Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มีนาคม 2546








 
นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2546
เมื่อคนเราไม่อาจสู้หรือถอย             
 

   
related stories

อานุภาพแห่งจิต




ในที่สุดนักวิจัยก็สามารถสรุปได้ว่า ใช่เพียงแต่ โรคซึมเศร้าซึ่งเป็นโรคทางใจร้ายแรงเท่านั้น ที่อาจสามารถทำร้ายร่างกายเราได้ แม้แต่เพียงอาการป่วยทางใจที่รุนแรงน้อยกว่าอย่างอาการเครียดเรื้อรัง ก็สามารถทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนหลายต่อหลายตัว ซึ่งในระยะสั้นแล้วมีประโยชน์ แต่กลับเป็นพิษต่อร่างกายหากคงอยู่เป็นเวลานาน ที่แย่ก็คือ อาการเครียดเรื้อรังดังกล่าวเป็นสิ่งเกือบจะเกิดขึ้นเป็นปกติ

ในชีวิตประจำของคนนับล้านๆ คนทั่วโลก อันเกิดจาก การพยายามจัดการกับแรงกดดันของวิถีชีวิตสมัยใหม่ในยุคนี้ ด้วยเหตุนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่กลวิธีต่างๆ ในการลดความเครียดซึ่งช่วยทำให้จิตใจรู้สึกผ่อนคลาย อันได้แก่ การทำสมาธิ โยคะ และการออกกำลังกายเพื่อการผ่อนคลายอื่นๆ จึงไม่เพียงแต่ช่วยด้านจิตใจเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยให้ร่างกายของคุณรู้สึกสบายไปด้วย

ปฏิกิริยาทางร่างกายของมนุษย์ที่มีต่อความเครียด ที่เรียกว่าปฏิกิริยา "สู้หรือหนี" อาจวิวัฒนาการขึ้นมาเพื่อ ช่วยให้บรรพบุรุษยุคหินของเรา สามารถจัดการกับโลกที่ยัง ป่าเถื่อนในสมัยนั้นได้ เมื่อเผชิญหน้ากับอันตรายที่อยู่ตรงหน้า เช่น เสือที่กำลังแยกเขี้ยวพร้อมจะกระโจนเข้ามาขม้ำ หรือศัตรูที่กำลังควงตะบองอย่างบ้าระห่ำ ร่างกายของเราจำเป็นต้องอยู่ในสภาพเตรียมพร้อมในทันที เพื่อปกป้องตัวเองหรือเผ่นป่าราบเพื่อเอาชีวิตรอด

ด้วยเหตุนั้น สมองซึ่งกำลังตื่นตกใจ จึงส่งสัญญาณไปยังต่อมหมวกไต ซึ่งตั้งอยู่เหนือไต เพื่อให้หลั่งฮอร์โมนได้แก่ adrenaline (หรือชื่อทางเทคนิคคือ epinephrine) และฮอร์โมนกลุ่ม glucocorticoids และส่งสัญญาณไปยังเซลล์ประสาทให้หลั่งฮอร์โมน norepinephrine สารเคมีอันทรง พลังเหล่านี้ ช่วยทำให้ประสาทรับความรู้สึกของเราเฉียบคมขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น หัวใจเต้นแรงขึ้น ในกระแสเลือดเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำตาลซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่สามารถนำมาใช้ได้ทันที เมื่ออันตรายที่คุกคามนั้นผ่านพ้นไป ปฏิกิริยาต่างๆ เหล่านี้จะหยุดลงทันที

แต่ในโลกสมัยใหม่ยุคคอมพิวเตอร์ ความเครียดมักจะปรากฏในรูปแบบที่แตกต่างไปจากยุคหินโดยสิ้นเชิง แต่ทว่าปฏิกิริยา "สู้หรือหนี" ของร่างกายเรากลับยังคงอยู่เหมือนเดิมโดยไม่เปลี่ยนแปลงตามลักษณะของความเครียดส่วนใหญ่ที่เราเผชิญในโลกสมัยใหม่ มักเป็นความเครียดที่คงอยู่อย่าง ต่อเนื่องและไม่รุนแรง และมักจะเกิดในสถานการณ์ที่เราไม่อาจจะ "สู้หรือถอย" ได้ เช่น การเผชิญกับเจ้านายเจ้าอารมณ์ รถติด ทะเลาะกับแฟน หุ้นตก หรือแม้แต่การรู้สึกว่าคุณไม่สามารถควบคุมอะไรๆ ในชีวิตได้อีกต่อไปแล้ว

แม้ว่าฮอร์โมนบางตัวที่ร่างกายหลั่งออกมาเมื่อเกิดความเครียดจะไม่คงอยู่ในระดับสูงตลอดเวลา แต่ฮอร์โมนกลุ่ม glucocorticoids จะยังคงอยู่ในระดับสูงแม้ความเครียดนั้นจะผ่านพ้นไปแล้ว โดยเฉพาะฮอร์โมน cortisol ซึ่งเป็นฮอร์โมนตัวหนึ่งในกลุ่มนี้ สามารถจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอ และอาจทำให้โรคมะเร็งและโรคติดเชื้ออื่นๆ เลวร้ายลง อย่างไรก็ตาม การวัดผลต่อร่างกายที่เกิดจากความเครียดเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก

ผลการศึกษาหลายชิ้นบ่งชี้ถึงผลดีของการนำกลวิธีคลายเครียดต่างๆ มาใช้กับผู้ป่วย ในการศึกษาผู้ป่วยโรคเรื้อนครั้งหนึ่งได้แบ่งผู้ป่วยเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกผู้ป่วยได้ทำสมาธิร่วมกับการรักษา ส่วนกลุ่มหลังไม่ได้ทำสมาธิ ผลปรากฏว่า กลุ่มแรกเห็นผลในการรักษาเร็วกว่า ผลการศึกษาอีกหลายชิ้นแสดงว่า ผู้ป่วยที่สวดมนต์เป็นประจำและผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีทัศนคติเป็นบวก หรือสามารถระบายความโกรธที่มีต่อโรคร้ายที่ตนเป็นออกมาได้ มักจะมีอายุยืนยาวกว่าผู้ป่วยด้วยโรคเดียวกันที่ไม่ได้มีการสงบจิตใจหรือระบายความอัดอั้นตันใจออกมา

ผลการศึกษาต่างๆ ข้างต้นเป็นสิ่งที่น่ายินดี แต่เวลาเผชิญกับโรคร้ายแรงมากๆ จริงๆ กลวิธีคลายเครียดต่างๆ จะสามารถช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับการรักษาแผนปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม หากการทำสมาธิ การสวดมนต์และการออกกำลังกายประเภทคลายเครียดต่างๆ สามารถกำจัดแรงกดดันออกไปจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเราได้ แม้จะเพียงทีละเล็กละน้อยเท่านั้นก็ตาม แต่เมื่อเวลาผ่าน ไปนานๆ เข้า ก็ย่อมจะมีส่วนช่วยให้เรามีชีวิตที่มีสุขภาพ ดีขึ้นได้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us