Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน12 กุมภาพันธ์ 2546
"กนก"วางกรอบแฟมิลี่มาร์ท หาหุ้นส่วนช่วยขยายธุรกิจ             
 


   
search resources

สยามแฟมมิลี่มาร์ท, บจก.
กนก วงษ์ตระหง่าน




กนก วงษ์ตระหง่าน ซีอีโอคนใหม่แห่งค่ายสยามแฟมิลี่มาร์ท กำหนดยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ ต้องการพันธมิตรร่วมเป็นหุ้นส่วนในการขยายธุรกิจ ทั้งการขยายสาขา หาสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ย้ำยังไม่มีความคิดขายหุ้นให้แก่ผู้สนใจ เพราะแฟมิลี่มาร์ทญี่ปุ่น ยังต้องการขยายธุรกิจในประเทศไทยต่อไป

ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามแฟมิลี่มาร์ท จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางของการขยายธุรกิจร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท ภายหลังจากตัดสินใจเข้ามารับตำแหน่งผู้บริหาร โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2546 เป็นต้นไป ว่า ในช่วงแรกจะพิจารณาทบทวนนโยบายและแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทโดยรวม และจะกำหนดกรอบในการขยายธุรกิจใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการแข่งขันใน ปัจจุบัน ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง

สำหรับทิศทางและแนวทางในการดำเนินงานของบริษัทสยามแฟมิลี่มาร์ท ที่ได้พิจารณาในเบื้องต้น และเตรียมจะนำมาสู่การปฏิบัตินั้น ประกอบด้วย การพยายามสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคว่า สินค้าต่างๆที่ได้วางขายในแฟมิลี่มาร์ทนั้น เป็นสินค้าจำเป็นและเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า โดยบริษัทจะลงทุนศึกษาวิจัยผู้บริโภค เพื่อให้ทราบถึงความต้องการที่แท้จริง ดังนั้นการวิจัยและพัฒนาจึงเป็นกระบวนการที่จำเป็นและต้องเร่งดำเนินการ ทั้งนี้บริษัทจะให้ความสนใจในทุกประเภทสินค้า เพราะเชื่อว่าสินค้าแต่ละประเภทนั้นสามารถดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาที่ร้านได้อีก

นอกจากนี้บริษัทจะปรับปรุงรูปแบบร้านใหม่ให้สดใส และน่าเข้ามากกว่าเดิม โดยแฟมิลี่มาร์ทจะสร้างร้านให้ดูน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่เฉพาะแค่การออกแบบและภาพรวมของร้านเท่านั้น แต่ยังรวม ถึงการวางแผนกิจกรรมการตลาด เพื่อสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้ลูกค้าตลอดทั้งปี

ส่วนการปรับปรุงระบบการทำงานภายในองค์กรนั้น จะดำเนินการเพื่อให้ได้มาตรฐานเดียวกันสำนักงานใหญ่ ไม่ว่าจขะเป็นระบบสินค้าคงคลัง ระบบสารสนเทศ ระบบ P.O.S. ระบบการสั่งซื้อ ขั้นตอนและวิธีการดำเนินงานที่มาตรฐาน ถูกต้องรวดเร็ว เพื่อให้มีผลการปฏิบัติงานที่ดีขึ้นกว่าเดิม

สำหรับเรื่องการขยายสาขานั้น ศ.ดร.กนก กล่าวว่า ในปัจจุบันยังไม่ได้กำหนดว่าจะขยาย สาขาจำนวนเท่าใด เพราะต้องรอการศึกษา รายละเอียดและกรอบการดำเนินธุรกิจใหม่ให้เรียบร้อยเสียก่อน สำหรับในช่วงนี้หากมีพื้นที่ ที่เหมาะสมก็ยังคงขยายสาขาตามแผนเดิมต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาการขยายสาขาอาจล่าช้าบ้าง เนื่องจากปีที่ผ่านมาสยามแฟมิลี่มาร์ท ต้องเสียเวลากับ เรื่องการจัดการบริหารภายในองค์กรเป็นอย่างมาก รวมทั้งการเจรจากับผู้สนใจ ส่งผลให้เป้าหมายจำนวนสาขาที่วางไว้ในปี 2545 ที่จะต้องมี 500 สาขานั้นไม่บรรลุเป้าหมาย และสามารถขยายสาขารวมได้เพียง 246 สาขาเท่านั้น โดยจำนวนนี้เป็น สาขาของแฟรนไชส์ซี่ ประมาณ 25%

"การขยายสาขาเราจะเน้นที่คุณภาพเป็นหลัก เพราะต้องการเปิดร้านแล้วมีผลประกอบการที่ดี แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เน้นเชิงปริมาณเลย เพราะหากเรามีสาขาที่มีคุณภาพและสามารถขยายได้ในปริมาณที่มาก ก็เป็นเรื่องดีกับการแข่งขันในเชิงธุรกิจ" ศ.ดร. กนก กล่าว

ทั้งนี้ ศ.ดร.กนก ยังได้กล่าวถึงการตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับ สยามแฟมิลี่มาร์ทว่า เป็นเพราะจากการพูดคุยกับผู้บริหารของ แฟมิลี่มาร์ท ญ่ปุ่น ได้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการทำธุรกิจที่ทางฝ่ายญี่ปุ่นพร้อมที่จะให้การสนับสนุน ทั้งด้านการเงิน และข้อมูลต่างๆ เพื่อจะขยายธูรกิจร้านแฟมิลี่มาร์ทในประเทศไทยต่อไป

นอกจากนี้ยังเป็นเพราะมองว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถ เพราะมีประสบการณ์ในการบริหารห้างสรรพสินค้ามานานถึง 5 ปีเต็ม และสามารถนำพาธุรกิจของโรบินสันให้ฝ่าวิกฤตมาได้ ส่วนธุรกิจคอนวีเนียนสโตร์นั้น ยังไม่เคยบริหาร แต่คิดว่าจะสามารถนำประสบการณ์ที่ได้มาบริหารเพื่อให้ธุรกิจเจริญก้าวหน้าต่อไปได้

ทางด้านนายโยชิซูกุ คาตาฮิระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแฟมิลี่มาร์ท จำกัด กล่าวว่า บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นมีความตั้งใจจริงที่จะทำธุรกิจในประเทศไทยต่อไป เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังเติบโตอีกครั้ง นอกจากนี้หากเปรียบเทียบการขยายธุรกิจในประเทศอื่นๆพบว่า ไทยยังมีจำนวนสาขาที่น้อยมาก คือ มีเพียง 246 สาขาเท่านั้น ในขณะที่ญี่ปุ่นมีถึง 5,956 สาขา ไต้หวัน 1,303 สาขา เกาหลี 1,430 สาขา และแฟมิลี่มาร์ทญี่ปุ่นเตริยมจะขยายธุรกิจเข้าไปยังประเทศจีนอีก

ส่วนกระแสข่าวต่างๆ ที่ปรากฏในช่วงที่ ผ่านมานั้น ได้สร้างความสับสนพอสมควรโดยเฉพาะเรื่องที่แฟมิลี่มาร์ทมีปัญหาเรื่องการเงิน จนต้องเจรจาหาผู้ร่วมทุนนั้น หรือกรณีที่มีนักลงทุนบางรายสนใจจะซื้อกิจการของแฟมิลี่มาร์ท ล้วน แต่ไม่เป็นความจริง แต่ที่ไม่ได้ออกมาให้ข่าวในช่วงที่ผ่านมาเพราะบริษัทอยู่ระหว่างการเชิญ ศ.ดร.กนก ให้เข้ามาร่วมงาน ซึ่งการเข้ามาของศ.ดร.กนก ในครั้งนี้น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีในการ ทำธุรกิจในประเทศไทยต่อไป

อย่างไรก็ตาม ศ.ดร. กนก กล่าวถึงเรื่องการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทำธุรกิจว่าอาจมีหลายรูปแบบ ทั้งการเป็นพันธมิตรในการขยายสาขา ซึ่งบริษัทต้องการขยายสามารถในรูปแบบของแฟรนไชซี่ มากกว่า เพราะช่วงปีที่ผ่านมาจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นนับร้อยนั้นมาจากการลงทุนของบริษัทเอง

นอกจากนี้บริษัทก็ยังสนใจพันธมิตรในรูปแบบอื่น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มซัปพลายเออร์ ที่จะจัดหาสินค้าที่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค หรือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกันตลอดทั้งปี โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือ การมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า และการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นให้แก่สยามแฟมิลี่มาร์ทและพันธมิตร ทั้งนี้บริษัทก็ไม่ปิดกั้นสำหรับพันธมิตรที่ต้องการเข้ามาร่วมถือหุ้น แต่ในขณะนี้จะให้ความสำคัญกับพันธมิตรในรูปแบบของการทำธุรกิจร่วมกันมากกว่า

ชี้"กนก"ฟื้นแฟมิลี่มาร์ทคู่ชกเซเว่นฯ

นายชลิต ลิมปนะเวช อาจารย์หัวหน้าภาควิชาการสื่อสารการตลาด คณะบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่า หลังจากที่ ศ.ดร.กนก วงศ์ตระหง่าน ตัดสินใจลาออกจากการเป็นประธานบริหารสายปฏิบัติการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นระดับผู้บริหารแฟมิลี่มาร์ท เชื่อว่าการเข้ามาบริหารงานของศ.ดร.กนก ภายใน 3 ปีต่อจากนี้แฟมิลี่มาร์ทจะเป็นคู่ชก สำคัญของ เซเว่น อีเลฟเว่น คอนวีเนี่ยนสโตร์ที่มีสาขา 2,020 สาขา ส่วนบริษัทรวมค้าปลีกเข้มแข็ง จำกัด หรือ เออาร์ที เพิ่งเริ่มก่อตั้ง อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในการดำเนินงาน เนื่องจากในเซกเมนต์นี้จะแข่งขันรุนแรง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในปัจจุบันร้านค้า สะดวกซื้อ ไม่ว่าจะเป็น เซเว่น อีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท วี-ชอป จะใช้กลยุทธ์ด้านความสะดวก มีสินค้า ที่หลากหลายดึงดูดผู้บริโภค แต่คาดว่าภายใน 2 ปีข้างหน้านี้ กลยุทธ์ของร้านค้าสะดวกซื้อจะหันเน้นรูปแบบใหม่และเปลี่ยนรูปแบบในการให้บริการ ด้วยการนำเสนอบริการในรูปแบบต่างๆมากขึ้น โดยอาจจะตั้งศูนย์ Call Center เพื่อรับให้บริการโดยเฉพาะ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us