ไนท์แฟรงค์ฯคาดปี 50 คอนโดฯราคาถูกระดับราคา1-3 ล้านบาทยังมาแรง เหตุไลฟ์สไตล์คนซื้อต้องการอยู่ใกล้เมืองหรือใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน ชี้ราคาขายเฉลี่ยในปีที่ผ่านมาอัตราเติบโตทุกโซนประมาณ 6.4% คอนโดฯเกรดเอราคาเฉลี่ยสูงขึ้น 17.2%ในช่วงครึ่งหลังของปี49 จับตาอัตราการขายคอนโดฯปีที่ผ่านมาลดลงจากระดับ 81% ในปี 48 มาอยู่ที่ 70% ในปี 49

ทีมวิจัยบริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รายงานผลการศึกษาตลาดคอนโดมิเนียมประจำปี 2549 ที่ผ่านมาว่า อุปทานของคอนโดฯในกรุงเทพฯมีจำนวนทั้งหมด 52,776 ยูนิต ตัวเลขดังกล่าวมาจากโครงการคอนโดฯจำนวนมากที่เปิดตัวระหว่างปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2549 โดยหลายโครงการได้มุ่งเน้นราคาต่อยูนิตในระดับต่ำ-ปานกลาง ถึงแม้ว่าประเทศจะเผชิญหน้ากับราคาน้ำมันที่แพงขึ้น สถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอนและอัตราเงินกู้ที่เพิ่มสูงขึ้น ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของตลาดคอนโดฯมากนัก ในทางตรงกันข้ามยอดรวมอุปทานใหม่ของตลาดคอนโดมิเนียมในปี 2549 มีมากกว่า 40 % ของยอดรวมอุปทานที่มีอยู่ทั้งหมดในตลาด

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา โครงการที่เปิดตัวจะเป็นในรูปแบบคอนโดฯราคาถูก( Budget Condominium ) ในกรุงเทพฯ ระดับราคาของโครงการประเภทดังกล่าวจะอยู่ระหว่าง 1-3 ล้านบาท อาทิ โครงการซิตี้โฮม สุขุมวิท และ ซิตี้โฮม รัชดา โดยศุภาลัย , เมโทรพาร์ค สาทร โดยพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และ คอนโดวัน โดยพลัส พร็อพเพอร์ตี้ฯ ซึ่งโครงการเหล่านี้จะมีระดับราคาที่ผู้ซื้อมีความต้องการ และอยู่ในทำเลหลักๆของกทม.หรือใกล้แนวรถไฟฟ้า ทำเลส่วนใหญ่ที่มีอุปทานใหม่ฯของคอนโดฯเกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา คือ ทำเลราชเทวี ,พหลโยธิน ,เพชรบุรี , ลาดพร้าวและรัชดา ซึ่งในการวิจัยได้จัดอยู่ในกลุ่มโซน "อื่นๆ" โดยมีอุปทานใหม่ในโซนๆอื่นในปีที่ผ่านมา คิดเป็น 67.5% ของยอดรวมอุปทานใหม่ทั้งหมดในกรุงเทพฯ ซึ่งส่วนแบ่งของอุปทานใหม่ในโซนสุขุมวิทคิดเป็น 13.3% ขณะที่อุปทานใหม่ในโซนใจกลางธุรกิจ( CBD ) คิดเป็น 11.7% โซนบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาส่วนแบ่งตลาดที่ 5.6% อุปทานใหม่ในโซนพระราม 3 มีเพียง 1.9% ของยอดรวมอุปทานใหม่ทั้งหมด

ซึ่งในการวิจัย ยังระบุถึงราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.สำหรับทุกโซนนับจากปีพ.ศ. 2546-2549 มีราคาที่สูงขึ้น เนื่องมาจากต้นทุนการก่อสร้างและราคาที่ดินซึ่งเพิ่มขึ้น ซึ่งในปี 2549 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.ของคอนโดฯในกรุงเทพฯในปี 2549 อยู่ที่ 69,675 บาท เพิ่มจากปี 2548 ซึ่งอยู่ที่ 65,482 บาทต่อตร.ม. มีอัตราการเติบโต 6.4 %

ส่วนคอนโดฯเกรดเอ ในครึ่งหลังของปี49 ราคาเฉลี่ย 96,682 บาทต่อตร.ม.เพิ่มสูงกว่า 17.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2548 ขณะที่คอนโดฯเกรดบี เฉลี่ยอยู่ที่ 66,276 บาทต่อตร.ม.เพิ่มขึ้น 9.6 %

อย่างไรก็ตาม ในประเด็นของความต้องการซื้อ(อุปสงค์)ของคอนโดฯในเมือง มีอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2546 แต่กลับพบว่าในปีที่ผ่านมา อัตราการขายคอนโดฯกับลดลงมาอยู่ที่ 70% เมื่อเทียบกับปี 48 ที่มีอัตราการขายอยู่ที่ 81% สาเหตุมาจาก หลายโครงการใหม่เปิดตัวช่วงปลายปี 49 ทำให้อัตราการขายรวมต่ำกว่าปี 48

"ในปี 2550 ทางวิจัยประเมินว่าแม้ประเด็นทางการเมืองจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าไม่กระทบต่อความต้องการซื้อของตลาดคอนโดฯมากนัก ความต้องการของผู้ซื้อจะเป็นตัวกำหนดการเติบโตของอุปสงค์ของคอนโดฯในตลาดในทำเลใหม่ๆ ย่านชานเมืองซึ่งใกล้กับรถไฟใต้ดิน จะยังคงเป็นที่นิยมต่อไป "