เอไอเอสพอใจแพกเกจโปรโมชันปัจจุบัน ไม่สนลดราคาแอร์ไทม์มากกว่านี้ ปรับโฉมจีเอสเอ็ม
1800 เป็นด่านหน้าเพิ่มทางเลือกเพื่อสกรีนคุณภาพลูกค้าใหม่ พร้อมเน้นสปอร์ตมาร์เกตติ้งเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
จีเอสเอ็ม แอดวานซ์ ตามแนว Customized ลูกค้าเชิงลึก ย้ำบริการนอนวอยซ์จะฮิตติดตลาดต้องเน้นบันเทิงมากกว่าสาระ
นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้จัดการสำนักบริหารการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์
เซอร์วิส หรือเอไอเอสกล่าวว่าเอไอเอสพอใจ กับโปรโมชั่นปัจจุบันที่มีอยู่ และจะไม่เปิดสงครามราคาแอร์ไทม์แข่ง
กับใคร ถึงแม้จะมีใครใช้กลยุทธ์ด้านราคาก่อนก็ตาม แต่เอไอเอสก็จะไม่ลงไปแข่งขันในด้านราคาด้วย
"เป้าหมายวัน-ทู-คอลในปีนี้อย่างน้อย 10.5 ล้านราย ซึ่งเอไอเอส ไม่ได้มองเรื่องจำนวนเป็นหลัก
แต่มองเรื่องคุณภาพของลูกค้ามากกว่า" ฐิติพงศ์รับผิดชอบโปรดักต์ 3 ตัวของเอไอเอสคือจีเอสเอ็ม
แอดวานซ์ วัน-ทู-คอล และจีเอส-เอ็ม 1800 โดยแต่ละโปรดักต์จะมีตำแหน่งทางการตลาดที่แตกต่างกันไป
จีเอสเอ็ม แอดวานซ์จะเป็นโปรดักต์ในระดับพรีเมี่ยม จะมีบริการเสริมทุกรูปแบบทั้งประเภทวอยซ์และนอนวอยซ์
ส่วนวัน-ทู-คอล จะเป็นบริการแบบพรีเพด ในคุณภาพเครือข่ายระดับเดียวกับจีเอสเอ็มแอดวานซ์
และในอนาคตบริการเสริมต่างๆ ก็จะมีเหมือนจีเอสเอ็มแอดวานซ์ ซึ่งโปรดักต์ 2 ตัวนี้จะต่างกันที่รูปแบบ
การชำระค่าบริการเท่านั้น
ส่วนจีเอสเอ็ม 1800 จะเน้นภาพการเป็นเครือข่ายที่ไว้ใจได้ และเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ต้องการทดลองใช้บริการโทรศัพท์มือถือ
สามารถมาใช้บริการที่เป็นโพสเพดโดยมีโปรโมชั่น 400 บาทโทร.ได้ 100 นาที ต่อไปนาทีละ
3 บาทซึ่งบริการจีเอสเอ็ม 1800 จะแตกต่างกับวัน-ทู-คอล ตรงที่ค่าใช้บริการหรือแอร์ไทม์จะถูกกว่า
ในแง่การตลาด โปรดักส์ทั้ง 3 ตัวจะใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกัน โดยจีเอสเอ็ม แอดวานซ์
มุ่งไปที่กีฬากับเพลง ตามคอนเซ็ปต์แบรนด์คือชีวิตเหนือระดับ โดยกลยุทธ์หนึ่งที่นำมาใช้คือ
Sport Marketing ซึ่งเอไอเอสเลือกใช้กอล์ฟ จัดกิจกรรม "GSM advance Exclusive Golf
Challenge" ขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยไฮไลต์อยู่ที่การแข่งขัน 1 พัตต์ 1 ล้าน
และการแข่งขันประเภททีม แม็ทช์เพลย์ การเลือกกอล์ฟเป็นเพราะเอไอเอสต้องการจัดกิจกรรมในลักษณะที่
Customized ได้ถึงกลุ่มเป้าหมาย ที่แท้จริง ตามลักษณะของแบรนด์ที่ถูกวางบุคลิก
ให้เหมาะสมกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ขอบเทคโนโลยี ความทันสมัยและเชื่อมั่นในคุณภาพที่สอดคล้อง
กับราคา
"กอล์ฟเป็นกีฬาที่แพร่หลายใครๆก็เล่นได้ ซึ่งเรื่องกีฬาเป็นสิ่งที่จีเอสเอ็ม
แอดวานซ์ทำอย่างต่อเนื่องจากปลายปีที่แล้วมีเรื่องแมนฯยู"
ส่วนวัน-ทู-คอล จะเน้นกิจกรรมเกี่ยวกับความบันเทิงเป็นหลักทั้งการดูหนังและฟังเพลง
ในขณะที่จีเอสเอ็ม 1800 จะไม่เน้นเรื่องกิจกรรมมากนัก แต่มุ่งเป็นทางเลือกสำหรับ
ผู้ใช้บริการในลักษณะเบสิกยูสเซอร์มากกว่า ซึ่งด้วยลักษณะของตลาดโทรศัพท์มือถือปัจจุบันที่ตลาดพรีเพดเติบโตมากกว่าตลาดโพสเพด
คนที่สนใจใช้บริการมักจะเข้าสู่ตลาดพรีเพดก่อน ซึ่งในแง่การใช้งาน อาจต้องการใช้ในระบบโพสเพดซึ่งจีเอสเอ็ม
1800 จะเป็นอีกทาง เลือกให้กลุ่มลูกค้าเหล่านั้น
เขากล่าวถึงการเติบโตของบริการเสริมประเภทนอนวอยซ์หรือคอนเทนต์ต่างๆ ว่าหากจะให้มีการใช้งานอย่างแพร่หลายต้องมุ่งไปที่ความสนุกสนานมากกว่าสาระ
ส่วนการให้บริการ MMS (Multimedia Messaging Service) นั้นเอไอเอสเปิดให้บริการเฉพาะในระบบจีเอสเอ็ม
แอดวานซ์ และถือว่าตลาดยังเติบโตไม่มาก เพราะมีโทรศัพท์มือถือที่รองรับระบบ MMS
จำนวนไม่มากนักในตลาด ซึ่งเอไอเอสก็เตรียมให้บริการ MMS ในวัน-ทู-คอลด้วย และคาดว่าต้องเป็นราวปลายปีบริการนี้น่าจะมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย
ส่วนการเปิดตัวเชิงพาณิชย์ของโทรศัพท์มือถือในระบบซีดีเอ็มเอ แบรนด์ Hutch ในค่าย
การสื่อสารแห่งประเทศไทย(กสท.)ที่ให้ฮัทชิสัน ทำการตลาดในปลายเดือนก.พ.นั้นเขาให้ความเห็นว่าระบบซีดีเอ็มเอน่าจะหาตลาดเฉพาะหรือ
สร้างตลาดใหม่มากกว่ามาชนกับจีเอสเอ็มแอด-วานซ์โดยตรง เหมือนกรณีพีซีทีที่หากทำตลาดด้วยการชนกับโทรศัพท์มือถือตรงๆ
ก็จะลำบาก
"ซีดีเอ็มเอก็เหมือนรถที่ขับสนุกแต่ขับ ไปได้ไม่ไกล แต่จีเอสเอ็มแอดวานซ์ ก็เป็นรถ
ที่ขับสนุกเหมือนกัน แต่ไปได้ไกลกว่าอยู่ที่ลูกค้า ชอบแบบไหนมากกว่า"