|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ช่อง 3 เตรียมขน ครอบครัวข่าว มุ่งสู่สถานีข่าวปีนี้ เดินหน้าปรับสัดส่วนรายการข่าววันจันทร์-ศุกร์เป็น 50% ส่งผลให้ราคาค่าโฆษณาช่วงเวลาข่าวเฉลี่ยปรับขึ้นอีก 15% หวังดึงรายได้เสริมทัพ จากรายการบันเทิงที่ลดลงในปีนี้ พร้อมดึง “สรยุทธ” นำทัพเสริมรายการข่าว “เรื่องเด่นเย็นนี้” โขกค่าโฆษณารายการนี้ปรับขึ้น 75% หวังสร้างความแข็งแกร่งให้รายการข่าวช่วงเย็น พร้อมลุยเสาร์อาทิตย์ด้วยรายการ “เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์” อีก 1 รายการ ในเวลา 11.00-12.00น. มั่นใจสิ้นปีมีรายได้รวมโตขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลัก นำหน้าตลาดที่โตเพียง 6-7%
นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการบริหาร บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เปิดเผยว่า ปีนี้ทางสถานีจะให้ความสำคัญกับรายการข่าวมากยิ่งขึ้น ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการบริหารเวลาในช่วงนอนไพร์มไทม์ให้เกิดรายได้มากที่สุด และเป็นการชดเชยรายได้จากช่วงรายการบันเทิงที่หายไปทดแทน โดยล่าสุดตามผังรายการขณะนี้ ในวันจันทร์-ศุกร์ จะมีรายการข่าวประมาณ 20 รายการ และในวันเสาร์อาทิตย์ อีก 2 รายการ รวมผู้ดำเนินรายการทั้งหมดกว่า 58 ราย ส่วนราคาค่าโฆษณาได้มีการปรับขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเฉลี่ยปรับขึ้นประมาณ 15 %
สำหรับช่วงเวลาค่าโฆษณาที่ปรับใหม่ได้แก่ ช่วงเวลารายการ เรื่องเล่าเช้านี้ จากเดิมนาทีละ 1.55 แสนบาท เพิ่มเป็น 1.75 แสนบาท มีผลตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมเป็นต้นมา และช่วงเวลา เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ จากเดิมที่ออกอากาศในช่วงเวลา 7.00-8.00น. มาเป็น 11.00-12.00น. นั้น เดิมราคาค่าโฆษณาคิดนาทีละ 1.5 แสนบาท เป็น 2.3 แสนบาท เริ่มมีผลตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน
ส่วนรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ถือเป็นรายการเดียวที่มีการปรับราคาค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นกว่า 75% จากเดิมนาทีละ 1 แสนบาท เพิ่มเป็น 1.75 แสนบาท จะมีผลตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ นอกจากนี้ยังมีช่วงเวลาในรายการ เก็บตก ที่มีการปรับราคาค่าโฆษณาขึ้นอีก 10 % เช่นเดียวกัน จากเดิม 2.9 แสนบาท เป็น 3.3 แสนบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ มีการปรับค่าโฆษณาสูงสุดถึง 75% นั้นก็เนื่องจาเหตุผลที่ช่อง 3 ดึงเอาสรยุทธ์ ทัศนะจินดามาลงจอในรายการนี้ และคาดหวังว่าจะสามารถดึงคน สร้างเรตติ้ง และสร้างเม็ดเงินโฆษณาได้ จึงปรับราคาดังกล่าว
นายประวิทย์กล่าวต่อว่า ส่วนช่วงเวลาในช่วงไพร์มไทม์นั้น ทางสถานียังไม่มีนโยบายปรับราคาค่าโฆษณาแต่อย่างไร ยังคงคิดอัตราเดิม คือ นาทีละ 4.2 แสนบาท แต่มีแนวโน้มที่จะปรับให้ช่วงเวลาในการออกอากาศของละครเพิ่มขึ้นแทน จากเดิมในวันจันทร์-ศุกร์ เฉลี่ยละครแต่ละเรื่องจะออกอากาศประมาณ 1.45 ชม. ซึ่งต้องการปรับให้เป็น 2 ชม.แทน ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเพื่อเพิ่มในส่วนของเวลาในการลงโฆษณานั้นเอง
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ทางสถานีหันมาให้ความสำคัญกับรายการข่าวตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา กับคำว่า ครอบครัวข่าว จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันรายการข่าวส่วนใหญ่ของทางสถานี ถือได้ว่า มีเรตติ้งที่น่าพอใจ จนสามารถกล่าวได้ว่าเป็นผู้นำรายการข่าวช่วงเช้าได้เริ่มจากรายการข่าว เรื่องเล่าเช้านี้, ผู้หญิงถึงผู้หญิง ไปจนถึง 30ยังแจ๋ว ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ตัวผู้ดำเนินรายการนั้น จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่ทำให้รายการน่าสนใจขึ้น รวมถึงทำให้ผู้ชมติดตามรายการนั้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการปรับรายการข่าวครั้งนี้ ทางสถานีได้ให้ความสำคัญกับตัวผู้ดำเนินรายการ โดยมีผู้ดำเนินรายการคนใหม่ที่มีชื่อเสียงและมีความสามารถเข้ามาร่วมงานด้วยอีกหลายคน
สำหรับผู้ดำเนินรายการที่เข้ามาเสริมทัพครอบครัวข่าวครั้งนี้ ได้แก่ นายสรยุทธ์ สุทัศนจินดา จากเดิมที่เป็นผู้ดำเนินรายการเรื่องเล่าเช้านี้อยู่ก่อนแล้ว จะเข้ามาช่วยเสริมรายการข่าว เรื่องเด่นเย็นนี้ พร้อมกับ นางสาวอินทิรา นาบ่อทอง ด้วย นอกจากนี้ นายสรยุทธ์ สุทัศนจินดา ยังเป็นผู้ดำเนินรายการข่าวในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ คู่กับ นางสู่ขวัญ คงสมพงษ์ อีก 1 รายการ คือรายการ เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์
นอกจากนี้ยังมีนางสาวทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว จะเข้ามาร่วมเป็นผู้ดำเนินรายการข่าววันใหม่ หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล เป็นผู้ร่วมดำเนินรายการเรื่องเล่าเช้านี้ นางสาวอินทิรา นาบ่อทอง เป็นผู้ดำเนินรายการ ข่าวในพระราชสำนัก นายกรณ์ เกียรติเฟื่องฟู และนายนิธิยศ ทรงวัฒนะกำจร เป็นผู้ดำเนินรายการ สีสันบันเทิง (วันเสาร์)
นายประวิทย์ กล่าวต่อว่า การปรับผังรายการครั้งนี้ นอกจากจะให้ความสำคัญกับรายการข่าวแล้ว ทางสถานียังจะให้ความสำคัญกับรายการเด็กและครอบครัวมากยิ่งขึ้น โดยอาจจะลงในเวลาเสาร์อาทิตย์ และช่วงเวลาตอนเย็น ในวันจันทร์-ศุกร์อีกส่วนหนึ่งเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามทางสถานียังมีรายได้หลักมาจากช่วงเวลาไพร์มไทม์ หรือจากช่วงเวลาการออกอากาศของละครเป็นหลัก ส่วนรายการข่าวนั้น คิดเป็นรายได้ประมาณ 20% ของรายได้ทั้งหมดเท่านั้น และจากการปรับผังรายการใหม่ครั้งนี้คาดว่า สิ้นปีสถานีจะมีรายได้เติบโตขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลัก หรือมากกว่าทั้งตลาดรวมที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นเพียง 6-7% เท่านั้น
|
|
|
|
|