|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กันตนามั่นใจธุรกิจโพสต์โปรดักส์ชั่นและถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ปี 50’ โตต่อเนื่อง เผยเตรียมใส่เงินลงทุนอีก 200 ล้านบาท เพิ่มศักยภาพด้านฟิล์มแล็ป และห้องเสียง พร้อมจับมือ อี-ฟิล์ม อันดับหนึ่งจากอเมริกา เสริมภาพลักษณ์บริษัทเทียบชั้นอินเตอร์ แนะรัฐบาลเร่งให้อินเซนทีฟก่อนถูกคู่แข่งอย่าง ออสเตรเลีย ฮ่องกง สิงคโปร์ ซิวลูกค้าไป
นายสุรเชษฐ แก้วธนากาญจน์ รองกรรมการผู้จัดการ สายธุรกิจภาพยนตร์ บริษัทกันตนา กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทจะใช้งบประมาณอีกกว่า 200 ล้านบาท เพื่อ ขยายธุรกิจในงานด้านห้องเสียง ฟิล์มแล็ป และในส่วนของธุรกิจโพสต์โปรดักส์ชั่น เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ นอกจากนั้นยังได้จับมือกับ Deluxeอี-ฟิล์ม หรือ ดิจิตอลฟิล์ม จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการทำตลาดและขยายฐานลูกค้า และยังได้เรียนรู้โนฮาวน์ใหม่ๆจากบริษัทดังกล่าว เข้ามาปรับปรุงองค์กร
“อี-ฟิล์ม ดังกล่าว จะมีความชำนาญเรื่องฟิล์มแล็ประบบดิจิตอล และงานระบบที่มีมาตรฐาน ที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่าเป็นที่หนึ่ง ซึ่งจากการได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตร เขาจะหาลูกค้าในย่านเอเชียและยุโรป เข้ามาให้บริษัททำโพสต์โปรดักส์ชั่น ขณะเดียวกัน เราสามารถนำแบรนด์เขาไปการันตีให้ลูกค้า ถือเป็นการช่วยทำตลาดได้อีกทางหนึ่ง”
อย่างไรก็ตาม เฉพาะสายธุรกิจภาพยนตร์ ในส่วนของพี-โพสต์ โปรดักส์ชั่น ประจำปี2549 มีรายได้ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท เติบโตราว 10-20% โดยตลาดมีแนวโน้มเติบโตสูง
และจากการที่รัฐบาลเริ่มมีความชัดเจนที่จะช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในธุรกิจภาพยนตร์ ทำให้มั่นใจว่า ในปี 2550 ธุรกิจประเภทพีโปรดักส์ชั่น และโพสต์โปรดักส์ชั่น จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นอีกหนึ่งปีทองของธุรกิจนี้ ส่วนเหตุลอบวางระเบิดที่เกิดขึ้น ยังไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจ แต่ต้องการให้รัฐบาลควบคุมสถานการณ์ ไม่ให้บานปลายไปมากขึ้น เพราะอาจส่งผลกระทบได้ โดยต่อปี ธุรกิจพีโปรดักส์ชั่น และโพสต์ โปรดักส์ชั่น ทำรายได้เข้าประเทศไทยมากกว่าปีละ 5-6 พันล้านบาท
กลยุทธ์ของกันตนา จะดำเนินการเชิงรุกมากขึ้น ให้ความสำคัญที่จะออกเดินสายโรดโชว์ ซึ่งปีนี้จะไปโรดโชว์ที่ประเทศกลุ่มยุโรป อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี และในโซนเอเชีย เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น จีน ส่วนคู่แข่งของประเทศไทยในธุรกิจ โพสต์โปรดักส์ชั่น คือ ฮ่องกง สิงคโปร์ ออสเตรเลีย แต่ไม่ใช่สิ่งที่น่าวิตกกังวล เพราะจุดขายที่สำคัญ ของประเทศไทย คือ เป็นนักบริการที่ดี คลีเอทีฟมีความสามารถสูง และราคาค่าบริการที่ถูกกว่าประเทศคู่แข่ง 30-40%
นายสุรเชษฐ กล่าวว่า ต้องการให้ภาครัฐพิจารณษการให้อินเซนทีฟ บริษัทต่างชาติ ที่เข้ามาใช้บริการ ทั้งการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย และการเข้ามาใช้บริการ โพสต์โปรดักส์ชั่น โดยเฉพาะเรื่องของการลดหรือให้คืนภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ปัจจุบันการเติบโตของธุรกิจนี้ส่วนใหญ่เป็นฝีมือของภาคเอกชน ที่ต่างช่วยเหลือตัวเองในด้านการทำตลาดและหาลูกค้า ซึ่งกลุ่มที่เขาเข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่เพราะประทับใจในฝีมือ ขณะที่ในส่วนของกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ก็จะติดใจเรื่องของโลเกชั่น และอัธยาสัยของคนไทย ที่เป็นแรงจูงใจให้เขาเลือกที่จะใช้บริการที่เรา
|
|
|
|
|