บิ๊กแบงก์กสิกรไทยชี้มาตรการกันเงินสำรอง 30% มีผลให้ในระยะยาวบริษัทต่างๆ ที่ต้องการลงทุน หันมากู้ผ่านแบงก์พาณิชย์ไทยมากขึ้น ย้ำกสิกรฯ ยังคงเป้าสินเชื่อที่ 15% เชื่อพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังดีอยู่ และกำลังการผลิตในภาคธุรกิจบางประเภทยังเพิ่มขึ้น ส่วนเหตุการณ์ระเบิดในช่วงส่งท้ายปีใหม่มีผลต่อจิตวิทยาของนักลงทุน แต่หากชี้แจงได้ดี คาดนักลงทุนต่างชาติจะกลับมาลงทุนในไทยต่อ
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการกันเงินสำรอง 30% มาสกัดการเก็งกำไรค่าเงินบาทว่ามองว่าในช่วงสั้นๆ อาจมีผลกระทบต่อลูกค้าที่กู้เงินจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทย แต่ระยะยาวเชื่อว่าบริษัทต่างๆ หันมาพึ่งพาแหล่งเงินทุนภายในประเทศมากขึ้น โดยคาดว่าในหลายๆ บริษัทจะหันมากู้เงินผ่านธนาคารพาณิชย์หรือออกหุ้นกู้ในประเทศแทน และจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง ยิ่งส่งผลให้สภาพคล่องในระบบสถาบันการเงินมีเพียงพอที่จะขยายธุรกิจในช่วงสั้นๆ ได้
“เชื่อว่าหุ้นกู้ดังกล่าวที่จะออกมาจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนในประเทศ แต่อย่างไรก็ตามประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนา ยังมีความต้องการเม็ดเงินการลงทุนปริมาณมากจากต่างประเทศ ซึ่งหลายๆ บริษัทก็มีการติดต่อไปยังแบงก์ชาติเกี่ยวกับเรื่องมาตรการการกันสำรองที่จะมีผลกระทบต่อเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ ซึ่งต้องรอคำตอบจากแบงก์ชาติอยู่ ทำให้ในระยะนี้ก็คงไม่มีอะไร”นายบุญทักษ์ กล่าว
นายบุญทักษ์ กล่าวว่า ในส่วนของของธนาคารเองก็ยังคงไม่มีการพิจารณาปรับเป้าสินเชื่อแต่อย่างใด เพราะยังมีความเชื่อมั่นในพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ และยังมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น และในส่วนของภาคธุรกิจนั้นยังมีการขยายกำลังการผลิตอยู่ซึ่งเชื่อว่าทุกภาคธุรกิจยังมีความต้องการเงินทุนในการขยายธุรกิจอยู่ สำหรับเป้าหมายการขยายสินเชื่อโดยรวมของธนาคารมีอัตราการเติบโตที่ 15% หรือคิดเป็นมูลค่า 6-7 หมื่นล้านบาท โดยมาจากลูกค้ารายใหญ่ 10% และลูกค้าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) 10% โดยเชื่อว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจน่าจะอยู่ที่ระดับ 4-5%
“เมื่อพิจารณาถึงจีดีพีก็พอๆ กันกับปีที่ผ่านมา ความต้องการสินเชื่อก็ยังมีอยู่ประกอบกับปีที่ผ่านมาธนาคารได้มีการปรับโครงสร้างสายงานธุรกิจทำให้เชื่อว่าในปีนี้เราจะสามารถให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น” นายบุญทักษ์ กล่าว
นายบุญทักษ์ กล่าวว่า ในส่วนของการเกิดเหตุลอบวางระเบิดในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ที่ผ่านมายอมรับว่าส่วนใหญ่กระทบและมีผลต่อจิตวิทยาของนักลงทุน แต่เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบมากนักเพราะปัจจัยพื้นฐานของประเทศยังมีทิศทางในเกณฑ์ดี และสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นหากเราได้มีโอกาสอธิบายและให้ข้อมูลแก่นักลงทุนก็จะส่งผลให้นักลงทุนเริ่มมีความเข้าใจและมั่นใจที่จะกลับเข้ามาลงทุนต่อ
“ผลทางจิตวิทยาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง รวมไปถึงมาตรการใหม่ๆ ที่นำมาใช้ถ้ามีการให้ข้อมูลแก่นักลงทุน เชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนเข้ามาและทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะประเทศไทยยังมีพื้นฐานที่น่าลงทุนอยู่ ประกอบกับไทยเองก็ยังให้ความสำคัญกับเม็ดเงินลงทุนในต่างประเทศ”
KBANK จับมือ BAY ปล่อยกู้จังซีลอน 2.6 พันล.
วานนี้ (11ม.ค.) ได้มีการลงนามเซ็นสัญญาเงินกู้ระหว่างบริษัท ภูเก็ต สแควร์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้ากับธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นจำนวนเงิน 2,600 ล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการในด้านต่างๆ โดยมีระยะเวลาของการทำสัญญาเงินกู้ 6 ปี ทั้งนี้ งบประมาณจำนวน 1 ใน 3 ทางโครงการจะนำไปใช้พัฒนาในส่วนของศูนย์การค้าฯ ในด้านการตกแต่งอาคาร พื้นที่โซนต่างๆ ตลอดจนการสร้างถนนเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับกลุ่มลูกค้าที่จะเดินทางเข้ามายังศูนย์ฯ ฯลฯ ซึ่งผลตอบรับจากการเปิดให้บริการในช่วงเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวและกลุ่มลูกค้าเดินทางเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯกว่า 10,000 คนต่อวัน และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 คนต่อวัน ภายหลังจากเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ
อนึ่ง โครงการศูนย์การค้าจังซีลอน ถือเป็นศูนย์กลางการจับจ่ายใช้สอย ดื่ม กิน เที่ยว หรือ ‘The Destination for Life Leisure’ ที่มีขนาดใหญ่และใหม่ที่สุดของหาดป่าตอง ประกอบด้วยศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และโรงแรมระดับ 5 ดาว บนเนื้อที่กว่า 55 ไร่ โดยในขณะนี้ได้เปิดให้บริการในส่วนของศูนย์การค้าแล้วประมาณ 40% ประกอบด้วยร้านค้าแบรนด์ชั้นนำกว่า 60 ร้านค้า อาทิ ไฮเปอร์มาร์เก็ต คาร์ฟู, ร้านกาแฟสตาร์บัคส์, คอฟฟี่เวิลด์, พิซซ่า คอร์เนอร์, ครีมแอนด์ฟัดจ์ ไอศกรีม, บู๊ทส์, Swensens, เบอร์เกอร์ คิง, ร้านหนังสือ Bookazine และโซน That’s Siam ซึ่งเป็นศูนย์รวมสินค้าไทยจากทั่วทุกภาคของประเทศ เป็นต้น สำหรับโครงการศูนย์การค้าจังซีลอนนั้น ขณะนี้ได้ก่อสร้างไปแล้วร้อยละ 95 คาดว่าจะสร้างเสร็จและเปิดให้บริการอย่างสมบูรณ์ในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
ส่วนของโรงแรมมิลเลเนียม รีสอร์ท ภูเก็ต โรงแรมระดับ 5 ดาว กว่า 400 ห้องนั้น ก่อสร้างไปแล้วร้อยละ 30 ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในช่วงปลายปี 2550 ทั้งนี้ เพื่อมุ่งให้ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต กลายเป็นศูนย์กลางในการรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เดินทางมายังหาดป่าตองที่มีจำนวนมากถึง 5.2 ล้านคนต่อปีได้อย่างเต็มรูปแบบ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การระดมเงินของภาคธุรกิจในปัจจุบันมีการกู้ในตลาดทุน ตลาดตราสารหนี้ รวมทั้งออกหุ้นกู้ในต่างประเทศ แตกต่างจากอดีตที่ขอสินเชื่อจากแบงก์พาณิชย์ แต่พอมาตรการกันสำรอง 30% ของ ธปท.กำลังกดดันให้เอกชนต้องกลับมากู้เงินในระบบธนาคารพาณิชย์อีกครั้ง
|