|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
มีเดียออฟมีเดียส์ลั่น ไม่เปลี่ยนนโยบาย แม้ชาลอตจะลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ รวมทั้งปัญหาความไม่สงบของบ้านเมืองจากเหตุการณ์บึ้มกรุงเทพฯ ยืนยันแผนเดิมที่ผ่านบอร์ดแล้ว พร้อมรุกหนักปีนี้ธุรกิจด้านอีเว้นท์เกี่ยวกับเด็ก พร้อมซุ่มผุดคอนเสิร์ตศิลปินไทยไม่ต่ำกว่า 2 งาน เผยปีนี้ต้องทำรายได้และกำไรโตกว่าปีที่แล้ว
นายธงชัย ชั้นเสวิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือช่อง 7 เปิดเผย “ผู้จัดการรายวัน” ว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทมีเดียฯในปีนี้ ได้ผ่านการอนุมัติจากทางบอร์ดของบริษัทฯเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และในเบื้องต้นนี้ขอยืนยันว่า แม้ขณะนี้ จะมีเหตุการณ์ความไม่สงบในกรุงเทพฯหรือแม้แต่ปัญหาการเมืองที่อาจจะเกิดขึ้น บริษัทฯก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแผนการดำเนินงานตามที่ตั้งเอาไว้
รวมไปถึง กรณีการลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของมีเดียฯ ของนางชาลอต โทณวณิก ซึ่งได้กลับไปบริหารงานที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) อย่างเต็มตัว ในตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส โดยการลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ มีเดียฯนั้นมีผลตั้งแต่วันที่ 4 มกราคมท่าผ่านมาแล้ว ก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อนโยบายการดำเนินงานของบริษัทฯแต่ย่างใดด้วย
ทั้งนี้บริษัทฯยังไม่มีการแต่งตั้งใครขึ้นมาดำรงตำแหน่งซีอีโอแทนนางชาลอต ขณะที่ นายกฤตย์ รัตนรักษ์ ก็ยังคงเป็นประธานกรรมการบริษัท เหมือนเดิม และมีบอร์ดประมาณ 7-8 ท่านที่คอยควบคุมนโยบายอยู่แล้ว
โดยการดำเนินงานของบริษัทฯในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตทั้งทางด้านรายได้และกำไรไม่ต่ำกว่าปีที่แล้ว ซึ่งปีที่แล้ว นางชาลอตได้กล่าวไว้ก่อนพ้นจากตำแหน่งซีอีโอว่า รายได้มีการเติบโต 20% จากปี 2548 ที่มี 688 ล้านบาท ส่วนกำไรในช่วง 3 ไตรมาสแรกปีที่แล้วมีประมาณ 123 ล้านบาท ซึ่งทั้งปีคาดว่าจะเพิ่มมากกว่า 140%
นายธงชัยกล่าวต่อว่า ปีนี้จะเป็นปีที่บริษัทฯทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น หลังจากที่ปีที่แล้วที่ได้เข้ามาบริหารได้มีการปรับเปลี่ยนระบบการทำงาน โครงสร้างการบริหาร และลดต้นทุนต่างๆไปได้พอสมควรแล้ว ทำให้บริษัทฯมีเวลาและศักยภาพเพียงพอที่จะทำธุรกิจหลักให้มีความเจริญเติบโตต่อไปคือ การผลิตรายการทีวี ซึ่งมีสัดส่วนรายได้มากกว่า 80% จากรายได้รวม ส่วนที่เหลืออีก 20% มาจากรายได้อื่นๆเช่น โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ทีแชแนล, อีเว้นท์ และ การบริหารลิขสิทธิ์คอนเท้นต์ของช่อง 7 ที่บริษัทฯเพิ่งได้รับสิทธิ์บริหารเมื่อต้นปีนี้ เป็นต้น
บริษัทฯคาดว่าในปีนี้จะมีเวลาในการออกอากาศทางสื่อโทรทัศน์เพิ่มมากขึ้นจากปีที่แล้ว ทั้งจากช่อง 7 เอง ที่บริษัทฯจะมีรายการใหม่ๆออกอากาศ รวมทั้งเวลาใหม่ในช่องอื่น ซึ่งขณะนี้บริษัทฯได้เสนอรายการใหม่ๆให้กับสถานีโทรทัศน์หลายช่องพิจารณาแล้ว คาดว่าเร็วๆนี้จะได้ข้อสรุปว่าจะได้เวลาในช่องใดบ้าง
“ยอมรับว่า ภาพของเรา ออกมาเป็นบริษัทลูกของช่อง 7 เวลาเราไปนำเสนอรายการให้กับช่องอื่น ก็ดูออกจะลำบากกว่ารายอื่นที่เป็นอิสระ แต่เราก็เข้าใจ อย่างไรก็ตามเราเชื่อมั่นว่าคุณภาพและรูปแบบของรายการที่นำเสนอ น่าจะมีความแตกต่างและสามารถโน้มน้าวใจให้กับโทรทัศน์แต่ละสถานีได้” นายธงชัยกล่าว
อีกธุรกิจหนึ่งที่บริษัทฯมีแผนจะบุกหนักมากขึ้นในปีนี้ก็คือ ธุรกิจอีเว้นท์ และธุรกิจคอนเสิร์ต โดยในส่วนของธุรกิจอีเว้นท์นั้นบริษัทฯจะทำในแนวที่ถนัดคือ อีเว้นท์เกี่ยวกับเด็ก เพราะมีรายการเกี่ยวกับเด็กอยู่แล้ว อาจะมีการจัดโรดโชว์ไปตามศูนย์การค้าหรือสถาบันการศึกษาของเด็กหลายแห่ง ขณะที่ธุรกิจคอนเสิร์ตนั้น ก็มีแผนที่จะจัดคอนเสิร์ตศิลปินไทยอย่างน้อย 2-3 ราย ในไตรมาสที่สองและสามนี้ หลังจากปีที่แล้วช่วงต้นปี ได้จัดคอนเสิร์ตศิลปินต่างประเทศคือ “เรน- ชอง-จีฮุน" เจ้าของอัลบั้ม It's Raining ไปแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่ได้จัดคอนเสิร์ตอีกเลย
สำหรับธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมทีแชแนลนั้น ปีที่แล้วได้จัดการแก้ไขปัญหาการขาดทุนไปมากแล้ว คาดว่าปีนี้จะทำให้ขาดทุนน้อยลงอีก ซึ่งมีแนวโน้มว่าธุรกิจจะไปได้ดี ซึ่งขณะนี้ทางยูบีซีก็นำเอารายการของทีแชแนลไปออกอากาศด้วย
ปัจจุบัน มีเดียฯมีรายการทีวีที่อออกอากาศทั้งหมดอยู่ที่ช่อง 7 จำนวน 7 รายการตั้งแต่ปีที่แล้ว และในปีนี้จะมีรายกากรออกอากาศเพิ่มอีก 6 รยการทีช่ง 7 โดยรายการใหม่ล่าสุดคือ มหานคร ที่ร่วมผลิตกับทางบริษัท เวิร์คพ้อยท์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกด (มหาชน) เวลา 22.25-24.25 น. ทุกวันอังคาร ซึ่งเริ่มออกอากาศเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากผู้ชมและสปอนเซอร์ที่เต็มแล้ว
|
|
|
|
|