เปิดโผหุ้น IPO ของ DEMCO พบตระกูล "มาลีนนท์ " เก็บไว้ได้มากสุด 2.77% หรือ 1,383,700 หุ้น โดย " กมล เอี้ยวศิวิกูล" ได้มา 680,000 หุ้น หรือ 1.36% รวมทั้ง " วิชา พูนวรลักษณ์ " ผู้บริหารโรงหนังเมเจอร์และเพื่อน 7 แสนหุ้น คิดเป็น 1.40% ส่วนเงินที่ได้จากการขายหุ้นครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้ในการขยายงาน ขณะที่ราคาหุ้นวานนี้ตก0.16 บาท
รายงานข่าวจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย ์ (ก.ล.ต.) รายงานผลการขายหุ้นของบริษัท เดมโก้ จำกัด (มหาชน) (DEMCO ) โดยบริษัทดังกล่าว ได้เสนอขายเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 50 ล้านหุ้น เพื่อจัดสรรให้กับบุคคลทั่วไป 37.50 ล้านหุ้น เสนอขายนักลงทุนสถาบัน 10 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณ 2.50 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ราคาเสนอขายหุ้นละ 3.05 บาท มูลค่าเสนอขายทั้งสิ้น 152.50 ล้านบาท
โดยผลจากการขายหุ้นดังกล่าว พบว่าผู้ลงทุนไทยที่เป็นสถาบันได้รับการจัดสรร 4,970,700 หุ้น คิดเป็น 9.94 % ของการเสนอขาย บุคคลธรรมดา 40,721,900 หุ้น คิดเป็น 81.44% ส่วนผู้ลงทุนต่างประเทศที่เป็นสถาบันได้รับการจัดสรร 4,029,300 หุ้น คิดเป็น 8.06 % และบุคคลธรรมดา 278,100 หุ้น คิดเป็น 0.56 %
สำหรับบุคคลธรรมดาไทยที่ได้รับการจัดสรรหุ้นสูงสุด 20 อันดับแรกพบว่า ตระกูลมาลีนนท์ ได้รับการจัดสรรรวมกันทั้งสิ้น 1,383,700 หุ้น คิดเป็น 2.77% โดยได้รับการจัดสรรทั้งทางตรงและผ่านทางสถาบันการเงินด้วย
ทั้งนี้ รายชื่อของตระกูลมาลีนน์ที่ได้รับการจัดสรรนั้นประกอบด้วย นางสาวรัตนา มาลีนนท์ 500,000 หุ้น คิดเป็น 1% นางแพตตรีเซีย แมรี่ มาลีนนท์ 250,000 หุ้น คิดเป็น 0.50% นางสาวแคทลีน มาลีนนท์ 250,000 หุ้น คิดเป็น 0.50% ซึ่งเป็นการจองซื้อแบบนักลงทุนแบบบบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล และที่ได้รับการจัดสรรผ่านการลงทุนแบบนักลงทุนสถาบันนางสาวอรอุมา มาลีนนท์ โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด 167,600 หุ้น คิดเป็น 0.34% นายวรวรรธน์ มาลีนนท์ โดย บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด 139,900 หุ้น คิดเป็น 0.28% และนายประชุม มาลีนนท์ โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแอสเซท พลัส จำกัด 81,000 หุ้น คิดเป็น 0.16%
นอกจากนี้ ยังมีชื่อของ นายกมล เอี้ยวศิวิกูล ผู้บริหารของกลุ่มไมด้า ที่ได้รับจัดสรรหุ้นเป็นอันดับ 4 จำนวน 680,000 หุ้น คิดเป็น 1.36% นายวิชา พูนวรลักษณ์ ผู้บริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จำกัด (มหาชน) 500,000 หุ้น คิดเป็น 1% และ นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฎฐ์ อดีตผู้บริหารของเมเจอร์ 200,000 หุ้น คิดเป็น 0.40% โดยการขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว ทำให้ DEMCO ได้รับเงินจากการขายหุ้นทั้งสิ้น 145,637,600 บาท
สำหรับ DEMCO ได้ขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) เมื่อ 14 ธันวาคมปี49 โดยเงินที่ได้บริษัทจะนำไปใช้ สำหรับใช้เป็นทุนหมุนเวียน 50% ชำระหนี้เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่าย 35% และที่เหลือลงทุนในการขยายกำลังการผลิตของบริษัท
โดยรายได้ของ DEMCO มาจากภาครัฐและเอกชนฝั่งละ 50% ซึ่งบริษัทยังยืนยันว่าจะพยายามรักษาสัดส่วนนี้ไว้ แม้ว่ามาร์จิ้นจากภาครัฐต่ำกว่าคือ 8-12% แต่งานภาครัฐมีสม่ำเสมอ และเป็นงบก้อนโตกว่า ความเสี่ยงน้อยกว่าและการจ่ายเงินแน่นอน ขณะที่งานเอกชนมาร์จิ้นดีคือ 15 -20% แต่ความเสี่ยงสูง ซึ่งโดยเฉลี่ยมาร์จิ้นโดยรวมของธุรกิจนี้จะอยู่ประมาณ 17-18% และปีนี้บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้จะเติบโต 20% และเตรียมเช้าประมูลงานภาครรัฐ โดยเฉพาะงานของการไฟฟ้าอีกมูลค่างานประมาณ 700 ล้านบาท โดยเฉลี่ยบริษัทจะได้รับงาน 20-30% ของงานที่เข้าประมูล ซึ่งบริษัทระดมทุนครั้งนี้เพื่อนำไปใช้ในการขยายงาน นอกเหนือการกู้เงินจากสถาบันการเงินแบบโปรเจ็ก ไฟแนนซ์ และเงินกู้จะเป็นระยะสั้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการรุกไปยังต่างประเทศว่า ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า บริษัทจะสามารถเข้าไปทำธุรกิจในต่างประเทศได้ โดยระยะ 2 ปีนี้ ต้องเตรียมบุคลากรและอื่น ๆ ให้พร้อม ซึ่งการรุกไปต่างประเทศอาจไปแบบเดี่ยวหรือมีพันธมิตรที่เกื้อหนุนธุรกิจต่อกันขึ้น อยู่กับความเหมาะสมในขณะนั้นด้วย ซึ่งจะเน้นประเทศเพื่อนบ้านก่อน และปัจจุบัน DEMCO ได้ส่งเสาคอนคอนกรีตไปยังประเทศกัมพูชาบ้างแล้ว โดยเป็นการขายผ่านทางผู้รับเหมา
สำหรับราคาหุ้น DEMCO วานนี้ เปิดตลาดที่ 2.62 บาท ก่อนจะปรับลดลงเรื่อย ๆ ตลอดทั้งวัน และปิดที่ 2.44 บาท ลดลง 0.16บาท คิดเป็น 6.15% ด้วยมูลค่าซื้อขายรวม 5.16 ล้านบาท
|