Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2536








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2536
"2 ผู้ว่าการทางฯ"             
 

   
related stories

"การทางพิเศษฯ : พิสูจน์ตัวเองกลางพายุร้าย"

   
search resources

จรัญ บุรพรัตน์
สุขวิช รังสิตพล




การทำงานอยู่ในตำแหน่งใดด้วยระยะเวลายาวนาน โดยเฉพาะเมื่อเป็นตำแหน่งที่เป็นระดับสูงสุดในหน่วยงานนั้น ที่สามารถควบคุมทิศทางขององค์กรนั้นได้ด้วยแล้ว ความจำเป็นที่จะต้องจากตำแหน่งนั้นด้วยความไม่เสียดายหรืออาลัยเลยนั้น ปุถุชนทั่วไปคงทำได้ยากยิ่ง

จรัญ บุรพรัตน์ กับการดำรงเป็นตำแหน่งผู้ว่าการทางฯ ถึง 14 ปีนั้น ก็ไม่ได้อยู่ในข้อยกเว้นเช่นกัน

การตัดสินใจลาออกจากการทางฯ เป็นสิ่งที่จรัญทำใจได้อย่างยากเย็นแสนเข็ญ แม้ว่าตลอด 14 ปีเต็มที่นั่งในตำแหน่งที่ถูกกระแสทางการเมืองบีบบังคับให้เดินตามตลอดเวลา

จรัญถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถประสานประโยชน์ของแต่ละฝ่ายได้อย่างดีเยี่ยม เพราะนักการเมืองหลายต่อหลายคนที่ขึ้นมาดูแลการทางฯ หรือภาคเอกชนที่ต้องมาทำงานด้วย ไม่เคยมีเรื่องระหองระแหงจนต้องเกิดวิกฤตการณ์ที่ยากจะประนีประนอมดังเช่นคราวนี้

แม้ว่าในช่วงแรก ๆ ที่จรัญขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งใหม่นี้นั้น เขาจะมาด้วยการสนับสนุนของพรรคการเมืองระดับใหญ่ในขณะนั้น แต่จรัญก็มีความสามารถที่จะสร้างความสัมพันธ์กับพรรคการเมืองอื่นได้อย่างลงตัว ดังนั้นโครงการที่เกิดขึ้นในช่วงที่จรัญอยู่ในตำแหน่งนี้นั้น ทุกพรรคการเมืองจึงเห็นด้วยกับนโยบาย "บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น" ของจรัญเป็นอย่างยิ่ง จนกระทั่งมีผู้คาดหวังว่าจรัญน่าจะอยู่ในตำแหน่งนี้จนกระทั่งเกษียณอย่างแน่นอน

ในช่วงที่วิกฤตการณ์ทางด่วนมาจนถึงทางตันของปัญหา มีเสียงเรียกร้องจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะจากประธานกรรมาธิการคมนาคมของสภาผู้แทนราษฎร ให้เรียกตัวจรัญมาให้ปากคำถึงข้อผิดพลาดในอดีตเกี่ยวกับสัญญาทางด่วน ในฐานะผู้อยู่ใกล้ชิดปัญหาที่สุดคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้มีเสียงตอบจากจรัญ ว่าจะมาให้การได้เมื่อใด

ว่ากันว่าเหตุที่จรัญสามารถไปจำศีลภาวนา อย่างสงบเสงี่ยมโดยไม่มีใครสามารถไปวอแวได้นั้น เป็นเพราะอานิสงส์การทำตัวอย่างเสมอต้นเสมอปลายของตนเอง ในอดีตกับบรรดาพรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านจึงสามารถรอดตัวมาได้

หลังจากพ้นตำแหน่งผู้ว่าการทางฯ มา จรัญก็เก็บตัวนิ่งเงียบไม่ยอมเป็นข่าวแต่อย่างใด จนกระทั่งได้มีการเปิดเผยในที่สุดว่าเขาได้ไปนั่งในตำแหน่งที่ปรึกษาของบริษัทไทยอะโรเมติกส์ ด้วยการสนับสนุนอย่างแรงของเลื่อน กฤษณกรี ผู้ว่าการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) โดยอาศัยที่ ปตท. มีหุ้นอยู่ในไทยอะโรเมติกส์ถึง 100%

ความแตกต่างของงานที่ไทยอะโรเมติกส์กับที่การทางฯ คงไม่แตกต่างกันมากนัก เพราะจรัญยังอาศัยความรู้ด้านวิศวกรรมได้เช่นเดิม การทำงานที่มีความคล่องตัวมากขึ้นของเอกชน และการไม่มีอิทธิพลทางการเมืองเข้ามาแทรกแซง คงทำให้จรัญมีความสุขมากขึ้น

นอกจากนั้นยังมีความเป็นไปได้สูงมากว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ จรัญจะได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของไทยอะโรเมติกส์ เมื่อกรรมการผู้จัดการคนปัจจุบันของไทยอะโรเมติกส์ต้องเกษียณอายุในต้นปีหน้านี้

คงจะช่วยเยียวยาความรู้สึกได้เป็นอย่างดี

การเข้ามาสู่ตำแหน่งผู้ว่าการทางฯ ของสุขวิช รังสิตพลนั้น ค่อนข้างจะตรงข้ามกับจรัญ เพราะเป็นความตั้งใจของสุขวิชเองที่หวังจะเข้ามาสร้างชื่อเสียงในการเข้ามาแก้ไขปัญหาในองค์กรที่ตัวเองไม่เคยมีความรู้พื้นฐานมาก่อนเลย

ด้วยความสนิทและคุ้นเคยกับ "บิ๊กจิ๋ว" พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธจากการที่เคยร่วมทำโครงการอีสานเขียวมาด้วยกัน ผนวกกับความสนิทของสุขวิชกับกลุ่มอำนาจต่าง ๆ นั้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มทหาร 0143 หรือ จปร. 5 ซึ่งมี พล.อ. สุจินดา คราประยูร เป็นประธานกลุ่มนั้น สุขวิชก็มีความสัมพันธ์เป็นอย่างดี

จากความสัมพันธ์ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มอำนาจต่าง ๆ นี้เอง ทำให้สุขวิชไม่ค่อยมีปัญหาในด้านธุรกิจ ในช่วงที่มีปัญหาระหว่างเชลล์กับคาลเท็กซ์ กลุ่มทหารสาย จปร. 5 ก็เข้ามาเป็นที่ปรึกษาในการไกล่เกลี่ยปัญหานี้

ด้วยความเป็นนักรัฐศาสตร์จากรั้วเหลืองแดง และไต่เต้าจากการเป็นเซลล์แมนประจำเขต ขึ้นมาจนเป็นคนไทยคนแรกในตำแหน่ง NO. 1 ของคาลเท็กซ์ได้นั้น สุขวิชได้ตั้งความหวังไว้ว่า จะอยู่ในตำแหน่งผู้ว่าการทางฯ นี้เพียง 3 ปีเท่านั้นให้พอดีกับการเกษียณของตัวเอง

และแน่นอนว่าหลังจากนั้น การเมืองก็เป็นเส้นทางที่สุขวิชคาดหวังว่าจะก้าวไปสู่ โดยมีเป้าหมายขั้นต้นคือ การเป็น ส.ส. ของพรรคความหวังใหม่

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us