|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
PREB เผยแผนปี 50 พร้อมเติบโตอย่างมั่นคง เน้นรับงานคุณภาพ ดันมาร์จิ้นสูง พร้อมบุกงานรัฐฯ มากขึ้น จากปัจจุบันสัดส่วนงานรัฐและเอกชนอยู่ที่ 10 ต่อ 90 ชี้ราคาน้ำมันและดอกเบี้ยลด ช่วยลดต้นทุนและหนุนกำไรเพิ่ม ส่วนความคืบหน้าแผนงานรับเหมาที่ดูไบยังไม่ได้ข้อสรุป แย้มมองเห็นช่องทางทำธุรกิจที่สดใส
นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พรีบิลท์ (PREB) เปิดเผยว่าแผนงานธุรกิจปี 2550 บริษัทจะเติบโตอย่างมั่นคง รับงานโดยเน้นคุณภาพและเลือกงานที่มาร์จิ้นสูง ซึ่งจะยังคงยอดรายได้ให้เท่ากับปีที่ผ่านๆมา ซึ่งรายได้หลักจะยังคงมาจากงานรับเหมาก่อสร้างทั้งอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสูง บ้านแนวราบ อาคารจอดรถ โรงหนัง เป็นต้น แต่ทุกงานที่รับมาทำต้องสร้างรายได้ที่แน่นอนให้กับบริษัทได้ และมีกำไรดี
"เรายังคงฝึกพนักงานให้ทำงานโดยเน้นคุณภาพ เพื่อจะให้งานออกมาดี และบริษัทจะสามารถเลือกงานที่มีมาร์จิ้นเยอะได้ ซึ่งนโยบายปีนี้การเลือกลูกค้าจะต้องพิจารณาเรื่อง Net Profit ที่จะได้ด้วย และเราจะไม่พยายามกระจาย Site งานให้มากเกินไป " นายชัยรัตน์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทพร้อมบุกงานของภาครัฐบาลมากขึ้น จากปัจจุบันสัดส่วนงานจากภาครัฐฯอยู่ที่ 10% และภาคเอกชนอยู่ที่ 90 % นอกจากนี้มองว่าการที่รัฐบาลจะยังคงเดินหน้าสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆต่อไปก็จะเป็นผลดีต่อผู้รับเหมาก่อสร้าง และจะช่วยให้รายได้ในปี 2550 มีสัดส่วนที่มาจากภาครัฐฯเพิ่มขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ได้ประเมินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ว่ายังไม่ใช่ปีทอง ซึ่งโอกาสที่ภาพรวมของธุรกิจนี้จะขยายตัวจากปี2549 ที่ผ่านมายังไม่น่าจะเกิดขึ้น ซึ่งผู้รับเหมาก่อสร้างต่างก็จำเป็นต้องเร่งปรับตัวรับมือเพื่อให้อยู่รอดได้
ขณะที่ราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลง จะช่วยให้ต้นทุนวัตถุดิบ และต้นทุนการเงินของบริษัทลดลงตาม ซึ่งส่งผลต่อกำไรของบริษัทฯที่น่าจะดีขึ้น และการที่ราคาน้ำมันลด จะช่วยให้ต้นทุนวัถตุดิบลดลง ซึ่งระดับราคาในขณะนี้นับว่าเหมาะสม ส่วนดอกเบี้ยคาดว่าจะมีแนวโน้มลดลง และหากเป็นไปตามคาดก็จะทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลงด้วย จึงน่าจะช่วยให้กำไรเพิ่มขึ้นได้
สำหรับเหตุการณ์ระเบิดกลางกรุงเทพฯ แม้มีผลกระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทย แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะคลี่คลายจะดีขึ้น และเชื่อมั่นว่าบริษัทรับมือกับผลกระทบนี้ได้ ส่วนความคืบหน้าแผนงานรับเหมาก่อสร้างที่ประเทศดูไบ ในขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ประเมินว่าช่องทางธุรกิจจะสดใส อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ได้เข้าการศึกษาในรายละเอียดของงาน แต่ยังไม่ได้เข้าไปรับงานแต่อย่างใด และในเร็วๆนี้ก็จะเดินทางไปเพื่อดูความเป็นไปได้อีกครั้
|
|
|
|
|