นายกสมาคมแฟรนไชส์ไทยฟันธงปี 50 แฟรนไชส์ต่างประเทศบุกตลาดไทยยึดหัวหาดศูนย์การค้าชั้นนำ คาดหวังใช้ไทยเป็นศูนย์กลางสยายปีกสู่อินโดจีน ด้านแฟรนไชส์ไทยไม่น้อยหน้าเตรียมบุกตลาดเพื่อนบ้าน ชูแฟรนไชส์การศึกษา และคอมพิวเตอร์เป็นหัวหอกชิมลาง

นายบุญชัย หลีระพันธ์ นายกสมาคมธุรกิจแฟรนไชส์และเอสเอ็มอีไทย เปิดเผยถึงการเข้ามาของแฟรนไชส์ต่างประเทศในปี 2550 ว่า จากผลกระทบเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯหรือการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเมื่อปลายปีที่ผ่านมาไม่ได้กระทบกับการเข้ามาของธุรกิจแฟรนไชส์ต่างประเทศที่เริ่มเข้ามาบุกตลาดเมืองไทยเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา สังเกตได้จากตามศูนย์การค้าโดยเฉพาะในย่านใจกลางเมืองที่เป็นศูนย์การค้าที่เปิดใหม่จะมีร้านที่เป็นแฟรนไชส์จากต่างประเทศมาเปิดให้เห็นกันเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งมาจากหลายประเทศต้องการจะใช้ไทยเป็นศูนย์กลางในขยายไปสู่ภูมิภาคอินโดจีนอย่าง ประเทศลาว กัมพูชา พม่า หรือ เวียดนาม เพราะประเทศเหล่านี้มักจะศึกษารุปแบบของแฟรนไชส์ที่เปิดในประเทศไทย

สำหรับแฟรนไชส์ต่างประเทศที่เข้ามา ส่วนใหญ่จะมาจากประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และมาเลเซีย รูปแบบของแฟรนไชส์ส่วนใหญ่ยังคงเป็นอาหารและสินค้าประเภทแฟชั่น ข้อได้เปรียบที่ต่างชาติสนใจมาเปิดแฟรนไชส์อาหารในบ้านเรามาจากบ้านเรามีวัตถุดิบจำนวนมากที่จะรองรับอาหารได้ทุกชาติ ในขณะที่โอกาสของแฟรนไชส์ในต่างประเทศจะมีมากกว่าแฟรนไชส์คนไทย เพราะพื้นที่ค่าเช่าบนศูนย์การค้าที่ราคาแพงมากผู้ประกอบการคนไทยไม่สามารถสู้ราคาได้ ทำให้พื้นที่หรือทำเลดีดีที่อยู่ในศูนย์การค้าจะเป็นแฟรนไชส์ที่มาจากต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อแฟรนไชส์ต่างประเทศก็ต้องศึกษาด้วยว่าจะเหมาะสมกับตลาดผู้บริโภคคนไทยหรือไม่หรือเป็นแค่เพียงแฟชั่น ที่เข้ามาและก็หายไป แต่ถ้าเป็นไปได้ให้ลองหันกลับมาลองดูแฟรนไชส์ของคนไทยก่อนเพราะคนไทยด้วยกันก็จะเข้าใจกันมากกว่า และปัจจุบันแฟรนไชส์ไทยก็มีให้เลือกจำนวนมากเพียงแต่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องทำตามกฎกติกาที่จะวางร่วมกันเพื่อป้องกันความผิดพลาด

นายบุญชัย กล่าวต่อว่า เนื่องจากประเทศในแถบอินโดจีนเป็นตลาดใหม่แฟรนไชส์ไทยเองก็ให้ความสนใจต้องการเข้าไปเปิดตลาดในประเทศเหล่านี้ด้วยเช่น ซึ่งทางสมาคมเองเตรียมจะเดินทางไปในหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นประเทศลาว เขมร เวียดนาม และพม่า เพื่อเข้าไปศึกษาว่าเราจะสามารถนำแฟรนไชส์ของไทยเข้าไปเปิดได้อย่างไรบ้าง ปัญหาที่แฟรนไชส์ไทยยังไม่กล้าเข้าไปเปิดตลาดในประเทศเหล่านี้ เพราะยังติดเรื่องวัฒนธรรม กฎหมายแต่ละประเทศ ซึ่งการเข้าไปเปิดในต่างประเทศข้อมูลจะต้องมากพอในทุกๆด้านโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าเพราะเราไม่รู้จักผู้บริโภคของเขา แต่ขณะนี้ผู้ประกอบการในหลายประเทศสนใจแฟรนไชส์จากประเทศไทย เป็นโอกาสของแฟรนไชส์ไทยด้วยที่จะมีโอกาสได้โกอินเตอร์

ทั้งนี้ แฟรนไชส์ไทยที่น่าจะมีโอกาสจะเข้าไปเปิดตลาดในต่างประเทศจะเป็นกลุ่มการศึกษา และกลุ่มอิเลกทรอนิกส์คอมพิวเตอร์ เพราะกำลังที่ต้องการของประเทศในแถบอินโดจีน โดยเฉพาะแฟรนไชส์ด้านโรงเรียนสอนภาษา เพราะบางประเทศอย่างเวียดนามเพิ่งจะเปิดประเทศต้องการเรียนรู้ภาษา หรือ ไม่เฉพาะภาษาอังกฤษแม้แต่ภาษาไทยก็กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในหลายประเทศ เพราะต้องมีการติดต่อทำการค้ากับประเทศไทย