แอมเวย์เดินหน้ารับขายตรงปีหมู ทุ่มงบลงทุนรวม 800 ล้านบาททำตลาดเต็มกำลัง ทั้งสื่อโฆษณาจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและพัฒนาแอมเวย์ชอป 10 แห่ง พร้อมยึดกลยุทธ์ทำตลาดผ่านแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ล่าสุดเตรียมเปิดตัว “พอล ภัทรพล ศิลปาจารย์” พร้อมโฆษณาตัวใหม่ในช่วงกลางเดือนม.ค.นี้ ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีนี้ใกล้เคียงปีก่อนที่เฉียดหมื่นล้านบาท เผยเหตุการณ์บึ้มทั่วกรุงเทพฯยังเร็วไปหากจะประเมินสถานการณ์ว่าส่งผลกระทบต่อภาพรวมขายตรงมากหรือน้อย เชื่อในวิกฤตยังมีโอกาสอยู่เสมอ คาดขายตรงปีหมูยังโตได้ 10%
นายปรีชา ประกอบกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2550 นี้ว่า บริษัทฯเตรียมใช้งบประมาณกว่า 800 ล้านบาทในการลงทุนด้านต่างๆ แบ่งเป็น งบประมาณ 200 ล้านบาทในการใช้พัฒนาระบบสารสนเทศและทยอยปรับปรุงแอมเวย์ชอปให้ดูทันสมัยขึ้น 10 แห่งจากทั้งหมด 42 แห่ง หลังจากปีก่อนปรับปรุงไปแล้ว 10 แห่ง โดยแต่ละแห่งจะใช้งบประมาณ 3-4 ล้านบาท
พร้อมกันนี้บริษัทฯยังเตรียมใช้งบในการส่งเสริมการขายและการตลาดในปีนี้อีก 500 ล้านบาท อาทิ การจัดงานแสดงสินค้าและการประชุมระดับชาติ 2550 ขึ้นในวันที่ 20-21 ม.ค.2550 นี้ที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 7 หมื่นราย จากนั้นบริษัทฯจะมีการโรดโชว์ไปในต่างจังหวัดอีก 7 แห่ง ได้แก่ ภูเก็ต,ของแก่น,ระยอง และเชียงใหม่ เป็นต้น
ส่วนงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ในปี 2550 นี้บริษัทฯเตรียมใช้ 100 ล้านบาทในการสร้างแบรนด์โอกาสทางธุรกิจแอมเวย์ ,เครื่องสำอางอาร์ทิสทรีและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์ต่อเนื่องตลอดทั้งปี รวมถึงการทำตลาดผ่านแบรนด์ แอมบาสเดอร์ทั้ง 5 คนประกอบด้วย กวาง กมลชนกและนุติ เขมมะโยธิน,เกรซ มหาดำรงกุล,อู๋ ธนากร โปษยานนท์ และล่าสุดพอล ภัทรพล ศิลปาจารย์ ซึ่งกำลังจะเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาในช่วงกลางเดือนม.ค.นี้ในส่วนของผลิตภัณฑ์นิวทริไลท์
“ปีนี้เราจะมุ่งเน้นในเรื่องของสุขภาพและความงาม โดยแอมเวย์เตรียมพัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแบ่งเป็นสินค้าใหญ่ 2-3 รายการ รวมถึงเราจะเน้นการจัดฝึกอบรมสัมมนา มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน และการทำกิจกรรมเพื่อสังคมหรือซีเอสอาร์ มาร์เก็ตติ้ง”
ปัจจุบันจำนวนสมาชิกหรือลูกค้าประจำของแอมเวย์มี 440,000 ราย เพิ่มขึ้นจากเดิม 400,000 ราย ส่วนจำนวนนักธุรกิจแอมเวย์ที่แอคทีฟหรือมีการสั่งซื้อสินค้าและมีการต่ออายุสมาชิกภาพมีประมาณ 300,000 รหัสทั่วประเทศ ในปีนี้บริษัทฯไม่ได้ตั้งเป้าหมายการเพิ่มจำนวนสมาชิก แต่จะเน้นรักษาสมาชิกเดิมที่มีอยู่ให้ดี
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯในปี 2550 บริษัทฯคาดหวังรักษาฐานเดิมเหมือนในปีนี้ 2549 นี้ที่ปิดยอดขายไปที่ 9,710 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นเกือบ 10% หรือประมาณ 700 ล้านบาท โดยสัดส่วนยอดรายได้แบ่งเป็น กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามคิดเป็นสัดส่วน 55% ทั้งนี้การที่บริษัทฯโตขึ้นเป็นเพราะการทำงานที่มุ่งมั่นสู่ขององค์กรนักธุรกิจแอมเวย์และทีมพนักงาน รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ
เข้มงวดความปลอดภัยหวั่นบึ้ม
นายปรีชา กล่าวด้วยว่า จากกรณีที่กรุงเทพฯถูกลอบวางระเบิดหลายแห่งในช่วงหลายวันที่ผ่านมาคาดว่ายังเร็วไปหากจะมีการประเมินในเวลานี้ว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจขายตรงและบริษัทแอมเวย์ฯหรือไม่ แต่โดยรวมมองว่าธุรกิจขายตรงยังมีโอกาสเสมอ เพราะมีพื้นฐานที่แข็งแรง โดยปีนี้คาดว่าภาพรวมธุรกิจขายตรงในประเทศไทยจะมีการเติบโตขึ้นได้ 10% จากมูลค่าตลาดรวมปีก่อนที่มีประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ทำให้ภาครัฐมีการยกระดับมาตรการในการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น ในส่วนของบริษัทฯก็ได้มีการเตรียมแผนรองรับและเพิ่มความระมัดระวังในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น อาทิ เพิ่มความเข้มงวดในเรื่องโทรทัศน์วงจรปิดและพนักงานรักษาความปลอดภัย เป็นต้น ด้านผู้ประกอบการและนักธุรกิจก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมอยู่เสมอในการเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้น
“ในส่วนด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคต่อสถานการณ์ปัจจุบันนี้มองว่าบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นของกินของใช้ที่คนยังต้องกินต้องใช้คงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่จะให้พูดตอนนี้มองว่ายังเร็วไปหากจะประเมิน แต่ตรงนี้อยากให้สถานการณ์ปกติกลับมาเร็วๆ” นายปรีชากล่าวในท้ายที่สุด
|