|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ปีหมู ยุคยากเข็นของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ “โมเดอร์นฟอร์มฯ”รับจัดสรรชะลอพัฒนาคอนโดมิเนียมและสำนักงาน กระทบยอดขายตลาดรวม คาดปี50 ตลาดออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ขยายตัว10-12% ลดจากประมาณการเดิม 15% ส่วนเฟอร์นิเจอร์เจาะตลาดคอนโดฯ คาดได้รับผลกระทบระยะ 1-2ปีข้างหน้า เหตุโครงการคอนโดฯใหม่ช่วงนี้ลดลลง งัดกลยุทธ์สู้ตลาดชะลอ เปิดทีมเจาะตลาดสำนักปรับปรุงใหม่ (Improvement) "กิจจา"บิ๊กอินเด็กซ์ฯ ยันตลาดคอนโดฯชะลอไม่กระทบยอดขาย เหตุมีสต็อกล่วงหน้าโครงการที่เปิดตัวช่วง1-2ปีที่ผ่านมาในมือแล้ว
นายพัฒนะ อุษณาจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงตลาดออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ ว่า จากผลกระทบการออกมาตรการกันเงินสำรอง30% ของเงินทุนต่างประเทศ และการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ส่งผลให้เกิดการชะลอการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ และการขยายพื้นที่ตลาดสำนักงานนั้น ยอมรับทำให้เกิดผลกระทบต่อยอดขายในตลาดออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ในประเทศบ้าง โดยคาดว่าจะทำให้อัตราการขยายตัวในตลาดเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศลดลงจากเดิม 2-3% จากปี2549 หรือมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 10-12% จากเดิมประมาณการว่าในปี2550 นี้ อัตราการขยายตัวของตลาดออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ จะขยายตัวประมาณ 15%
ทั้งนี้ ในส่วนของผลกระทบที่เกิดขึ้นจะมาจากการชะลอการเพิ่มพื้นที่ออฟฟิศ หรือสำนักงานที่ลดลง โดยเฉพาะในส่วนของการขยายออฟฟิศของบริษัทจากต่างประเทศ ในบางบริษัทที่มีแผนจะเข้ามาลงทุนเปิดบริษัทในประเทศไทย แต่ในส่วนของบริษัทที่มีการลงทุนไปแล้วนั้น คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ หรือมีการชะลอการเปิดตัวออกไป อาทิ กลุ่มลูกค้าของบริษัท ซึ่งมีการเจรจาและตกลงทำสัญญากันแล้ว อาทิ ผู้ประกอบการรถยนต์ค่ายเบนซ์ ,โตโยต้าและฟอร์ด เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีบางบริษัทชะลอการลงทุนออกไป แต่ในส่วนของหน่วยงานที่จะมีการดำเนินการต่อเนื่องในการขยายพื้นที่สำนักงานคือ กลุ่มหน่วยงานราชการ ,สถาบันการเงิน ,ธุรกิจไฟแนนช์ และกลุ่มธุรกิจพลังงานที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย และโรงพยาบาล ทั้งนี้ ในส่วนบริษัทที่มีการชะลอการลงทุนนั้น คาดว่าหากไม่มีเหตุการณ์ที่กระทบต่อเศรษฐกิจ หรือตลาดแรงๆ คาดว่า เมื่อสถานการณ์ชัดเจนขึ้นก็จะกลับเข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น
นายพัฒนะ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทได้มีการเปิดตัวแผนกใหม่ขึ้นมา เพื่อดูแลด้านการบริการลูกค้ากลุ่มตลาดออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ หรือทีมบริการด้านการปรับปรุงสำนักงานใหม่ ซึ่งทีมดังกล่าวนี้จะเข้าไปให้บริการด้านการตกแต่ง และการปรับปรุงออฟฟิศใหม่ ซึ่งจะปรับปรุงเฉพาะพื้นที่บางส่วนของสำนักงาน
“ ทีมใหม่ที่ตั้งขึ้น จะเข้าไปรับผิดชอบในการให้บริการตกแต่งออฟฟิศให้แก่ลูกค้า ที่มีการขยายเพิ่มพื้นที่ออฟฟิศใหม่ หรือต้องการปรับปรุงพื้นที่สำนักงานใหม่ อาทิการทุบผนัง ปูพรม เพิ่มเฟอร์นิเจอร์ ในแต่ละแผนกของสำนักงานแต่ละบริษัท ซึ่งแผนกดังกล่าวนี้จะเข้ามาสร้างรายได้ให้ในอนาคต โดยในเบื้องต้นนี้ ประมาณการว่าจะมีรายได้จากการปรับปรุง ต่อเดือนประมาณ 2ล้านบาท” นายพัฒนะกล่าวและชี้ว่า
ในส่วนผลกระทบของการชะลอการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ที่คาดว่าในปี2550 จะมีการเปิดตัวเพิ่มขึ้นจำนวนมาก แต่หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากการวางระเบิดกลางเมือง ทำให้ผู้ประกอบการคอนโดมิเนียมที่เตรียมจะพัฒนาโครงการใหม่ มีการชะลอการพัฒนาโครงการออกไปนั้น เชื่อว่าในปีนี้ ผลกระทบดังกล่าวจะยังไม่ส่งผลถึงธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจาก ยังมีโครงการเดิมที่มีการก่อสร้างไปแล้วในช่วง1-2 ปีที่ผ่านมา ที่มีการเซ็นสัญญาซื้อขายไว้ล่วงหน้าแล้วนั้น ยังคงมีการซื้อขายเฟอร์นิเจอร์เข้าโครงการอยู่
ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการที่กำลังเตรียมขึ้นโครงการใหม่ แต่มีการชะลอการพัฒนาโครงการออกไป เชื่อว่าจะมีอยู่ในบางส่วน และอาจจะส่งผลกระทบต่อยอดขายในระยะ1-2 ปีข้างหน้าของผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์บ้างแต่ก็คงไม่มาก เนื่องจากหลังจากนี้หากสถานการณ์ต่างๆ ชัดเจน โครงการที่ชะลอแผนการก่อสร้างออกไปก็จะกลับมาดำเนินการก่อสร้างโครงการหรือเปิดตัวโครงการใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นในปี 2550 เชื่อว่ายอดขายของผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ คงจะยังไม่ได้รับผลกระทบจาการชะลอการพัฒนาโครงการคอนโดฯออกไป
ด้านนายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด กล่าวว่า สำหรับผลกระทบจากการชะลอโครงการคอนโดมิเนียมนั้น จะไม่กระทบต่อตลาดเฟอร์นิเจอร์ เพราะบริษัทมีสต๊อกล่วงหน้ากับโครงการที่มีการพัฒนาโครงการไปแล้วเมื่อ1-2ปีก่อนหน้านี้ ส่วนการชะลอการพัฒนาโครงการใหม่นั้น เชื่อว่าอาจจะมีการชะลอการพัฒนาโครงการบางส่วน ซึ่งน่าจะเป็นในส่วนของผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ดำเนินการพัฒนาโครงการ แต่ในส่วนของผู้ประกอบการที่มีการดำเนินการ หรือเปิดตัวไปแล้วจะดำเนินโครงการต่อ
ในส่วนที่มีการดำเนินการพัฒนาโครงการต่อในตลาดคอนโดมิเนียมนั้น หากพิจารณาจำนวนการพัฒนาออกมาสู่ตลาดมีจำนวนมากถึง 20,000-30,000 หน่วย ปริมาณดังกล่าว จะทำให้ตลาดเฟอร์นิเจอร์สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในระยะ1-2 ปีนี้ และเมื่อพิจารณาแล้ว หลังจากที่เหตุการณ์ต่างๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ก็จะทำให้ผู้ประกอบการที่ชะลอพัฒนาโครงการกลับมาพัฒนาโครงการอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะทำให้มีการซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าโครงการเช่นเดิม
|
|
|
|
|