Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2536








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2536
"เนสลัน อิง จากนิวเคลียร์ถึงหอสวรรค์"             
 


   
search resources

เนสลัน อิง




ในดิสนีย์เวิล์ดใจกลางเมืองฟลอริดา เสี้ยวหนึ่งของอารยธรรมจีนได้เข้าไปแทรกตัวอยู่ด้วย นั่นคือหอสวรรค์ (TEMPLE OF HEAVEN -สถานที่บูชากราบไหว้ฟ้าดินของกษัตริย์จีน) และสวนน้ำของซูโจว

สถานที่ดึงดูดใจแห่งนี้ ตั้งอยู่ท่ามกลางสิ่งน่าสนใจอย่างอื่น โดยตั้งอยู่ที่ เอพคอท เซนเตอร์ ซึ่งเป็นผลงานของ เนลสัน อิง วัย 50 ปี นักนิวเคลียร์ฟิสิกส์ ซึ่งหันมาทำธุรกิจเมื่อ 20 ปีที่แล้วเพื่อหาเงินทุนไปสนับสนุนการทำงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ของเขา

แม้ว่าจะสามารถทำรายได้หลายล้าน จากโครงการพัฒนาที่ดินในนามของ CHINA GROUP ของเขาและจากกิจการนำเข้าส่งออก รวมทั้งธุรกิจอื่น ๆ แต่สิ่งที่อิงรักมากเป็นพิเศษก็คือหอสวรรค์จำลองแห่งนี้ซึ่งเขาถือว่าเป็น "ลูกรัก"

อิงเล่าว่า ดิสนีย์เวิล์ดขอให้เขาเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนการสร้างหอนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอพคอท เซนเตอร์ (EXPERIMENTAL PROTOTYPE COMMUNITY OF TOMORROW) แต่อิงทำมากกว่าการเป็นสปอนเซอร์ เขาเข้าไปมีส่วนร่วมของทุกขั้นตอนของโครงการนับแต่ต้น โดยลงทุนอพยพจากนิวยอร์คมาอยู่ที่ออร์แลนโดเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เพื่อมาทำโครงการนี้ เขาได้ให้คำแนะนำในการวางผัง และออกแบบด้านสถาปัตย์

อิง เจ้าของเข็มขัดสายดำกังฟู และคาราเต้ ไม่ยอมเปิดเผยรายชื่อเพื่อนนักลงทุนร่วมใน CHINA GROUP เขาเพียงแต่บอกว่า ผู้ร่วมทุนแต่ละคนมีเป้าหมายเดียวกันคือหาเงิน และเผยแพร่วัฒนธรรมจีน อิงซึ่งเป็นประธานและซีอีโอของกลุ่มเปิดเผยว่าหุ้นส่วนส่วนใหญ่เป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่ และจีนโพ้นทะเล

สมัยที่ยังเป็นหนุ่ม ความลึกลับเกี่ยวกับเรื่องอะตอมจูงใจอิงได้มากกว่าเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เขาเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกหัดขององค์กรนาซ่าที่มหาวิทยาลัยแบรนไดส์ หลังรับปริญญาเอกด้านนิวเคลียร์ ฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยอเดลฟี่ ก็ได้ทำงานในห้องปฏิบัติการด้านนิวเคลียร์ของกองทัพบกสหรัฐฯ ที่แมรี่แลนด์ เขาผิดหวังที่ทางกองทัพไม่มีเงินทุนพอที่จะมาสนับสนุนการทำวิจัยของเขาเป็นอย่างมาก "ผมรู้ว่า ถ้าต้องการความสำเร็จในงานวิจัยทางด้านนิวเคลียร์ฟิสิกส์แล้ว ผมจะต้องขอเงินทุนหรือทำธุรกิจของตัวเองเพื่อให้ได้เงินมา" อิงเล่า เขาคิดว่าจะกลับไปทำงานด้านวิทยาศาสตร์ตามเดิม หลังจากใช้เวลาหาเงินสักพักหนึ่ง "ผมไม่คิดว่า จะอยู่ในวงการธุรกิจถึง 20 ปี"

อิงเรียนรู้การทำธุรกิจจากพ่อของเขา เขาทำงานในกิจการของพ่อที่นิวยอร์ค ซึ่งมีธุรกิจภัตตาคารและกิจการพัฒนาที่ดิน ครอบครัวอิงทิ้งบริษัทเคมีภัณฑ์และอพยพจากเซี่ยงไฮ้มาอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่เขาอายุเพียง 4 ขวบ เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีชัยในปี 1949

เมื่ออิงกลับมาสู่วงการวิทยาศาสตร์อีกครั้งก็ประสบความสำเร็จ ด้วยการค้นพบโคลด์ ฟิวชั่น (COLD FUSION) ซึ่งเป็นปฏิกริยานิวเคลียร์ในอุณหภูมิปกติ แต่วงการวิทยาศาสตร์อเมริกาพากันตั้งข้อสงสัยต่อการค้นพบนี้

อิงไม่กังวลนักต่อการไม่ยอมรับผลงานของเขา เขาบอกว่า "ผมจะทำได้หรือไม่ก็ตาม ไม่เกี่ยวกับคนอื่น" ไม่ว่าการทดลองของเขาจะมีผลลัพธ์อย่างไร อิงได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ถ้าเป็นเรื่องของการหาเงินแล้วละก็ เขาทำได้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us