต์ไทย, บมจ.
Investment




โบรกเกอร์ แนะลงทุนซื้อหุ้น "ปูนใหญ่" สวนทางผลการดำเนินงานปี 50 ที่ชะลอตัวลดลง เหตุอัตราผลตอบแทนรูปเงินปันผลยังสูงในอัตราหุ้นละ 15 บาท บล.โกลเบล็ก ให้ราคาเหมาะสมที่หุ้นละ 287 บาท และบล.ฟิลลิป ให้ที่ราคา 242 บาท ขณะที่ราคาบนกระดานล่าสุด ปิดที่ 234 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด ประเมินฐานะการดำเนินงานของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ว่า ในไตรมาส 4 ปี 2549 คาดว่า SCC จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,770 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3 ปี 2549 ประมาณ 24% โดยเป็นผลมาจากการชะลอตัวในทั้ง 3 ธุรกิจ แต่ที่ชัดเจนสุด ธุรกิจปิโตรเคมีที่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ราคาขายซึ่งส่วนใหญ่จะอิงกับเงินดอลลาร์ มีจำนวนลดลง บวกกับส่วนต่างระหว่าง ราคาขายกับวัตถุดิบแคบลง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีการบันทึกขาดทุนจากรายการพิเศษสุทธิประมาณ 1,100 ล้านบาท และบันทึกการขาดทุนจากสินค้าคงเหลือในส่วนของปิโตรเคมีประมาณ 700-800 ล้านบาทด้วย

จากแนวโน้มที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากในไตรมาส 4 แต่หากพิจารณาผลการดำเนินงานทั้งปี 2549 คาดว่าจะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติประมาณ 32,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.5% แต่ต่ำกว่าประมาณการของคาดการณ์ไว้ที่ 32,953 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิคาดจะอยู่ประมาณ 30,000 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ เนื่องจากมีการรวมกำไรจากรายการพิเศษบางรายการ

"โดยรวมแล้วผลงานไม่น่าจะผิดความคาดหมายมากนัก ดังนั้นเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญกับราคาหุ้น ซึ่งนอกเหนือจากประกาศงบแล้ว ยังคาดว่า SCC จะประกาศจ่ายปันผลพร้อมกันประมาณหุ้นละ 7.50 บาทด้วย ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้เช่นกัน"

แนวโน้มปี 50 กำไรชะลอตัว

สำหรับแนวโน้มปี 2550 นั้น ผลประกอบการโดยรวมจะยังขึ้นอยู่กับผลประกอบการของธุรกิจปิโตรเคมีเป็นสำคัญ ขณะที่ธุรกิจปูนซีเมนต์และกระดาษคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยธุรกิจปิโตรเคมี คาดว่าอัตรากำไรจะชะลอตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลกดดันจากแนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์ที่จะทยอยปรับตัวลง ตามทิศทางของวัตถุดิบหลักอย่างแนฟทา บวกกับ อัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้นซึ่งส่งผลให้รายรับในรูปเงินบาทลดลง

ขณะเดียวกัน บริษัทย่อย ROC จะเสียภาษีเพิ่มขึ้นจาก 0% เป็น 15% หลังจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีหมดลง ดังนั้น เราคาดว่าผลประกอบการโดยรวมของกลุ่มปิโตรเคมีจะชะลอตัว และจะดึงให้กำไรโดยรวมลดลงเมื่อเทียบกับปี 2549 โดยเราประเมินกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 30,080 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนประมาณ 6%-7%

เหมาะลงทุนระยะยาวรับปันผล

"ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ PER 9.26 เท่า จากกำไรในปี 2550 ของเรา และใกล้เคียงกับ ระดับ Historical P/E ในอดีตที่ระดับ 8-10 เท่า บวกกับแนวโน้มผลประกอบการที่คาดจะชะลอตัวลงในปี 50 ทำให้ดูมีความเสี่ยงมากขึ้น"

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงศักยภาพทางการแข่งขัน ฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ปันผลจ่ายแน่นอนอัตราผลตอบแทนประมาณ 6.4%/ปี (คำนวณที่ราคาซื้อขาย 234 บาท/หุ้น) เรามองว่า SCC ยังคงน่าสนใจลงทุนในระยะสั้น ขณะที่ระยะยาว นักลงทุนที่จะเข้าลงทุนเพื่อรับปันผล และรอผลจากการขยายการลงทุนที่จะทยอยรับรู้ในอนาคต โดยเราประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี DCF ที่ WACC 10.5%ได้ราคาเหมาะสมระยะยาวที่ 287 บาท/หุ้น แนะนำซื้อลงทุน

Q4 กำไรเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.66%

ด้านบล.ฟิลลิป คาดว่า ไตรมาส 4 ปี 2549 SCC จะมีผลการดำเนินงานลดลงจากไตรมาส 3 ปี 2549 ประมาณ 30% แต่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี่ก่อนประมาณ 3% จากการบันทึกรายการพิเศษจากการตั้งสำรองเงินทุนใน Thai CRT จำนวน 2.7 พันล้านบาท และบันทึกกำไรจากขายเงินทุน Siam United Steel (SUS) จำนวน 1.6 พันล้านบาท รวมเป็นขาดทุนจากรายการพิเศษจำนวน 1.1 พันล้านบาท หรือมีกำไรก่อนรายการพิเศษอยู่ที่ 6,389 ล้านบาท ลดลง 25% จากไตรมาส 3 ปี 2549 แต่เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 25%

พร้อมกันนี้ ได้ประมาณการกำไรก่อนรายการพิเศษและกำไรสุทธิปี 49 ที่ 30,344 ล้านบาท หรือ 25.29 บาทต่อหุ้น และ 30,065 ล้านบาท หรือ 25.05 บาทต่อหุ้น และคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 15 บาท จากการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครึ่งปีแรกไปแล้ว 7.50 บาทต่อหุ้น

แนวโน้มกำไรปีนี้ลดลง 4%

สำหรับภาพรวมการดำเนินงานในปี 2550 นี้ คาดว่าจะปรับตัวลดลงจากปี 2549 เล็กน้อย โดยคาดหมายกำไรก่อนรายการพิเศษและกำไรสุทธิอยู่ที่ 29,158 ล้านบาท หรือหุ้นละ 24.30 บาท และ 29,158 ล้านบาท หรือหุ้นละ 24.30 บาท ลดลง 4% จากปี 2549 รวมทั้งคาดการอัตราการจ่ายเงินปันผลอยู่ที่หุ้นละ 15 บาทเท่าเดิม

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเติบโตของกำไรที่ไม่โดดเด่นในปี 2550 ราคาหุ้น SCC ล่าสุดราคาซื้อขายในระดับ P/E ที่ไม่สูงเพียง 8-9 เท่า ขณะที่ Dividend Yield ของหุ้นที่สูงกว่า 6% ดังนั้นจึงแนะนำให้ซื้อ

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้นวานนี้ (19 ม.ค.) ราคาหุ้น SCC ไม่ค่อยคึกคักมากนัก โดยปรับตัวขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ 236 บาท ต่ำสุดที่ 232 บาท ก่อนจะปิดที่ระดับเดียวกับราคาปิดครั้งก่อนหุ้นละ 234 บาท มูลค่าการซื้อขายรวม 201.87 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us