|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
สหยูเนี่ยน เท 50 ล้านบาท แตกไลน์เสื้อผ้ากีฬาดีแมคปีหน้า พร้อมปักธงลุยสินค้าเพื่อสุขภาพ สนตลาดเจลลดอาการบาดเจ็บ นำร่องต้นปีแตกไลน์ถุงเท้า-แผ่นรองเท้า–รองเท้าเด็ก นวัตกรรมใหม่เทคโนโลยีนาโนป้องกันแบคทีเรีย หั่นราคาคู่แข่ง 25-30% ลุยช่องทางขายตรงไตรมาสสอง 3 สิ้นปีตั้งเป้าโต 15% หรือกวาดรายได้ 170 ล้านบาท
นายชณา วสุวัต ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้ารองเท้ากีฬาภายใต้แบรนด์ "ดี-แมค" (D-maQ) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้วางแนวทางการทำตลาดแบรนด์ดีแมคเป็นผลิตภัณฑ์กีฬาที่มีสินค้าครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันมีเพียงกลุ่มรองเท้ากีฬาอย่างเดียวเท่านั้น ดังนั้นในปีหน้านี้ได้เตรียมทุ่มงบ 40-50 ล้านบาท แตกไลน์กลุ่มเสื้อผ้ากีฬาแบรนด์ดีแมค โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาด นอกจากนี้ยังสนใจแตกไลน์เจลช่วยลดอาการบาดเจ็บ หรือสินค้าที่อยู่ในไลน์เพื่อสุขภาพเป็นหลัก
ล่าสุดปีนี้บริษัทแตกไลน์ถุงเท้าและแผ่นรองเท้าเทคโนโลยีนาโนป้องกันแบคทีเรีย นวัตกรรมใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมจากทั่วโลก ซึ่งนับเป็นการแตกไลน์ครั้งแรกในรอบ 7 ปีของการทำตลาดกีฬาของบริษัทสหยูเนี่ยนภายใต้แบรนด์ดีแมค สำหรับประเทศไทยเทคโนโลยีนาโนป้องกันแบคทีเรีย เริ่มมีแบรนด์คู่แข่งเปิดตัวนวัตกรรมดังกล่าวแล้วเช่นกัน อาทิ แกรนด์สปอร์ตเปิดตัวเสื้อกีฬาป้องกันแบคทีเรีย และอาดิดาสเปิดตัวรองเท้ากีฬา แต่บริษัทฯได้วางสินค้าราคาถูกกว่าคู่แข่ง 25-30% ส่วนถุงเท้าราคา 120-140 บาท สูงกว่าสินค้าคู่แข่งที่วางราคา 95-105 บาท
นอกจากนี้บริษัทฯยังได้ทดลองเปิดตัวรองเท้าป้องกันแบคทีเรียสำหรับกลุ่มเด็กนำร่อง และได้เตรียมเปิดตัวรองเท้าป้องกันแบคทีเรียสำหรับผู้ใหญ่อายุ 25-40 ปี อีกทั้งปีนี้บริษัทฯขยายรายได้โดยการรับทำรองเท้าไพรเวตแบรนด์(Private Brand) หรือกลุ่มลูกค้าองค์กรหรือตราสินค้ารายใดที่ต้องการขยายสินค้าขึ้น 2-3 ราย จากเดิมผลิตให้รองเท้ากีฬาให้กับรถยนต์ฮอนด้า
ด้านช่องทางจำหน่ายปีนี้ได้เตรียมขยายสู่ช่องทางขายตรง จากที่ผ่านมาช่องทางจำหน่ายแบ่งเป็นโมเดิร์นเทรด 65% มีจำนวน 65 แห่ง และเทรดิชันนัลเทรด 35% มี 165 แห่ง โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการขายตรงทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศ 2-3ราย คาดว่าจะสรุปได้ในช่วงไตรมาสสองนี้
โดยการจำหน่ายมี 3 รูปแบบ ได้แก่ แบรนด์ดีแมค, ดับเบิ้ลแบรนด์ อาทิ ฮอนด้า บาย ดีแมค และเป็นไพรเวตแบรนด์ การวางราคาสินค้าผ่านช่องทางขายตรงขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการขายตรงเฉลี่ยบวกลบ 20% ทั้งนี้บริษัทฯได้เตรียมงบการตลาด 1-2 ล้านบาทจากงบรวม 6.5 ล้านบาท ผ่านการจัดรายการตามแคตตาล็อกและการจัดกิจกรรมต่างๆ
แนวโน้มตลาดรองเท้ากีฬามูลค่า 2,900 ล้านบาท ปีนี้มีอัตราการเติบโต 7-8% ปัจจัยที่ทำให้ตลาดมีอัตราการเติบโตมาจากกระแสแฟชั่นกีฬา อย่างไรก็ตามแนวโน้มอีก 2 ปีข้างหน้านี้ ตลาดรองเท้าแฟชั่นกีฬาจะเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง ในขณะที่ตลาดรองเท้ากีฬาสำหรับแข่งขันจะไม่มีอัตราการเติบโต ดังนั้นปีนี้บริษัทยังได้เตรียมเปิดตัวสินค้าสปอร์ตแฟชั่นที่ใส่ในชีวิตประจำวันได้ (Sport Culture) 4 รุ่นสำหรับผู้ชาย 2 รุ่นและผู้หญิง 2 รุ่น โดยระดับราคาประมาณ 1,000 กว่าบาท คาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงกลางปีหน้า โดยปัจจุบันในตลาดรองเท้ากีฬาอาดิดาสเป็นผู้นำตลาด ตามด้วยไนกี้ และคอนเวิร์ส
สำหรับผลประกอบการปีที่ผ่านมามีประมาณ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการรับจ้างผลิตเพื่อส่งออก 95% และภายในประเทศ 5% หรือมีรายได้ 150 ล้านบาท ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 15% หรือมีรายได้ 170 ล้านบาท โดยคาดว่ารูปแบบการจำหน่ายผ่านการขายตรงมีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 10% จากรายได้รวม และมาจากการรับจ้างผลิตไพรเวตแบรนด์ 10% โดยรายได้หลักมาจากกลุ่มรองเท้าวิ่ง 47% ตามด้วยรองเท้าแอร์โรบิค และรองเท้าแบทมินตัน ฯลฯ
|
|
|
|
|