บอร์ดแสนสิริ ไม่หวั่นทุนต่างชาติหนีหายหลังกฎหมายนอมินีทำพิษ ยืนยันเดินหน้าขอมติอนุมัติแผนเพิ่มทุนจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นต่อในวันที่ 18 มกราคมนี้ พร้อมถอดวาระ "เศรษฐา ทวีสิน" ซื้อหุ้นบริษัทเหตุกลต.ชี้เข้าข่ายหุ้น ESOP เล็งหาทางออกใหม่ ระบุบริษัทแข็งแกร่งพอที่เพิ่มทุนหวังขึ้นผู้นำอสังหาฯ

นายวันจักร์ บุรณศิริ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2550 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2550 ที่ผ่านมา ยังคงยืนยันดำเนินการตามแผนเพิ่มทุนต่อไป หลังจากที่ได้มีมติให้ถอดวาระการพิจารณาอนุมัติรายการที่เกี่ยวโยงกัน ในกรณีที่ผู้บริหารของบริษัท อันได้แก่ นายเศรษฐา ทวีสิน ได้แสดงเจตนาที่จะเข้าร่วมลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่บริษัทมีแผนที่จะออกและเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ออกจากระเบียบวาระการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2550

ทั้งนี้ เนื่องจากในเบื้องต้นสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายตามประกาศของก.ล.ต. ที่ กจ.36/2544 เรื่องการขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ต่อกรรมการหรือพนักงาน โดยหากกลุ่มของนายเศรษฐา ทวีสิน ยังคงมีความประสงค์จะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนใหม่นั้น ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในการประกาศเรื่อง ESOP ดังนั้น จึงได้รับยกเว้นไม่ต้องขออนุมัติการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน ทั้งนี้ในส่วนของแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนอื่นๆ ยังคงให้ดำเนินการไปตามปกติ โดยจะมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2550 ในวันที่ 18 มกราคม 2550 เพื่อเสนอขออนุมัติแผนเพิ่มทุนต่อไป

" การที่ทาง ก.ล.ต. ได้มีการตีความเบื้องต้นเรื่องการเสนอซื้อหุ้นเพิ่มทุนของผู้บริหารว่า เป็นการเข้าข่ายการขายหลักทรัพย์ใหม่ให้กรรมการหรือพนักงานที่เรียกว่า ESOP นั้น สำหรับทางคุณเศรษฐานั้น ก็ยังคงมีความมุ่งมั่นอย่างชัดเจนที่จะซื้อหุ้นของบริษัทเพื่อเป็นการลงทุนต่อไป โดยส่วนตัวแล้วผมเข้าใจว่า ข้อขัดข้องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องในทางเทคนิคเนื่องจากการที่คุณเศรษฐาจะเข้าร่วมลงทุนในบริษัทครั้งนี้ เป็นการเข้ามาลงทุนที่มีลักษณะ และในฐานะเช่นเดียวกับผู้ลงทุนใหม่รายอื่นๆ ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย แต่เป็นเรื่องปกติของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของต่างประเทศ ซึ่งในเรื่องนี้บริษัทและคุณเศรษฐาคงต้องหาทางแก้ไขข้อขัดข้องที่เกิดขึ้นนี้เพื่อให้ได้ทางออกที่เป็นที่ยอมรับกับทุกฝ่ายต่อไป" นายวันจักร์กล่าว

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ยังได้มีการให้แก้ไขระเบียบวาระการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2550 เพื่อเสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาวาระสำคัญได้แก่ วาระการพิจารณาอนุมัติแผนเพิ่มทุนของบริษัท , วาระการอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน, วาระการอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ์ที่จะซื้อหุ้นของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และวาระการพิจารณาอนุมัติจัดสรรหุ้นสามัญที่ออกใหม่จากการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทด้วย

นายวันจักร์ กล่าวต่อว่า แผนเพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่ของแสนสิริจะยังคงดำเนินไปตามปกติ โดยจะมีการเสนอแผนและขออนุมัติแผนจากประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 18 มกราคม ต่อไป และบริษัทยังคงเชื่อมั่นว่าผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่น่าจะมีความเห็นชอบกับแผนการเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพื่อเป็นการรองรับแผนการขยายตัวทางธุรกิจที่เติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต

"ในปัจจุบันการดำเนินธุรกิจของแสนสิริ ถือได้ว่ามีความแข็งแกร่งและมั่นคงอยู่แล้ว โดยปัจจุบันบริษัทมี มีส่วนของหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ระดับ 1.28 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบฐานเงินทุนกับอัตราส่วนการลงทุนในปัจจุบันแล้ว ถือได้ว่าเป็นอัตราส่วนที่ปกติ และยังมีเงินสดสำรองเพื่อการลงทุนในจำนวนที่เพียงพอสำหรับการขยายการเติบโตในสภาวะปกติ ในขณะที่การเพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่นั้น เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยทำให้บริษัทสามารถขยายฐานการเติบโตทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้มั่นคงและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นการสร้างโอกาส ที่จะทำให้แสนสิริสามารถก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย" นายวันจักร์ กล่าว