บอร์ดซีฮอร์ส อนุมัติขายหุ้นเพิ่มทุนอีกรอบ 370 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.40 บาท แม้ว่าจะมีเงินสดพร้อมลงทุนกว่า 1.6 พันล้านบาท หลังก่อนหน้าเคยเพิ่มทุนมาแล้วกว่า 2.6 พันล้านหุ้น ในราคาหุ้นละแค่ 0.63 บาท พร้อมอนุมัติลงทุนใน "บุญอเนก" เดินหน้ารุกธุรกิจเอทานอลเต็มที่ ด้านตลท.เตรียมให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่ม
นายชาตรี มหัทธนาดุลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีฮอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ SH กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 370,000,000 บาท แบ่งเป็น 370 ล้านหุ้น ซึ่งทำให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทเพิ่มเป็น 3,150,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จากเดิมทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 2,780,000,000 บาท โดยจะเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงในราคาหุ้นละ 3.40 บาท
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน และการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่มเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจการผลิต จำหน่าย และบริการเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง โดยเงินเพิ่มทุนจะใช้สำหรับการลงทุนในโครงการทางด้านพลังงาน โครงการด้านการผลิต จำหน่าย และบริการเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง และเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบธุรกิจใหม่
สำหรับประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับจากการเพิ่มทุนและการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้จะทำให้โครงสร้างทุนและฐานะทางการเงินของบริษัทเพื่อรองรับการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจการผลิต จำหน่าย และบริการเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อกำไรสุทธิของบริษัทรวมถึงเงินปันผลที่จะมีให้แก่ผู้ถือหุ้นในอนาคต
นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติอนุมัติการสร้างโรงงานผลิตเอทานอลขนาดกำลังการผลิต 1.50 ล้านลิตรต่อวัน โดยบริษัทเป็นผู้ลงทุนเอง พร้อมอนุมัติการเข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญของบริษัท บุญอเนก จำกัด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษามูลค่าการลงทุน
ทั้งนี้ สิ่งที่บริษัทจะได้รับจากการซื้อหุ้นดังกล่าว คือ สิทธิบนที่ดินที่บริษัท บุญอเนก จำกัด ครอบครองอยู่ ซึ่งสามารถนำมาใช้ก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอลได้ โดยทรัพย์สินของมูลค่าในครั้งนี้มีมูลค่าโดยรวมประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 66.06% ของสินทรัพย์รวมของบริษัท (2,270.53 ล้านบาท ) ตามงบการเงินสอบทาน ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 ปรับปรุงด้วยปรับปรุงด้วยทุนจดทะเบียนและชำระแล้วที่ออกและเสนอขายให้กับบุคคลเฉพาะเจาะจง เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2549 จำนวน 2,600 ล้านบาท (มูลค่าหุ้นละ 0.63 บาทคิดเป็นจำนวนเงินรวม 1,638 ล้านบาท)
สำหรับผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับเนื่องจากการก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอลจำเป็นต้องใช้พื้นที่เป็นจำนวนมาก และต้องอยู่ในทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม ซึ่งบริษัทประเมินแล้วเห็นว่า ที่ดินที่บริษัท บุญอเนก จำกัด ถือครองอยู่มีความเหมาะสม โดยการก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอล นอกเหนือจากทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมแล้ว การเข้าถือครองที่ดินผ่านการถือหุ้นใน บริษัท บุญอเนก จำกัด ทำให้บริษัทสามารถประหยัดเวลาในการจัดหาที่ดินได้เป็นอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลทำให้การก่อสร้างโรงงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว และสามารถเริ่มดำเนินการผลิตได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าวคณะกรรมการของบริษัทเห็นว่าธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานเป็นธุรกิจที่กำลังได้รับความสนใจ และมีอัตราการเติบโตสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจด้านพลังงานทดแทน การเข้าซื้อหุ้นสามัญในครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเกื้อหนุนให้การประกอบธุรกิจผลิตเอทานอลของบริษัทเป็นไปในทิศทางที่บริษัทตั้งเจตนารมณ์ไว้
อนึ่งก่อนหน้านี้ บมจ.ซีฮอร์สได้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับนักลงทุน 2 รายคือ นายวรเจตน์ อินทามระ จำนวน 2,179,000,000 หุ้น โดยจะทำให้เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 78.38% ของทุนจดทะเบียน และนายสมโภชน์ อาหุนัย จำนวน 421,000,000 หุ้น โดยจะเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 15.14% ซึ่งการเข้ามาของผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้ง 2 รายเป็นการซื้อหุ้นเพิ่มทุนในราคาหุ้น 0.63 บาท แตกต่างจาการขายหุ้นเพิ่มทุนในรอบนี้ซึ่งจะมีการขายหุ้นทั้งหมด 370 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.40 บาท
นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานกำกับตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการสอบถามข้อมูล SH เพิ่มเติมในเรื่องการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง ว่าจะมีการเสนอขายให้กับนักลงทุนรายใด ส่วนจะมีการในรายละเอียดในเรื่องการเพิ่มทุน การได้มาในหุ้นบริษัทบุญอเนกเพื่อเติมหรือไม่นั้น
ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อมูลของ SH มีการแจ้งมาว่าข้อมูลที่SH มีการแจ้งเพียงพอและครบถ้วนต่อนักลงทุนใช้ประกอบการพิจารณาลงทุนหรือไม่ ส่วนการที่ SH จะต้องมีการรายงานการได้มาของหุ้นบุญอเนกหรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณา โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ยืนยันว่าตลาดไม่ได้เข้มงวดกับบริษัทดังกล่าวแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นการปฏิบัติไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
|