|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไฟเขียว เอเชียโฮเต็ล กลับมาซื้อขายในหมวดธุรกิจการท่องเที่ยวและสันทนาการตั้งแต่ 22 ม.ค.50 หลังปรับโครงสร้างหนี้เสร็จมีกำไรติดต่อกัน3 ไตรมาส ส่วนผู้ถือหุ้นเป็นบวก ด้าน “ศักรินทร์”ชี้ มีโอกาสบจ.เข้าอยู่ในกลุ่มเอ็นพีจีเพิ่มจากเศรษฐกิจไม่ดี ผลดำเนินงานแย่ จากขณะนี้ที่มี 10 บริษัท
นางภัทรียา เบญจพลชัย ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการพิจารณาให้บริษัท เอเชียโฮเต็ล จำกัด (มหาชน) หรือ ASIA พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน โดยปลดเครื่องหมาย SP (Suspension) และ NC (Non-Compliance) และอนุญาตให้ซื้อขายหลักทรัพย์ ในหมวดธุรกิจการท่องเที่ยวและสันทนาการ (กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ) ได้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2550 เป็นต้นไป ซึ่งเป็น บริษัทที่พ้นเหตุแห่งการเพิกถอน ในลำดับที่ 1 ของปี 2550
ทั้งนี้เอเชียโฮเต็ล ได้ยื่นคำขอให้พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอนและเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท โดยแสดงให้เห็นว่ากลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในธุรกิจโรงแรมสามแห่งและธุรกิจให้เช่าช่วงพื้นที่ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัท เป็นเวลา 3 ไตรมาสติดต่อกัน ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 / 2549 ถึงไตรมาสที่ 3 /2549 และจากผลสำเร็จในการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ซึ่งได้มีการทยอยปรับโครงสร้างหนี้มาตั้งแต่ปี 2542
ดังนั้นทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 เท่ากับ 931.78 ล้านบาท ผู้สอบบัญชีได้แสดงความอย่างไม่มีเงื่อนไขต่องบการเงินรวมฉบับตรวจสอบ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2548 และงบการเงินรวมฉบับสอบทานไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2549 ตลอดจนได้แสดงว่าบริษัทมีฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่มั่นคงตามสภาพธุรกิจของบริษัทไปอย่างต่อเนื่อง
นางภัทรียา กล่าวว่า ผู้ถือหุ้นที่มีส่วนร่วมในการบริหารงานของบริษัท (Strategic Shareholders) ได้แก่ ผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมกรรมการ และผู้บริหารของบริษัทรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องและบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มบุคคลดังกล่าว รวมทั้งผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นเกินกว่า 5% ของทุนชำระแล้วและผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งถือหุ้นสามัญ 26.84 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 83.89% ของทุนชำระแล้ว
ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นกลุ่มเตชะหรูวิจิตร และบุคคลผู้มีส่วนรวมในการบริหารให้คำรับรองต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่าจะไม่นำหลักทรัพย์ทั้งหมดของตนออกขายภายใน 1 ปี นับแต่วันที่หลักทรัพย์ของ ASIA กลับมาทำการซื้อขายในหมวดธุรกิจการท่องเที่ยวและสันทนาการ ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกผู้ถือหุ้นดังกล่าวได้รับการผ่อนผันให้ทยอยขายหลักทรัพย์ได้ 25% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่ถูกห้ามขายทั้งหมด และใน 6 เดือนถัดไปสามารถทยอยขายหลักทรัพย์ ได้อีก 25% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่ถูกห้ามขายทั้งหมด
"เนื่องจาก ASIA ถูกสั่งห้ามซื้อขายมาตั้งแต่ปี 2545 รวมถึงในอดีตกลุ่มบริษัทมีรายการกับกิจการที่เกี่ยวข้องกันจำนวนมาก ดังนั้นขอให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปได้ศึกษาข้อมูลของบริษัทจากงบการเงินในระยะที่ผ่านมาและสรุปข้อสนเทศของบริษัท โดยสามารถศึกษาข้อมูลดังกล่าวได้จากระบบบริการข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ และเพื่อให้การซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นไปตามสภาพความจริงตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงกำหนดให้ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ของ ASIA บนกระดานหลักในวันที่ 22 ม.ค.นี้ ไม่มีกำหนดราคาสูงสุดและต่ำสุด" นางภัทรียา กล่าว
นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานกำกับตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ขณะนี้มีบริษัทที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากยังมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนที่จะกลับมาซื้อขายในหมวดปกติ (กลุ่มNPG) อีกจำนวน 10 บริษัท ซึ่งจะมีบริษัทใดอีกบ้างที่กลับมาซื้อขายในหมวดปกตินั้น ต้องรอพิจารณาในเรื่องของผลประกอบการในไตรมาส 4/49 ส่วนตัวคาดว่าอาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบริษัทจดทะเบียนที่จะเข้ามาอยู่ในกลุ่ม NPG เพิ่มขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดี ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ก็มีการติดตามในเรื่องดังกล่าว แต่อย่างไรก็ต้องติดตามผลประกอบการในไตรมาส 4/49 ก่อน
|
|
|
|
|