|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บิ๊กแบงก์กรุงศรีฯ ประกาศศักดาเดินหน้าดันขึ้นสู่แบงก์ชั้นนำระดับสากล หลังความร่วมมือเชิงยุทธ์กับจีอี มันนี่ เน้นสร้างดุลยภาพระหว่างธุรกิจบริการทางการเงินขนาดใหญ่และธุรกิจเพื่อลูกค้ารายย่อย ย้ำคงชื่อแบรนด์ “กรุงศรีอยุธยา” ในการทำธุรกิจต่อไป ระบุโครงสร้างผู้บริหารใหม่ ไม่มีกรรมการผู้จัดการ ใช้ตำแหน่งสูงสุด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และจะมีประธานในแต่ละสายงาน
วานนี้ (16 ม.ค.) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด และจีอี มันนี่ เอเชีย ร่วมแถลงข่าวร่วมแถลงว่า ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจะมุ่งสู่การเป็นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของไทย โดยมีนายวีระพันธุ์ ทีปสุวรรณ ประธานกรรมการ และมร. โยชิอากิ ฟูจิโมริ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จีอี มันนี่ เอเชีย หลังจากที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรเชิงยุทธ์
นายวีระพันธุ์ ทีปสุวรรณ ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจับมือเป็นพันธมิตรเชิงยุทธ์กับจีอี มันนี่ถือเป็นประวัติศาสตร์อย่างแท้จริงใน 61 ปีของการดำเนินธุรกิจของธนาคาร เรากำลังก้าวเข้าสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของธนาคารที่จะเห็นธนาคารเติบโตยิ่งขึ้นและแข็งแกร่งมากขึ้นโดยอาศัยจุดแข็งในการทำธุรกิจของเราทั้งสองฝ่าย
โดยหัวใจสำคัญของความร่วมมือในครั้งนี้ คือการสร้างฐานที่มั่นคงและการมีดุลยภาพระหว่างบริการการเงินธุรกิจขนาดใหญ่ (commercial banking) และบริการการเงินแก่ลูกค้ารายย่อย โดยธนาคารมีฐานธุรกิจบริการการเงินธุรกิจขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่ง ในส่วนของธุรกิจการเงินเพื่อรายย่อยนั้น ธนาคารเล็งเห็นโอกาสใหม่ๆ มากมายที่จะมาพร้อมกับการถ่ายทอดความเชี่ยวชาญในการให้บริการทางการเงินแก่ผู้บริโภคด้วยมาตรฐานระดับสากล ของจีอี ด้วยการผสานช่วยให้เราเติบโตและทำให้เราสามารถมุ่งสู่การเป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ ชั้นนำของไทย
“จีอีเป็นที่รู้จักและยอมรับในฐานะบริษัทที่มีธรรมาภิบาลและการบริหารงานที่โดดเด่น การสร้างความเติบโตให้กับแบงก์ ที่จำเป็นต้องมีการบริหารแบบมืออาชีพที่สามารถสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ นอกจากนี้ จีอียังจำเป็นต้องนำกระบวนการทำงานและทางเทคโนโลยีที่เหมาะสมเข้ามาเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของฐานลูกค้าที่กว้างและหลากหลายได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง” นายวีระพันธุ์กล่าว
นอกจากนี้การบริหารธุรกิจและนโยบายต่างๆที่จะใช้ ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นหลัก ซึ่งจะมีชื่อของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในการทำธุรกิจธนาคารพาณิชย์ตลอดไป ถือว่าเป็นแบรนด์ที่มั่นคงแข็งแกร่งอยู่ในใจของลูกค้าตลอดไป ซึ่งจะไม่คำนึงถึงอันดับของระบบจะเป็นเท่าใดก็ตาม ของให้มีคุณภาพ
สำหรับโครงสร้างผู้บริหารนั้น กำลังพิจารณาเพื่อให้คณะกรรมการธนาคารอนุมัติ ซึ่งโครงสร้างใหม่จะมีตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นตำแหน่งที่สูงที่สุด และจะมีการจัดกลุ่มสายงานมีประธานในแต่ละกลุ่มเป็นผู้รับผิดชอบสายงานนั้นๆ คาดว่าจะประกาศได้ในเร็วๆนี้
นายวีระพันธุ์กล่าวว่าคณะกรรมการธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ จะยังคงทำหน้าที่กำหนดนโยบายและกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจของธนาคารเช่นเดิม โดยมีความมั่นใจว่าธนาคารมีคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์ และคาดว่าคณะกรรมการจะประกาศแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ภายในไตรมาสแรกของปีนี้
สำหรับการเป็นพันธมิตรระหว่างธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ และจีอี มันนี่เริ่มจากแผนงาน 100 วัน ซึ่งเป็นกรอบการทำงานเชิงยุทธ์ที่สร้างพื้นฐานการเติบโต วัตถุประสงค์หลักของแผนงานดังกล่าวจะมุ่งผสานจุดแข็งของพันธมิตรแต่ละฝ่ายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อสร้างความแข็งแกร่งแก่ธนาคารและเพิ่มความสำเร็จทางการเงิน โดยในแผนงาน 100 วัน จีอี มันนี่จะเน้นหนักใน 3 หัวข้อ ได้แก่ สนับสนุนการพัฒนาวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ ผลักดันการผสานของวัฒนธรรมและคุณค่าขององค์กรของทั้งสองฝ่าย และสร้างความรู้สึก เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน
มร. โยชิอากิ ฟูจิโมริ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จีอี มันนี่ เอเชีย กล่าวว่า จีอี มีความมั่นใจศักยภาพของเศรษฐกิจของประเทศไทย ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาหรือความเสี่ยงเกี่ยวกับการเมือง แต่ในระยะยาวแล้วเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยจะมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และอัตราการเติบโตที่สูง ดังนั้นจึงสนใจที่ร่วมลงทุนในธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่เป็นธนาคารที่มีชื่อเสียงในระดับต้นๆของประเทศ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้จะต้องมีการเติบโตที่ก้าวกระโดด และจีอีมีความคาดหวังผลระยะยาว โดยใช้ชื่อของกรุงศรีอยุธยา ในการทำธุรกิจเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
นางสาวพรรณพร คงยิ่งยง Integration Leader ของจีอี มันนี่กล่าวว่า “เป็นแนวทางของจีอีในการนำกระบวนการที่โปร่งใสและราบรื่นมาสร้างความเป็นพันธมิตรที่ดีระหว่างองค์กรใหญ่สององค์กร ซึ่งจะเป็นการสร้างจุดหมายและกฎต่างๆ ร่วมกันเพื่อความสัมพันธ์ในการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่น”
สำหรับแผนงาน 100 วันประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ นั่นคือการสื่อสาร แผน functional partnership และ E-tools and Change Acceleration Training ธนาคารกรุงศรีอยุธยาและจีอีได้มีความคืบหน้าในส่วนดังกล่าวไปมากแล้ว ในส่วนการสื่อสาร มีการสื่อสารกับผู้เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกฝ่ายจะได้รับประโยชน์จากความเป็นพันธมิตรครั้งนี้ มีการจัดงานผสานวัฒนธรรมเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้ทำความเข้าใจซึ่งกันและกันดีขึ้นเพื่อให้องค์กรทำงานได้มีประสิทธิภาพ และส่วนหนึ่งของแผนงาน 100 วันคือการถ่ายทอดความเชี่ยวชาญของจีอีด้านการบริหารความเสี่ยงและการกำกับดูแลธุรกิจธนาคาร (Compliance) การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) กระบวนการปรับปรุงคุณภาพ Lean & Six Sigma ประสิทธิภาพการขาย ผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อลูกค้ารายย่อย และผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินสำหรับลูกค้าที่เป็นบริษัทและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
“เราเชื่อว่าการเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งคือการผสมส่วนที่ดีที่สุดของทั้งสองฝ่ายเพื่อสร้างความแข็งแกร่งแก่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ อีกทั้งยังประโยชน์แก่ลูกค้าของธนาคาร แก่พนักงานและธุรกิจธนาคารของไทยโดยรวม” นางสาวพรรณพรกล่าว
อนึ่งวันที่ 3 มกราคม 2550 จีอี มันนี่ ได้บรรลุการร่วมลงทุนในธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) อย่างเสร็จสมบูรณ์ โดยจีอี มันนี่ ได้เข้าถือหุ้นของธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ ในสัดส่วนร้อยละ 25.4 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของธนาคาร หลังการใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของธนาคารครบถ้วนทั้งจำนวน และมูลค่าการลงทุนเป็นเงินประมาณ 22,000 ล้านบาท (600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) พร้อมกันนี้ จีอี มันนี่ ยังได้โอนทรัพย์สินและหนี้สินของธนาคารจีอี มันนี่ เพื่อรายย่อยตามที่ตกลงกัน ประกอบด้วย เงินฝาก สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกันให้กับธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ จีอี มันนี่ดำเนินธุรกิจบริการทางการเงินแก่ผู้บริโภคในประเทศไทยมากว่า 10 ปี และในปี พ.ศ. 2544 จีอี มันนี่ได้ร่วมทุนกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ ดำเนินธุรกิจบัตรเครดิตซึ่งปัจจุบันบริษัทร่วมทุนดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการบัตรเครดิตชั้นนำของไทยโดยมีฐานผู้ถือบัตรกว่า 700,000 ใบ
ขณะที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ จัดเป็นธนาคารพาณิชย์ของไทยที่มีขนาดทรัพย์สินและสินเชื่อใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของประเทศ ปัจจุบันมีเครือข่ายสาขาให้บริการ 549 แห่งทั่วประเทศ
|
|
|
|
|