Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน19 มกราคม 2550
คาดน้ำเมาปีนี้ร่วงต่อเนื่อง5%เพอร์นอตฯอัด1.3พันล.งัดไซซ์ซิ่งสู้             
 


   
search resources

Alcohol
เพอร์นอต ริคาร์ด (ประเทศไทย), บจก.




เพอร์นอต ริคาร์ด ระบุตลาดเหล้านอก-ไทยปีนี้หดตัว 5% เศรษฐกิจพ่นพิษ คอทองแดงหมดอารมณ์ดื่ม กรมสรรพสามิตเล็งปรับโครงสร้างภาษี ระบุแอดมิกซ์กระทบสุด 3-4 ปีสูญหายจากตลาด เพอร์นอต ริคาร์ด อัดฉีด 1,300 ล้านบาท โฟกัสแบรนด์เรือธงฮันเดรดฯ จัดกิจกรรมบุกเฉพาะพื้นที่ ส่งไซซ์ซิ่งขนาด 50 มล. ลงตลาดชูราคาถูกกว่ารุ่นปกติ 81 บาท สิ้นปีหวังรักษาแชร์ 80% รั้งบัลลังก์ผู้นำตลาดสแตนดาร์ด

นายซีริล เลอกรองด์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด ประเทศไทย จำกัด ผู้นำเข้าเหล้าฮันเดรด ไพเพอร์ส ,ชีวาส ฯลฯ เปิดเผยว่า ภาวะตลาดวิสกี้นำเข้าและเหล้าไทยปีนี้คาดว่าจะหดตัวลง 5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาตลาดหดตัวลง 10% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคไม่มีอารมณ์ออกมาเที่ยวนอกบ้านหรือดื่มเหล้า อีกทั้งผู้บริโภคยังมีความระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอย และยังมีปัจจัยลบด้านในตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประกอบด้วย แนวทางการห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โฆษณา 24 ชั่วโมง และการปรับโครงสร้างภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใหม่จากทางกรมสรรพสามิต

สำหรับภาวะตลาดวิสกี้นำเข้า คาดว่าเซกเมนต์แอดมิกซ์ตัวเลขในเชิงปริมาณ 25% จากตลาดรวม จะเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด หลังจากที่มีการปรับโครงสร้างภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เมื่อเดือนตุลาคม 2548 เนื่องจากมีราคาใกล้เคียงกับเหล้าไทย ผู้บริโภคจึงเปลี่ยนไปดื่มเหล้าไทย โดยประมาณการณ์ว่าแอดมิกซ์ปีนี้จะหดตัวลงอีก 50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาภาวะตลาดหดตัวลง 60% ทั้งนี้คาดว่าในอีก 3-4 ปีข้างหน้านี้ เซกเมนต์นี้จะสูญหายจากตลาด โดยปัจจุบันในตลาดนี้ มาสเตอร์เบลนมีส่วนแบ่งตลาด 40% คราวน์ 40%

ส่วนตลาดเหล้าไทยหลังจากการที่มีปรับภาษีหดตัวลง 5% จากนั้นอีก 3 เดือนตลาดก็ฟื้นตัวกระทั่งมีอัตราการเติบโต 5% ส่วนเหล้าเซกเมนต์สแตนดาร์ดนำเข้าสัดส่วนในเชิงปริมาณ 45% จากตลาดรวม ในปีที่ผ่านมาตลาดหดตัวลง 20% พรีเมียมนำเข้าสัดส่วน 55% และเซกันดารี่นำเข้า 65% อย่างไรก็ตามในช่วง 6 เดือนแรก(รอบบัญชีเดือนกรกฎาคม-มิถุนายน) ฮันเดรดฯ ยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ที่ 80% ครองตำแหน่งผู้นำตลาดวิสกี้เซกเมนต์สแตนดาร์ด แม้ว่าอัตราการเติบโตลดลง 10% ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ ยอดขายหดตัวลงน้อยกว่าตลาด ซึ่งตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ แม้ว่าคู่แข่งจะรุกตลาดทั้งจัดโปรโมชั่นและภาพยนตร์โฆษณาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผลประกอบการทั้งปีคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

สำหรับงบการตลาดปีนี้บริษัททุ่ม 1,300 ล้านบาท แบ่งเป็น ฮันเดรดฯ 1,000 ล้านบาท และอีก 300ล้านบาท เป็นชีวาส รีกัล ทั้งนี้การทำตลาดฮันเดรดฯ บริษัทจะมุ่งเน้นจัดกิจกรรมเฉพาะภูมิภาคมากขึ้น จากที่ผ่านมาเน้นจัดกิจกรรมในวงกว้างมากกว่า ล่าสุดได้เตรียมจัดมหกรรมร็อคคอนเสิร์ต นำ 6 วงได้แก่ แคลช ,เอนโดฟิน,โมเดิร์นด็อก, สล็อตแมชีน, พาราด็อกซ์ และเบิร์น นำร่อง จ.เชียงใหม่แห่งแรก เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่มีส่วนแบ่ง 15% จากส่วนแบ่งแบรนด์โดยรวม 80% โดยคอนเสิร์ตจะจัดขึ้นวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้ โดยผู้เข้าจะต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป

นายเลอกรองด์ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทฯวิตกกังวลภาวะเศรษฐกิจมากที่สุด ดังนั้นจึงได้นำกลยุทธ์ไซซ์ซิ่งมาใช้ เนื่องจากกำลังการซื้อของผู้บริโภคลดลง ไซซ์ซิ่งจะทำให้การตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น โดยบริษัทฯได้เปิดตัวฮันเดรดฯ ขนาด 50 มิลลิลิตร โดยจำหน่ายราคา 249 บาท จากรุ่นปกติ 70 มิลลิลิตร ราคา 330 บาท วางจำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่นแห่งเดียวตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ขณะนี้กำลังรอดูผลการตอบรับรวมทั้งการเข้าไปแย่งยอดขายจากรุ่นปกติมากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากได้รับการตอบรับที่ดี บริษัทฯวางแผนที่จะขยายไปยังช่องทางอื่นๆ เพิ่มเติม

“ปีนี้สถานการณ์ไม่แน่นอนโดยเฉพาะแนวทางการห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โฆษณา 24 ชั่วโมง ดังนั้นบริษัทฯจึงเน้นการปรับตัวตามสถานการณ์ตลาด โดยได้เตรียมแผนการตลาดไว้ 2 แนวทาง คือ ในกรณีที่การห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีผลบังคับใช้ งบส่วนการตลาดส่วนใหญ่จะถูกจัดสรรไปทำบีโลว์เดอะไลน์ตามสถานบันเทิงในช่วงกลางคืนมากกว่าอะโบฟเดอะไลน์ ส่วนหากแนวทางห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง ไม่มีผลบังคับ บริษัทฯจะซื้อสื่อตามปกติ แต่จะไม่ทำตลาดหรือสื่อสารเจาะกลุ่มเป้าหมายอายุต่ำกว่า 20 ปี ส่วนกรณีหากมีการปรับภาษีขึ้น การปรับราคาสินค้าขึ้นจะยึดหลักตามภาษีที่เพิ่มขึ้น เพื่อไม่ผลักดันภาระให้กับกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากในสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ราคามีผลต่อการตัดสินใจซื้อ”   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us