สกาย -ไฮงัดกลยุทธ์ อีเวนต์ มาร์เก็ตติ้ง ล่อใจลูกค้า หวังต่อยอดการขายสปอตโฆษณา หลังมองว่าไตรมาสสองปีนี้ ธุรกิจวิทยุจะแข่งขันอย่างรุนแรง เตรียมทุ่มงบไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เดินหน้าอัดกิจกรรมทางการตลาดเสริมทัพให้ทั้ง 3 คลื่น พร้อมเตรียมรีเฟรช คลื่น 88.5 แมกซ์ เอฟเอ็ม ใหม่ หวังขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่น มั่นใจสิ้นปีมีรายได้เติบโตขึ้นอีก 20% จากปีที่ผ่านมา

นายคมสันต์ เชษฐโชติศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สกาย-ไฮ เน็ตเวิร์ค จำกัด ผู้บริหารคลื่นวิทยุในเครือบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงสถานการณ์ธุรกิจวิทยุในปี 2550 นี้ว่า ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ มองว่าธุรกิจวิทยุน่าจะมีการเติบโตอยู่ในระดับทรงตัว ถึงแม้ว่าจะมีสถานการณ์การลอบวางระเบิดเกิดขึ้นก็ตาม แต่พอเข้าไตรมาสที่สอง เชื่อว่าธุรกิจวิทยุจะเริ่มมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ขณะที่กลยุทธ์ทางด้านการทำตลาดนั้น มองว่าจะมีความคล้ายคลึงกับปีที่ผ่านมาที่แต่ละคลื่นทำอยู่ เช่น เซลล์โปรโมชั่น หรือ กิจกรรมในรูปแบบ บิโลว์ เดอะ ไลน์

ดังนั้นทางบริษัทฯได้เตรียมงบประมาณ 100-200 ล้านบาท สำหรับทำกิจกรรมทางการตลาดให้แก่ทั้ง 3 คลื่น แบ่งเป็น คูล 93 เอฟเอ็ม 50 % รองลงมาคือ แมกซ์ 88.5 เอฟเอ็ม และ ลาเต้ 106 เอฟเอ็ม อีก 25 % เท่ากันๆ ขณะที่ในปีนี้ทางบริษัทฯจะมีแนวความคิดที่จะมีการนำเอากลยุทธ์อีเวนต์มาร์เก็ตติ้ง มาใช้มากขึ้นในปีนี้ โดยแต่ละอีเวนต์นั้นจะต้องมีความแตกต่างและน่าจดจำต่อผู้บริโภคได้ ทั้งเพื่อเป็นช่องทางหนึ่ง ที่จะช่วยให้เกิดการสื่อสารในแต่ละคลื่นให้ผู้ฟังได้รับรู้และจดจำ พร้อมทั้งสร้างกระแสให้แต่ละคลื่น นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยในการหาลูกค้าใหม่ๆได้อีกทางหนึ่ง ให้เข้ามาร่วมกันในการจัดอีเวนต์ในแต่ละครั้งนั้นเอง

นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังจะมีการทำงานร่วมกับทางบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการขายสปอตโฆษณา จากเดิมที่เสนอแต่สปอตโฆษณาทางวิทยุ ต่อไปจะมีการเสนอสปอตโฆษณาทางโทรทัศน์คู่กันอีกด้วย

สำหรับในส่วนของคลื่นวิทยุนั้น คาดว่าในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ ทางบริษัทฯจะมีแถลงข่าวเกี่ยวกับการปรับภาพลักษณ์คลื่น 88.5 แมกซ์ เอฟเอ็ม ใหม่ ยึดคอนเซปต์ตามติดกระแสดิจิตอล โดยคาดหวังให้คลื่น 88.5 แมกซ์ เอฟเอ็ม ได้ก้าวขึ้นเป็นคลื่นวิทยุในอันดับหนึ่งของกลุ่มคนฟังที่เป็นวัยรุ่น ที่จะมีการขยายฐานผู้ฟังเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีฐานผู้ฟังระหว่างช่วงอายุ 12-19 ปี เป็น 12-25 ปี โดยจะเจาะนักศึกษาเพิ่มขึ้น ผ่านกลยุทธ์มิวสิกมาร์เก็ตติ้ง และการจัดแคมปัสทัวร์ หรือ การจัดคอนเสริ์ตไปตามโรงเรียนต่างๆทั่วกรุงเทพฯ คาดว่าจากเดิมคลื่น 88.5 แมกซ์ เอฟเอ็มที่อยู่ในอันดับที่สาม จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของกลุ่มคลื่นสำหรับวัยรุ่นได้อย่างแน่นอน

ส่วนคลื่น ลาเต้ 106 เอฟเอ็ม นั้น ทางบริษัทฯได้มีการจัดกิจกรรมทางการตลาดมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2549 ที่ผ่านมา เพื่อต้องการให้ขยับขึ้นมาเป็นที่สอง จากเดิมที่อยู่ในอันดับที่สาม ในกลุ่มเพลงฟังก่อนถึงสิ้น และในปีนี้จะผลักดันให้ก้าวขึ้นมาสู่การเป็นผู้นำ ได้จากกลยุทธ์ คอนเสริ์ต มารเก็ตติ้ง และการจัดกิจกรรมในแต่ละเดือน ผ่านสมาชิก “คลับ ลาเต้”ที่มีอยู่ โดยการจัดคอนเสริ์ตนั้น คาดว่าจะมีขึ้นประมาณ 2 คอนเสริ์ตใหญ่ในปีนี้ เช่น เดอะ วอยซ์ คอนเสริ์ต “The Voice Concert” ส่วนกิจกรรมที่จะจัดขึ้นในแต่ละเดือนนั้นจะเป็นกิจกรรมที่อยู่ภายใต้คอนเซปต์ของกีฬาและสุขภาพและการพักผ่อน เช่น การเล่นโบว์ลิ่ง, สปา หรือการร้องคาราโอเกะ

นายคมสันต์ ยังได้กล่าวอีกว่า สำหรับปัจจัยลบที่สำคัญที่อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจวิทยุในปีนี้ได้นั้น มองว่าในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยหลัก เนื่องจากเมื่อเกิดปัญหาเศรษฐกิจก็จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนหรืองบประมาณของลูกค้าโดยตรง รวมถึงปัญหาทางการเมืองและราคาน้ำมันราคาน้ำมัน ที่ยังเป็นสิ่งที่ต้องรอดูความชัดเจนต่อไป ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไรที่จะประเมินเหตุการณ์ได้

ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯมีรายได้รวมกว่า 450 ล้านบาท มาจากคลื่นคูล 93 เอฟเอ็ม 50 % รองลงมาคือ แมกซ์ 88.5 เอฟเอ็ม และ ลาเต้ 106 เอฟเอ็ม อีก 25 % เท่ากันๆ ขณะที่ในปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโตขึ้นอีก 20 % หรือไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท