นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง1-2 ปีที่ผ่านมาความต้องการคอนโดมิเนียมระดับกลางขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโครงการที่มีการพัฒนาในแนวรถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงปลายปี2548 นับได้ว่าลูกค้าให้การตอบรับอย่างดีจากตลาด โดยสามารถปิดการขายโครงการได้ในระยะเวลาเพียง 1 วันบ้าง 1 สัปดาห์บ้าง ซึ่งนับว่าเป็นการทำลายสถิติการเปิดขายโครงการอย่างถล่มทลาย และยิ่งช่วงหลังจากการปรับราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในปี2549 ความต้องการคอนโดมิเนียมในแนวรถไฟฟ้ายิ่งทวีความต้องการมากขึ้น
ทั้งนี้ เนื่องจากผู้บริโภคต้องการลดต้นทุนในการเดินทางเข้าสูงศูนย์กลางแหล่งธุรกิจหรือแหล่งงาน ทำให้พฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาสัยจากบ้านเดี่ยวมาซื้อคอนโดมิเนียมใกล้แนวรถไฟฟ้า และระบบคมนาคมที่สามารถเดินทางเข้าเมืองได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจากความต้องการดังกล่าวทำให้ ในปี2549 ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการพัฒนาโครงการในทำเลสุขุมวิทจำนวนมาก ทำให้ราคาที่ดินในย่านดังกล่าวมีการปรับตัวขึ้นสูงจนไม่สามารถพัฒนาโครงการระดับ1-3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีความต้องการ(ดีมานด์)ขยายตัวสูงสุด
นอกจากนี้ ที่ดินในทำเลแนวรถไฟฟ้าและถนนสุขุมวิทเองเริ่มหายากมากขึ้น ทำให้ทำเลย่านถนนลาด พร้าว-รัชดา มีศักยภาพที่สูงขึ้น และกลายเป็นที่ต้องการของลูกค้าคอนโดมิเนียมตลาดระดับกลาง เนื่องจากมีระบบรถไฟฟ้าใต้ดินรองรับการเดินทางเข้าศูนย์กลางธุรกิจได้รวดเร็ว และคาดว่าในอนาคตถนนลาดพร้าว-รัชดา จะกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ จากศักยภาพของทำเลและความต้องการที่สูง ส่งผลให้ในปี2550 ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นายธีระชน กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทได้ตัดสินใจซื้อที่ดินในย่านถนนรัชดา-ลาดพร้าว จำนวน 10 ไร่ ซึ่งอยู่บริเวณด้านข้างของสถานประกอบการโพไซดอน โดยขณะนี้ได้ตกลงทำสัญญาจะซื้อจะขายกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าในไตรมาสที่ 2 นี้จะสามารถเซ็นสัญญาซื้อขายเป็นที่เรียบร้อย โดยที่ดินดังกล่าวบริษัทมีแผนจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมฃโลว์ไรส์ เจาะตลาดระดับกลางราคาขายตารางเมตรละ 50,000 บาท มูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดตัวโครงการได้ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 นี้
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะเปิดตัวโครงการคอนโดฯ เมโทรพาร์ค เฟส3 ในช่วงปลายปี จากที่ก่อนหน้านี้ ได้เปิดขายอาคาร ใหม่ในเฟส 2 เพิ่มอีก 2 อาคาร หลังจากที่ปิดการขาย4 อาคารแรกไปแล้ว ซึ่งในการเปิดขายอาคารใหม่เพิ่มอีก 2 อาคารนี้ จะมีการจัดกิจกรรมทางการตลาด(อีเว้น)ใหญ่ในไตรมาส 2 ของปี เพื่อรองรับการเปิดขายอาคารใหม่ในเฟสที่ 2 อีก 4 อาคารที่เหลือในไตรมาส3 อย่างไรก็ตาม
สำหรับการเปิดเฟส 3 ของโครงการดังกล่าวนั้นจะต้องรอดูความชัดเจนทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศก่อน ซึ่งคาดว่าในช่วงปลายปี2550นี้ทุกอย่างจะลงตัวทั้งหมด
" ปลายปี2549 กลุ่มบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้เข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ถึง 2 โครงการ มีจำนวนรวมกว่า 5,000 ยูนิต และบริษัท ชาญอิสระ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ในย่านลาดพร้าวอีกกว่า 500 ยูนิต และเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทางบริษัท อารียา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้เปิดตังโครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ เอ-สเปซ อีกกว่า 3,000 ยูนิต ในย่านถนนรัชดา-อโศก ทำให้การแข็งขันในย่านดังกล่าวมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น"
ส่วนแผนการพัฒนาโครงการแนวราบนั้น นายธีระชนกล่าวว่า บริษัทมีแผนจะขยายเพิ่มเฟสต่อเนื่องในโครงการ เดอะวิลล่า รัตนาธิเบศธ์-ราชพฤกษ์ หลังจากที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าในกลุ่มบ้านแฝด และทาวน์เฮาส์อย่างดี โดยคาดว่าจะมีการเพิ่มสินค้าใหม่เข้าไปในโครงการดังกล่าว พร้อมด้วยการขยายพื้นที่ในการพัฒนาโครงการเพิ่ม ซึ่งในโครงการนี้บริษัทตั้งเป้าว่าในปี2550 จะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 800ล้านบาท
" สำหรับแผนการทำตลาดของบริษัทในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีการุกตลาดในทุกระดับ ทุกทำเล และทุกราคาให้สินค้าครอบคุลมในทุกตลาด แต่อย่างไรก็ดีบริษัทจะต้องรอดูภาวะทางการเมืองและเศรษฐกิจโดยรวมก่อนที่จะดำเนินการแบบเต็มตัว "นายธีระชนกล่าว
ด้านนายวิศิษฏ์ เลาหพูนรังสี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อารียา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเอ-สเปซ ว่า ล่าสุด โครงการเอ-สเปซ รัชดาภิเษกตัดถนน อโศกดินแดง ซึ่งเปิดตัวในเฟสแรกไป 3 อาคารมียอดขายแล้ว 600ล้านบาท และในเฟสที่ 2คาดว่าจะเปิดตัวในอีก1เดือนหลังจากนี้ ทั้งนี้สำหรับโครงการเอ-สเปซ รัชดา-อโศกนี้แบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส มีจำนวนยูนิตรวม 3,000 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 4,000 ล้านบาท โดยมีขนาดห้องที่เปิดขาย 2 ขนาดคือห้องสตูดิโอไทป 30ตารางเมตร และห้อง1นอน ขขนาด35 ตารางเมตร ราคาขายต่อตารางเมตร46,000 บาท อนึ่ง ที่ดินแปลงดังกล่าว ทางบริษัทได้ซื้อมาจากธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นทรัพย์สินรอการขาย(NPA)ของธนาคาร
ส่วนความคืบหน้าของโครงการเอ-สเปซ อ่อนนุช คอนโดมิเนียมพร้อมเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง บนพื้นที่ 19 ไร่ ในซอยสุขุมวิท 77 จำนวน 8 อาคาร หน่วยทั้งหมด 1,600 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นที่ 1-1.6 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ห้อง 30-35 ตารางเมตร หลังจากที่ได้เปิดตัวขายในช่วงไตรมาส 3 ปรากฏว่าได้รับการตอบ รับจากคนทำงานรุ่นใหม่เกินความคาดหมาย สามารถสร้างยอดขายได้ในขณะนี้ 1,300 ยูนิต จากจำนวนทั้งสิ้น 1,600 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าขาย 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจำนวนยูนิตทั้งโครงการเอ-สเปซ อ่อนนุช และเอ-สเปซ เกษตร-นวมินทร์ จะรองรับการขายได้ถึงไตรมาสสองของปีนี้
อย่างไรก็ตามคาดว่าในปีนี้ ทำเลย่านรัชดา-ลาดพร้าว จะกลายเป็นทำเลที่มีการแข่งขันของตลาดคอนโดมิเนียมระดับ 1-2 ล้านบาทที่รุนแรงมากที่สุดเนื่องจากมีผู้ประกอบการรายใหญ่เปิดขายโครงการใหม่เพิ่มขึ้น ทำให้มีสินค้า(ซัปพลาย)ใหม่ ไหลเข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าผู้ประกอบการที่เข้ามาจะแข่งขันกันในเรื่องของรูปแบบสินค้าและการให้ประโยชน์กับลูกค้าสูงสุด แทนการแข่งขันด้านราคา เนื่องจากดีมานด์ในตลาดยังมีอยู่ในปริมาณที่สูง
|