Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน9 มกราคม 2550
PYLONฟุ้งรายได้งานฐานรากปีนี้เกิน550ล.อานิสงส์ธุรกิจก่อสร้างบูมหลังการเมืองชัด             
 


   
search resources

Construction
ไพลอน, บมจ.
ชเนศวร์ แสงอารยะกุล




PYLON คาดธุรกิจก่อสร้างฐานรากปี 2550 เริ่มสดใส หลังการเมืองชัดเจน และราคาน้ำมันลดลง งานภาครัฐเริ่มขับเคลื่อนส่งผลมีงานออกสู่ตลาดมากขึ้น ส่งผลให้ภาวะการแข่งขันคลายลง ส่งผลดีต่อธุรกิจ เผยเตรียมใช้กลยุทธ์เน้นสินค้ามีคุณภาพและการบริการเยี่ยมครองใจลูกค้า มั่นใจสิ้นปี 2550 รายได้งานฐานรากที่ระดับ 550 ล้านบาทได้ ขณะที่มาร์จิ้นมีแนวโน้มขยับดีขึ้นจากปีก่อน

นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) ( PYLON) กล่าวถึง ภาพรวมธุรกิจ อุตสาหกรรมก่อสร้างงานฐานราก ของบริษัทในปี 2549 โดยยอมรับว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบต่างๆ เช่น ผลกระทบจากปัญหาทางการเมือง ที่ทำให้งานภาครัฐชะลอตัวโดยเฉพาะช่วงปลายปีภายหลังการปฏิรูปการปกครอง ผลกระทบจากน้ำท่วมพื้นที่ทำงานทำให้งานหยุดชะงัก ผลกระทบจากภาวะต้นทุนต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้น เช่น น้ำมัน, ทองแดง, ทองเหลือง นอกจากนี้งานปรับปรุงคุณภาพดินซึ่งได้รับว่าจ้างตั้งแต่ต้นปีเพิ่งจะเริ่มงานได้ในเดือนพฤศจิกายนทำให้รับรู้รายได้เพียงเล็กน้อยในปี 2549

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา บริษัทได้มีแนวทางลดผลกระทบจากปัจจัยลบต่าง ๆ โดยพยายามเจาะตลาดงานภาคเอกชนเพิ่ม รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานและการใช้ทรัพยากรต่างๆ ให้คุ้มค่ายิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะทำให้ ปี 2549 สามารถผลักดันรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 500 ล้านบาทได้สำเร็จ

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 2550 บริษัทคาดว่าปัญหาต่างๆ จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งด้านการเมืองและราคาน้ำมัน ทำให้งานภาครัฐกลับเข้าสู่ภาวะปกติและเริ่มทยอยออกมาตั้งแต่ต้นปี 2550 โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงปลายปี 2550 ที่จะเริ่มงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ทำให้คาดว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างงานฐานรากในปี 2550 มีแนวโน้มดีกว่าปี 2549 ในขณะที่ภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้น น่าจะลดลงจากแนวโน้มของงานที่จะออกมามากขึ้น นอกจากนี้งานปรับปรุงคุณภาพดินซึ่งได้เริ่มในเดือนพฤศจิกายน 2549 จะสามารถดำเนินการต่อเนื่องได้ตลอดปี 2550 ซึ่งจะทำให้รับรู้รายได้จากงานดังกล่าวได้อย่างเต็มที่

นายชเนศวร์ แสดงความเห็นว่ายังมีประเด็นต่างๆ ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในปี 2550 อาทิ เรื่องความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก, ทิศทางของราคาเหล็กและคอนกรีตรวมไปถึงความเสี่ยงจากภาวะทางการเมืองซึ่งยังไม่นิ่ง โดยเฉพาะภายหลังจากการหมดวาระของคณะรัฐบาลรักษาการและการจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่ง PYLON จะลดผลกระทบดังกล่าว ด้วยการพยายามหางานสะสมเพิ่มขึ้น (Backlog) เพื่อรักษาการการเติบโตของบริษัท และจะขยายฐานงานเอกชนเพิ่มเพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการการพึ่งพางานภาครัฐบาล

นอกจากนี้งานที่รับใหม่จะปรับราคาให้เหมาะสมกับภาวะต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงแต่เป็นราคาที่ยังสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้ ซึ่งจากที่ลักษณะงานของ PYLON เป็นงานระยะสั้น ส่วนใหญ่ใช้เวลา 3-4 เดือนทำให้ปรับตัวได้ง่ายกว่าโครงการที่ใช้ระยะเวลาดำเนินการนาน

โดยผลจากการที่บริษัทยังมีจุดแข็งคือมีการควบคุมคุณภาพและบริการที่ดี รวมถึงมีกำลังการผลิตสูงในลำดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม สร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่ง ซึ่งคาดว่าในปี 2550 จะทำให้สามารถผลักดันรายได้ให้อยู่ในระดับประมาณ 550 ล้านบาท

“ประมาณการรายได้ในปีหน้า ค่อนข้างจะใกล้เคียงกับรายได้ในปี 2549 แต่จะแตกต่างกันตรงที่การคาดการณ์รายได้ในปี 2550 เป็นการประเมินจากงานฐานรากทั้งหมดโดยไม่มีงานก่อสร้างด้วยระบบชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปอยู่ในประมาณการ แต่หากระหว่างปีเกิดมีงานชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปเข้ามา ก็จะเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นสำหรับ PYLONในขณะเดียวกันคาดว่ากำไรขั้นต้นน่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2549 ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาระบบการทำงานภายในอย่างต่อเนื่องให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” นายชเนศวร์กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us