Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน15 มกราคม 2550
แอมเวย์เทงบลงทุน800ล.บุกปี50             
 


   
www resources

โฮมเพจ แอมเวย์ (ประเทศไทย)

   
search resources

แอมเวย์ (ประเทศไทย), บจก.
Direct sale




แอมเวย์เดินหน้ารับขายตรงปีหมู ทุ่มงบลงทุนรวม 800 ล้านบาททำตลาดเต็มกำลัง ทั้งสื่อโฆษณาจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและพัฒนาแอมเวย์ชอป 10 แห่ง พร้อมยึดกลยุทธ์ทำตลาดผ่านแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ล่าสุดเตรียมเปิดตัว “พอล ภัทรพล ศิลปาจารย์” พร้อมโฆษณาตัวใหม่ในช่วงกลางเดือนม.ค.นี้ ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีนี้ใกล้เคียงปีก่อนที่เฉียดหมื่นล้านบาท เผยเหตุการณ์บึ้มทั่วกรุงเทพฯยังเร็วไปหากจะประเมินสถานการณ์ว่าส่งผลกระทบต่อภาพรวมขายตรงมากหรือน้อย เชื่อในวิกฤตยังมีโอกาสอยู่เสมอ คาดขายตรงปีหมูยังโตได้ 10%

นายปรีชา ประกอบกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2550 นี้ว่า บริษัทฯเตรียมใช้งบประมาณกว่า 800 ล้านบาทในการลงทุนด้านต่างๆ แบ่งเป็น งบประมาณ 200 ล้านบาทในการใช้พัฒนาระบบสารสนเทศและทยอยปรับปรุงแอมเวย์ชอปให้ดูทันสมัยขึ้น 10 แห่งจากทั้งหมด 42 แห่ง หลังจากปีก่อนปรับปรุงไปแล้ว 10 แห่ง โดยแต่ละแห่งจะใช้งบประมาณ 3-4 ล้านบาท

พร้อมกันนี้บริษัทฯยังเตรียมใช้งบในการส่งเสริมการขายและการตลาดในปีนี้อีก 500 ล้านบาท อาทิ การจัดงานแสดงสินค้าและการประชุมระดับชาติ 2550 ขึ้นในวันที่ 20-21 ม.ค.2550 นี้ที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 7 หมื่นราย จากนั้นบริษัทฯจะมีการโรดโชว์ไปในต่างจังหวัดอีก 7 แห่ง ได้แก่ ภูเก็ต,ของแก่น,ระยอง และเชียงใหม่ เป็นต้น

ส่วนงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ในปี 2550 นี้บริษัทฯเตรียมใช้ 100 ล้านบาทในการสร้างแบรนด์โอกาสทางธุรกิจแอมเวย์ ,เครื่องสำอางอาร์ทิสทรีและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์ต่อเนื่องตลอดทั้งปี รวมถึงการทำตลาดผ่านแบรนด์ แอมบาสเดอร์ทั้ง 5 คนประกอบด้วย กวาง กมลชนกและนุติ เขมมะโยธิน,เกรซ มหาดำรงกุล,อู๋ ธนากร โปษยานนท์ และล่าสุดพอล ภัทรพล ศิลปาจารย์ ซึ่งกำลังจะเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาในช่วงกลางเดือนม.ค.นี้ในส่วนของผลิตภัณฑ์นิวทริไลท์

“ปีนี้เราจะมุ่งเน้นในเรื่องของสุขภาพและความงาม โดยแอมเวย์เตรียมพัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแบ่งเป็นสินค้าใหญ่ 2-3 รายการ รวมถึงเราจะเน้นการจัดฝึกอบรมสัมมนา มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน และการทำกิจกรรมเพื่อสังคมหรือซีเอสอาร์ มาร์เก็ตติ้ง”

ปัจจุบันจำนวนสมาชิกหรือลูกค้าประจำของแอมเวย์มี 440,000 ราย เพิ่มขึ้นจากเดิม 400,000 ราย ส่วนจำนวนนักธุรกิจแอมเวย์ที่แอคทีฟหรือมีการสั่งซื้อสินค้าและมีการต่ออายุสมาชิกภาพมีประมาณ 300,000 รหัสทั่วประเทศ ในปีนี้บริษัทฯไม่ได้ตั้งเป้าหมายการเพิ่มจำนวนสมาชิก แต่จะเน้นรักษาสมาชิกเดิมที่มีอยู่ให้ดี

สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯในปี 2550 บริษัทฯคาดหวังรักษาฐานเดิมเหมือนในปีนี้ 2549 นี้ที่ปิดยอดขายไปที่ 9,710 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นเกือบ 10% หรือประมาณ 700 ล้านบาท โดยสัดส่วนยอดรายได้แบ่งเป็น กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามคิดเป็นสัดส่วน 55% ทั้งนี้การที่บริษัทฯโตขึ้นเป็นเพราะการทำงานที่มุ่งมั่นสู่ขององค์กรนักธุรกิจแอมเวย์และทีมพนักงาน รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ

เข้มงวดความปลอดภัยหวั่นบึ้ม

นายปรีชา กล่าวด้วยว่า จากกรณีที่กรุงเทพฯถูกลอบวางระเบิดหลายแห่งในช่วงหลายวันที่ผ่านมาคาดว่ายังเร็วไปหากจะมีการประเมินในเวลานี้ว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจขายตรงและบริษัทแอมเวย์ฯหรือไม่ แต่โดยรวมมองว่าธุรกิจขายตรงยังมีโอกาสเสมอ เพราะมีพื้นฐานที่แข็งแรง โดยปีนี้คาดว่าภาพรวมธุรกิจขายตรงในประเทศไทยจะมีการเติบโตขึ้นได้ 10% จากมูลค่าตลาดรวมปีก่อนที่มีประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ทำให้ภาครัฐมีการยกระดับมาตรการในการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น ในส่วนของบริษัทฯก็ได้มีการเตรียมแผนรองรับและเพิ่มความระมัดระวังในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น อาทิ เพิ่มความเข้มงวดในเรื่องโทรทัศน์วงจรปิดและพนักงานรักษาความปลอดภัย เป็นต้น ด้านผู้ประกอบการและนักธุรกิจก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมอยู่เสมอในการเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้น

“ในส่วนด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคต่อสถานการณ์ปัจจุบันนี้มองว่าบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นของกินของใช้ที่คนยังต้องกินต้องใช้คงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่จะให้พูดตอนนี้มองว่ายังเร็วไปหากจะประเมิน แต่ตรงนี้อยากให้สถานการณ์ปกติกลับมาเร็วๆ” นายปรีชากล่าวในท้ายที่สุด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us