"นิวยอร์คไลฟ์" ธุรกิจประกันชีวิตจากอเมริกา พันธมิตรค่ายแบงก์ใบโพธิ์ เติมความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในประเทศ ด้วยการมองข้ามเสียงบึ้ม และกลิ่นคาว ยืนยันจะปักหลักลงทุนระยะยาว เพราะศักยภาพตลาดเมืองไทยยังเต็มไปด้วยสิ่งจูงใจ ขณะที่ค่ายสิงโตสีส้ม "ไอเอ็นจีประกันชีวิต" เห็นวิกฤตจากแรงสะเทือนของระเบิด เป็นโอกาสเบี้ยใหม่จะไหลเข้าจนล้นทะลัก จนต้องขยายเพิ่มหมายในปีนี้
ในขณะที่ทุนต่างชาติหลากหลายสัญชาติ กำลังวิตกกังวลกับนโยบายภาครัฐ จนหลายธุรกิจถึงกับขีดเส้นให้มีการเลื่อนการตัดสินใจออกไป เพื่อเปิดช่องให้ธุรกิจได้มีโอกาสตัดสินใจและปรับเปลี่ยนโครงสร้างการทำงาน และนโยบายได้ทันท่วงที แต่ดูเหมือนธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีผู้ถือหุ้นเป็นต่างชาติเกือบจะครบทั้ง 25 แห่ง กลับไม่ได้แสดงอาการทุกข์ร้อนมากนัก
โดนอลด์ คาร์ดีน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต ที่มี นิวยอร์คไลฟ์จากอเมริกาถือหุ้นอยู่ 45% ที่เหลือเป็นหุ้นใหญ่แบงก์ไทยพาณิชย์ยังคงยืนยันถึงการลงทุนในตลาดเมืองไทยเป็นการลงทุนในระยะยาว ดังนั้นเสียงระเบิดหรือแม้แต่การแก้ไขกฎหมายต่างด้าว จึงไม่ใช่อุปสรรคสำคัญสำหรับการเร่งปูพรมในตลาดแห่งนี้
ผลการดำเนินงานตลอด 11 เดือนที่ผ่านมา สะท้อนถึงคำอธิบายที่ค่อนข้างชัดเจน บริษัทมีเบี้ยปีแรก 4,569 ล้านบาท เพิ่มขึ้น4% ยืนแท่นอันดับ 3 มีส่วนแบ่งการตลาด 10.4% โดยมีเบี้ยรับรวม 9,022 ล้านบาท ขยายตัว 15% ติดอันดับ 5 ที่ส่วนแบ่งการตลาด 5.9%
ขณะเดียวกัน ในย่านเอเชียตลาดเมืองไทยก็เป็นที่เชิดหน้าชูตาของนิวยอร์คไลฟ์มาโดยตลอด จะเป็นรองก็แค่อินเดียเท่านั้น ที่ยังเบียดตำแหน่งผู้นำอยู่เป็นระยะ
โดนอลด์ ยกภาพที่แสดงให้เห็นว่า ตลาดเมืองไทยยังมีสิ่งน่าจูงใจจาก พื้นที่ตลาดผู้ถือกรมธรรม์ที่ยังว่างอยู่มากมาย จุดนี้จึงเป็นโอกาสจะเร่งขยายธุรกิจได้อีกมาก
นอกจากนั้นจากสถิติก็ยังบอกให้เห็นว่า อุตสาหกรรมประกันชีวิตเมื่อเทียบกับธุรกิจให้บริการทางการเงินอื่น ยังมีอัตราการเติบโตในภาพรวมที่ค่อนข้างดีกว่า ดังนั้นบริษัทจึงยังไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายใดใดในช่วงเวลานี้
ขณะเดียวกัน ในแง่ของกิจกรรมการตลาดก็ยังมีอยู่ต่อเนื่อง โดยภายหลังการหันมาโฟกัสช่องทางขายผ่านตัวแทนและช่องทางอื่นนอกเหนือ ช่องทางแบงแอสชัวรันส์หรือขายประกันชีวิตผ่านสาขาแบงก์พันธมิตร ก็เริ่มมีกิจกรรมตลาดที่จะช่วยผลักดันเบี้ยปีแรกให้สูงขึ้น
ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ฯ เริ่มต้นปีหมูด้วยการเปิดตัวโปรแกรมการแข่งขัน Asia Challenge Cup หรือรายการแข่งขันผลิตเบี้ยปีแรกระหว่างทีมขายระดับประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค 7 ประเทศ ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ โดยมีเงินรางวัลมูลค่าถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ค่ายสิงโตสีส้มหรือ ไอเอ็นจีประกันชีวิต ก็เริ่มแผนการตลาดปี 2550 ด้วยการขยายเป้าหมายมากกว่าปีที่ผ่านมา
สมโพชน์ เกียรติไกรวัลศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไอเอ็นจีประกันชีวิต ยอมรับว่า บรรยากาศการเมืองที่ปกคลุมภาวะเศรษฐกิจอาจจะเป็นอุปสรรคต่อแผนการตลาด แต่ถ้ามองในแง่บวก ก็จะพบว่าเริ่มเห็นโอกาสการเติบโตของเบี้ยใหม่เพิ่มมากขึ้นจากสถานการณ์ที่ยังน่ากังวล
" ไม่อยากบอกว่าเบี้ยไหลเข้ามามาก จนเราต้องเบรกไว้ให้นำไปเป็นผลงานในปีหน้าบ้าง"
ในปี 2549 ไอเอ็นจีฯมีเบี้ยปีแรก 1,330 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,297 ล้านบาท เบี้ยต่ออายุ 2,197 ล้านบาท จากเป้าหมายที่วางไว้ 2,123 ล้านบาท โดยปี 2549 ได้กำหนดเป้าหมายผลิตเบี้ยใหม่หรือเบี้ยประกันปีแรกไว้ที่ 1,799 ล้านบาท และเบี้ยประกันปีต่ออายุ 2,959 ล้านบาท คิดเป็นเบี้ยประกันรับรวม 4,758 ล้านบาท
สมโภชน์ บอกถึงทิศทางธุรกิจประกันชีวิตปีหมู โดยรวมอาจไม่กระโดดเกิน 10% ส่วนสำคัญเกิดสนามแข่งขันที่ค่อนข้างดุเดือด ขณะที่ปี 2549 ที่ผ่านมาธุรกิจประกันชีวิตก็มีการเติบโตเบี้ยปีแรกทั้งระบบเพียง 5%
ภาพรวมประกันชีวิตปี2549 จึงเห็นได้ชัดเจนว่า การขยายตัวเบี้ยใหม่เพียง 5% หรือคิดเป็น 3.2-3.24 หมื่นล้านบาท และเบี้ยรับรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 7-8% หรือ 1.75-1.76 แสนล้านบาท หล่นจากที่คาดการณ์จากต้นปีที่เชื่อว่าจะขยายตัวถึง 10% หรือ 1.83 แสนล้านบาท
สมโพชน์ บอกว่า ไม่ใช่เบี้ยใหม่ที่ไหลเข้ามามากเท่านั้น แม้แต่ตัวแทนที่ตั้งไว้ว่าจะเพิ่มเป็น 6,000 รายก็มีเข้ามาถึง 7,000 กว่าราย จึงคาดว่าในปีนี้ตัวแทนจะเพิ่มจำนวนเป็น 8,000 ราย
ทั้งหมดนี้จึงน่าจะบอกได้ถึงธุรกิจในฝั่งที่ยังไม่สั่นไหวไปกับสถานการณ์แวดล้อมที่ถูกมองว่าเปราะบาง ไม่ว่าจะเป็นชายแดนใต้ที่อาบไปด้วยเลือด เกมการเมืองที่ยังร้อนไปด้วยควันไฟ แรงบีบจากโลกตะวันตกเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายต่างด้าว ยังไม่รวมเรื่องค่าเงินบาท อัตราดอกเบี้ย และเม็ดเงินทุนที่ยังลังเลว่าจะอยู่หรือจะไป....
|