|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) เปิดเผยว่า ในเรื่องของการย้ายสนามบินในส่วนของเที่ยวบินภายใน
ประเทศ จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกลับไปใช้ท่าอากาศยานกรุงเทพ(ดอนเมือง) ทางบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือทอท.จะเป็นผู้เดียวที่บอกได้ดีที่สุดว่าจะย้ายหรือไม่อย่างไร ส่วนภาคเอกชนคือผู้ปฏิบัติตามเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้เคยนำเสนอข้อมูลถึงความไม่พร้อมของสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ทอท.ก็ยืนยันว่าจะต้องย้ายไป ทุกฝ่ายก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากปฏิบัติตาม โดยจะต้องกำหนดวันย้ายให้แน่นอน เพื่อจัดทำแผนงานรองรับ ขณะเดียวกันมองว่า หากต้องย้ายสายการบินในประเทศ(โดเมสติก) ทอท.ต้องจัดรถชัตเตอร์บัสฟรี ไว้บริการรับ-ส่งผู้โดยสาร ที่ต้องมีการเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางต่อไปยังต่างประเทศ แต่ต้องกำหนดเวลาออกรถที่แน่นอนชัดเจน เพื่อบริษัททัวร์จะได้นำไปจัดตารางการเดินทางของลูกค้า
นอกจากนั้น ยังต้องการให้ทอท.จัดพื้นที่สำหรับจอดรถทัวร์ของแอตต้า พร้อมที่พักคนขับในสนามบินสุวรรณภูมิให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ซึ่งอยู่ไกลจากอาคารผู้โดยสารมาก พื้นที่แคบและแออัดไม่เพียงพอกับปริมาณรถในแต่ละวัน นอกจากนั้นยังไม่มีอาคารสำหรับนั่งพัก มีเพียงตู้คอนเทนเนอร์ที่มาปรับใช้เป็นออฟฟิสเท่านั้น เชื่อกระทบผู้โดยสารชะงักเดินทาง50%
ทางด้านนายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการกลับมาใช้สนามบินดอนเมือง เพราะปัญหาสนามบินสุวรรณภูมิที่เกิดขึ้นขณะนี้ไม่ได้เกิดจากปัญหาความแออัดของผู้ใช้บริการสนามบิน เพราะเป็นไปไม่ได้ที่สนามบินที่เพิ่งเปิดดำเนินการเพียง 3 เดือน จะเต็มกำลังการรองรับแล้ว ทั้งนี้รัฐบาลชุดที่ผ่านมาระบุว่า สุวรรณภูมิเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จะช่วยดันประเทศไทยให้เป็นฮับทางการบิน
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้มองว่า เป็นปัญหาที่เกิดจากการบริหารจัดการในสนามบินสุวรรณภูมิของทอท. ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ จึงจะหันกลับมาใช้สนามบินดอนเมือง ซึ่งแม้ว่าทอท.จะระบุว่า ต้องเสียค่าดูแลรักษาสนามบินดอนเมืองประมาณเดือนละ 40 ล้านบาท แต่เมื่อย้ายสายการบินในประเทศมาใช้ที่สนามบินดอนเมือง ก็ไม่มีใครตอบได้เช่นกันว่าค่าใช้จ่ายของทอท.ตรงนี้จะลดลง
นอกจากนั้นปัญหาที่สำคัญที่สุด คือ รัฐบาลและทอท.ยังไม่มีระบบการขนส่งระหว่างสองสนามบินที่ดีพอ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหากับนักท่องเที่ยวที่ต้องเปลี่ยนเครื่องไปต่างประเทศ เพราะการเดินทางระหว่างสองสนามบินจะล่าช้าใช้เวลามาก เพราะระบบการจราจรที่แก้ไม่ตก ระบบรถไฟฟ้ามักกะสัน-สุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ตลิงก์)การก่อสร้างยังไม่เสร็จ และก็ไม่มีแอร์พอร์ตลิงก์ระหว่างสนามบินสุวรรณภูมิกับสนามบินดอนเมืองด้วย
ซึ่งหากจัดการปัญหาตรงนี้ได้ก็สามารถย้ายสนามบินได้ เพราะในต่างประเทศตามเมืองใหญ่ๆ อย่าง ลอนดอนและโตเกียว ก็มีหลายสนามบิน แต่ทางรัฐบาลในประเทศนั้นๆ ได้จัดทำระบบขนส่งที่ดี ไม่ให้ผู้โดยสารเสียเวลา
ทั้งนี้ หากทอท.ยังยืนยันที่จะกลับมาใช้สนามบินดอนเมืองสำหรับเส้นทางบินในประเทศ จะส่งผลกับการท่องเที่ยวเชื่อมโยงในภูมิภาค ที่จะมีนักท่องเที่ยวใช้บริการลดลง ขณะที่นักท่องเที่ยวในประเทศที่ต้องการต่อเที่ยวบิน(ไฟลต์)ไปต่างประเทศก็จะลดลงไม่น้อยกว่า 50% ในช่วงแรก
ท่องเที่ยวปี2550ยังสดใส
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปี 2550 ในงานพบปะสื่อมวลชนของสมาคมแอตต้า นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมแอตต้า กล่าวว่า มีแนวโน้มที่สดใสทุกตลาด ทั้งเอเชีย ,ยุโรป และ อเมริกา ส่วนเหตุการณ์ระเบิดเมื่อคืนวันที่ 31 ธันวาคม 49 มีผลกระทบน้อยมากเมื่อเทียบกับช่วงหลังเกิดเหตุการณ์สึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 47 โดยตั้งแต่วันที่ 1-14 มกราคม 50 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินสุวรรณภูมิลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเพียง 9% ซึ่งไม่นับรวมสนามบินนานาชาติแห่งอื่นๆ ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ทั้งนี้รัฐบาลต้องควบคุมสถานการณ์ให้ดีและไม่ให้มีเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้นอีก โดยมั่นใจว่าจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ ททท.วางไว้ คือ 14.8 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 5.47 แสนล้านบาท
ด้าน ร.ท.สุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระรทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากข้อเสนอของแอตต้าในเรื่องของการให้พื้นที่แอตต้าในสนามบินสุวรรณภูมินั้น ให้แอตต้าทำเป็นหนังสือเสนอเข้ามา และยินดีที่จะนำไปยื่นให้แก่ กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อดำเนินการแก้ไขโดยเร่งด่วน
นายวิจิตร ณ ระนอง ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการย้ายสนามบินจากสุวรรณภูมิกลับมาที่
สนามบินดอนเมือง แม้จะเป็นบางส่วนก็มองว่าไม่สมควร ซึ่งเรื่องที่เคยคุยกับไออาต้าแล้วซึ่งเห็นตรงกัน แต่หาก ทอท.ต้องการจะย้ายจริงๆ
ต้องมีเหตุผลและเงื่อนไข ระยะเวลาที่ชัดเจน ว่าทำไมต้องย้าย ขณะเดียวกันต้องการฝากให้หน่วยงานที่กำลังพิจารณาเรื่องการย้ายสนามบินด้วยว่า มีความคุ้มค่าเพียงพอหรือไม่ เพราะหากมี 2 สนามบิน ทุกฝ่ายทั้งรัฐและเอกชนต้องมีค่าใช้จ่ายต้นทุนด้านบริหารจัดการที่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพราะต้องวางพนักงานถึง 2 สนามบิน หอบังคับการบินก็ต้องใช้คน 2 ชุด เป็นต้น นอกจากนั้นสิ่งที่อยากให้รัฐคำนึงมากที่สุดคือความสะดวกของนักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริการ รวมถึงภาพลักษณ์ของสนามบินสุวรรณภูมิเพราะเป็นสนามบินใหม่ที่เพิ่งเปิด
|
|
|
|
|