|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ACAP มั่นใจปีนี้เติบโตอีก 15-20% แม้จะลดลงจากปีก่อน แต่ฐานรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อโตจากปี ก่อน เบรกแผนการร่วมทุนตั้งบริษัทใหม่เพื่อเข้าประมูลงานไม่เกิด แต่เปลี่ยนเป็นการจับมือกันเข้าประมูลงานแทน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเรียนรู้กันก่อนจะลงขันลุยงานใหญ่ในอนาคต พร้อมปรับแผน
นายเอนก ปิ่นวนิชย์กุล กรรมการ บริษัท เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด (มหาชน) (ACAP) เปิดเผยว่าปีนี้ บริษัทจะเติบ โตอีก 15-20% แม้ว่าอัตราการเติบโตจะเป็นการลดลงจากปีก่อนที่ตั้งเป้าไว้ที่ระดับ 20-30% แต่เปอร์เซ็นต์การเติบโตของรายได้ที่ ลดลงนั้น มาจากฐานที่ใหญ่หรือเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีการบริหารพอร์ตสินเชื่อมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว
" ปัจจุบัน พอร์ตสินเชื่อที่เราบริหารอยู่ที่ประมาณเกือบ 4 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นพอร์ตที่เราบริหารได้เท่ากับจำนวน พนักงานของเรา เพราะหากมากกว่านี้เราก็ต้องเพิ่มพนักงานเข้ามาอีก เป็นการเพิ่มต้นทุนไปในตัว เราขอเท่านี้พอ ล่าสุดเมื่อไตร มาส 3 ปี 49 ACAP เพิ่งได้งานใหม่มาเพิ่มพอร์ตวงเงินประมาณ 4-5 พันล้านบาท ส่งผลให้พอร์ตของบริษัทอยู่ในระดับที่รับได้ " นายเอนกกล่าว
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ ACAP จะหันมาเน้นงานด้านวาณิชธนกิจ หรือ IB เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สัดส่วนใกล้เคียงกับ งานบริหารหนี้ เป็นการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินงานของบริษัทด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทเน้นให้บริการด้านบริหารหนี้ เป็นอันดับหนึ่ง ที่สำคัญงานด้านวาณิชธนกิจนั้น จะเป็นงานเน้นร่วมลงทุน งานปรับโครงสร้างหนี้และ M&E ขณะที่งานด้านที่ ปรึกษาการเงินให้กับบริษัทที่ต้องการระดมทุนด้วยการขายหุ้น IPO นั้น เป็นงานที่บริษัทไม่ถนัด และผลตอบแทนจากงานดังกล่าว มีน้อย เพราะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมอื่น ๆ สูง แต่ ACAP ก็ยังมีงานเป็นที่ปรึกษาการเงินให้กับบริษัท 2 แห่ง ที่อยู่ระหว่างดำเนิน การเพื่อขายหุ้น IPO ให้กับประชาชนทั่วไป
สำหรับผลงานไตรมาส 4 ปี 49 ที่กำลังปิดงบการเงินลงแล้วนั้น กำไรไม่เพิ่มจากงวดเดียวกันของปี 48 แต่ก็ไม่ลดลง ขณะที่รายได้ดีขึ้นแต่ตัวเลขที่ชัดเจนต้องรอแจ้งตลาดหลักทรัพย์ก่อน อันเป็นผลจากดีลที่บริษัทบริหารหนี้และงานวาณิชธนกิจที่ บริษัทได้รับรู้รายได้เข้ามาเพิ่ม และงานด้านวานิชธนกิจ ACAP ก็ได้งานเพิ่มเข้ามาอีก 3-4 ดีลแล้ว
นายเอนกกล่าวถึงพันธมิตรที่เจรจาเพื่อหาทางร่วมทุนในการเข้าประมูลงานเข้ามาบริหารว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้ว ซึ่งจากก่อนหน้าที่จะร่วมลงขันเพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่ด้วยเงินประมาณ 300 ล้านบาทนั้น จะไม่เกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากบริษัทได้ปรับแผน ใหม่ ด้วยการจะหันมาใช้เงินเพื่อลงขันในการที่จะเข้าประมูลงานแต่ละงานและเป็นการสร้างความเชื่อถือให้กับพันธมิตร
" และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่จะมาลงขันกับเราก่อน เหมือนเป็นการศึกษาและให้เขาเห็น ศักยภาพของเราว่าเราบริหารงานกันแบบไหน และผลตอบแทนเป็นอย่างไร ก่อนที่จะเข้ามาร่วมงานกันจริง และภาวะปัจจุบันก็ทำ ลักษณะนี้ไปก่อนดีกว่า แต่อนาคตหากมีสิ่งที่เราต้องลุยงานแบบงานใหญ่ เราค่อยมาว่ากันอีกทีว่าดีลที่เราเคยคุยกันมาก่อนหน้านี้ น่าจะเป็นผลออกมา แต่ผมเชื่อว่าปีนี้ไม่น่าจะเป็นรูปแบบของการตั้งบริษัทใหม่ น่าจะเป็นลักษณะของการร่วมกันเพื่อเข้าประมูล งานแล้วมาร่วมบริหารมากกว่า " นายเอนกกล่าว
อย่างไรก็ตาม พันธมิตรทั้ง 3 รายที่เคยดีลงานกันมาแล้วนั้น ก็ยังจะร่วมและช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจ และแม้การ ร่วมทุนตั้งบริษัทใหม่จะไม่เกิดขึ้น แต่บริษัทก็ยังมั่นใจถึงตัวเลขรายได้ของบริษัทที่จะเติบโตจากปีที่แล้วแน่นอน เนื่องจากบริษัท ยังมีสินเชื่อในระบบอีกมาก ที่จะสามารถเข้าไปประมูลเพื่อนำมาบริหาร
ก่อนหน้านี้ ผู้บริหาร ACAP เคยกล่าวไว้ว่าผลงานปี 50 จะเติบโตได้มากขึ้น หลังการร่วมทุนกับพันธมิตรเกิดขึ้น เพราะ เชื่อว่าจะสามารถรับงานและมีงานมากขึ้น ส่งผลให้รายได้ของบริษัทสูงขึ้น ส่วนการร่วมทุนกับพันธมิตรแม้จะไม่ใช่การตั้งบริษัทใหม่ แต่การที่มีพันธมิตรมาหนุนต่อทำงาน และจะส่งผลตอบแทนการลงทุนให้เพิ่มขึ้นถึง 20%
|
|
|
|
|