Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2536








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2536
สุเทพ เลาหะวัฒนะ "นายใหม่" แห่งกรีนสปอตอินเตอร์ฯ             
 


   
search resources

กรีนสปอตอินเตอร์เนชั่นแนล
สุเทพ เลาหะวัฒนะ
Soft Drink




12 ปีแห่งความหลังของสุเทพ เลาหะวัฒนะ ที่บริษัทโคคา-โคล่า เอกซ์ปอร์ต คอร์ปอเรชั่น ได้กลายเป็นอดีตไปแล้วเมื่อวันวาน วันนี้สุเทพ เลาหะวัฒนะ คือกรรมการผู้จัดการของบริษัทกรีนสปอต อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ทำงานแบบมีศักดิ์ศรีให้กับ โชติ โสภณพนิช เจ้าของบริษัทกรีนสปอต

"เรื่องนี้ผมยอมรับว่าลังเล และคิดอยู่นานมาก เพราะว่าผมกับโค้กมีอะไรที่ผูกพันกันเกินกว่าจะแยกออกได้ รวมทั้งพนักงานทั้งหมดของโค้กไทยน้ำทิพย์ และหาดทิพย์ ซึ่งตลอดกว่าสิบปีที่ผ่านมาเราทำงานกันแบบพี่ แบบน้อง กินนอนร่วมต่อสู้ลำบากด้วยกันมาตลอด แต่เมื่อถึงที่สุดผมก็คิดได้ว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องออกไปพิสูจน์ตัวเอง และทำงานให้กับคนไทย หรือบริษัทของคนไทยให้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาบ้างส่วนเรื่องความขัดแย้งนั้นไม่อยากให้เรียกว่าเป็นสาเหตุ เพราะทำงานด้วยกันย่อมต้องมีความเห็นแตกต่างกันบ้างถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา" เรื่องธรรมดาที่มีมูลเหตุแห่งความไม่ธรรมดาดังคำบอกเล่าของสุเทพเช่นนี้ ก่อให้เกิดการลาออกจากงานที่รักขณะที่เขามีอายุ 43 ปีแล้ว

สุเทพ เลาหะวัฒนะ เกิดวันที่ 27 ธันวาคม 2492 ร่ำเรียน MBA จาก
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผ่านการฝึกอบรมและดูงานจากสหรัฐฯ ด้านโฆษณาและการตลาด เริ่มงานครั้งแรกที่บริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (ประเทศไทย) และย้ายไปทำงานเอเยนซี่โฆษณาบริษัทแมคแคน แอริคสัน ก่อนที่จะลงหลักปักฐานที่โคคา-โคล่า เอกซ์ปอร์ต ตั้งแต่ปี 2522 ซึ่งเป็นยุคตกต่ำของอุตสาหกรรมน้ำอัดลมที่กำลังประสบปัญหาจากรัฐบาลปรับภาษี

ในปี 2525 สุเทพได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดและก้าวขึ้นสู่ระดับสูงในฐานะผู้จัดการภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก ผลงานที่ปรากฏในยุคของเขานั้นคือกลยุทธ์การตลาดด้าน Promotion และสร้างภาพพจน์สินค้าโดยจับคอนเซ็ปต์โค้กกับเพลงโค้กกับกีฬา โค้กกับอาหาร และโค้กกับกิจกรรมสังคม ภายใต้ชื่อ "โค้กเพื่อเมืองไทยด้วยใจและใจ" ซึ่งแคมเปญนี้สามารถสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ฮือฮาในวงการ และนับได้ว่าเป็นกิจกรรมสังคมอันนำมาซึ่งความสำเร็จให้กับโค้กได้อย่างมากมายเลยทีเดียว

นอกจากนี้สุเทพยังได้ชื่อว่าเป็นผู้จุดพลุสงครามลดแลกแจกแถม และชิงโชคต่อเนื่องควบคู่ไปกับการออก Package และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เช่น ล่าสุดออกโค้กบัดดี้ขวดขนาด 300 ซีซี เพื่อรักษา และเพิ่มพูนส่วนแบ่งตลาด ซึ่งโค้กครองอยู่ 45%

12 ปีที่สุเทพทำให้กับโค้ก และตระกูล "สารสิน" จนกระทั่งกิจการมีความเป็นปึกแผ่น ผลงานของสุเทพคือตัวบ่งชี้ว่าเขาคือผู้บริหารมืออาชีพที่โชติ โสภณพนิช เจ้าของกรีนสปอตต้องการ เพราะทันที่สุเทพเริ่มประสบปัญหา โชติซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่สุเทพนับถือได้ยื่นข้อเสนอที่ท้าทายอันเป็นทางเลือกที่ช่วยคลี่คลายมรสุมชีวิตของสุเทพได้อย่างดี

ความจริงถ้าเทียบขนาดและหัวใจระหว่างโค้กกับกรีนสปอต กรีนสปอตเป็นเพียงกิจการเล็กๆ แต่มีหัวใจเป็นคนไทยมากกว่าโดยยุคแรก ชินโสภณพนิช เจ้าสัวแบงก์กรุงเทพร่วมกับเคเค เหลียง นักธุรกิจชาวฮ่องกงเป็นผู้เริ่มก่อตั้งกรีนสปอตในปี 2497 เพื่อจำหน่ายน้ำส้มกรีนสปอตกับไวตามิ้ลค์ และซาส์สี่

น้ำส้มกรีนสปอตเป็นแบรนด์ท้องถิ่นประจำรัฐแคลิฟอร์เนีย ยอดขายของไทยถือเป็นอันดับสูงสุดปีละ 900 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งตลาด 7% ของมูลค่าตลาดน้ำอัดลม 14,000 ล้านบาท

ปัจจุบันโชติ โสภณพนิช เป็นประธานกรรมการบริหารได้ซื้อหุ้นใหญ่ของกรีนสปอตสหรัฐฯ 80% และมีแผนการเตรียมที่จะบุกตลาดแถบอินโดจีน เพราะที่ผ่านมาน้ำอัดลมรายใหญ่ค่ายโค้กได้เข้าไปขยายฐานในเขมรเรียบร้อยแล้ว และรอเงื่อนไขรัฐบาลสหรัฐยกเลิกเอ็มบาร์โก ซึ่งเป็นมาตรการกีดกันทางการค้าจึงจะไปทำธุรกิจที่เวียดนามอีกแห่ง ในขณะที่เป๊ปซี่ได้ตั้งโรงงานที่ลาวและพม่าแล้ว โชติจึงมีนโยบายตั้งสำนักงานใหญ่ของกรีนสปอตขึ้นที่ประเทศไทย เพื่อดำเนินธุรกิจน้ำอัดลมในอินโดจีน และธุรกิจน้ำอัดลมในอินโดจีน และทั่วโลกดังนั้นผู้ที่โชติมองเห็นว่าประสบการณ์และความสามารถเหมาะสมกับงานใหม่ระดับโลกนี้ก็คือสุเทพ นั่นเอง !

ความไว้วางใจที่โชติมอบหมายงานบุกเบิกให้สุเทพ ทำประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศของกรีนสปอต ซึ่งมีเครือข่ายอยู่ 50 ประเทศโดยเจาะจงพัฒนอุตสาหกรรม-การเกษตรเป็นหลัก เช่นการส่งเสริมการปลูกส้ม ซึ่งไทยมีศักยภาพแต่ยังไม่มีวิธีการปลูกที่ควบคุมมาตรฐานรสชาติได้ดี

เป้าหมายสูงสุดในอนาคตที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหัวน้ำเชื้อของกรีนสปอต ทำให้สุเทพต้องทำงานหนักมากๆ เขาเริ่มเดินทางไปยังไต้หวัน เพื่อศึกษาตลาดน้ำดื่มและนำเอาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านโรงงานและเครื่องจักต่างๆ มาสร้างโรงงานใหม่บนเนื้อที่ 100 ไร่ที่รังสิต จ.ปทุมธานี โดยใช้เงินลงทุนด้านเครื่องจักรและอาคารประมาณ 500 ล้านบาท

เป็นที่คาดการณ์กันว่าแผนการสร้างโรงงานผลิตหัวน้ำเชื้อ สำหรับกรีนสปอต และเฟรเซอร์แอนด์นีฟ (F&N) หรือน้ำซาส์สี่ในประเทศไทยจะใช้เวลาก่อสร้างเสร็จประมาณ 7-12 เดือน อย่างไรก็ตาม ก็อาจเกิดอุปสรรคเกี่ยวกับการผลิตหัวน้ำเชื้อเฟรเซอร์ซึ่งโคคา-โคลา ถือหุ้นเล็กน้อยในบริษัท F&N International

การบุกเบิกตลาดน้ำดำซาส์สี่ซึ่งเป็นรูทเบียร์ แม้จะไม่ได้ชนโดยตรงกับโค้กหรือเป๊ปซี่โดยตรง แต่แบรนด์ที่ติดตาของผู้บริโภคคนไทยมานานก็มีอนาคตอันสดใสพอควรในตลาดมูลค่าขนาดเล็กนี้

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์อื่นที่มีศักยภาพเติบโตอีกตัวหนึ่งของกรีนสปอตก็คือ ไวตามิ้ลค์ซึ่งถือว่าบริษัทประสบความสำเร็จอย่างมาก เนื่องจากเป็นน้ำนมถั่วเหลืองที่มีโปรตีนและเป็นที่นิยมสูงของผู้ที่รักษาสุขภาพ ปัจจุบันไวตามิ้ลค์มีจำหน่ายในต่างประเทศแล้ว เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และจีน และนี่คือภารกิจหนึ่งของสุเทพที่จะผลักดันไวตามิ้ลค์ให้ขยายตลาดแพร่หลายในต่างประเทศมากกว่าเดิม

ผลิตภัณฑ์ใหม่อีกตัวที่สุเทพได้ผลักดันให้เกิดขึ้นกลางปีนี้นี้ เพื่อสร้างตลาดใหม่ขึ้นมาอีกตัวคือ โครงการผลิตอโลเวร่าในน้ำเชื่อมชนิดเข้มข้นอโลเวร่าหรือว่านหางจระเข้นี้เป็นการร่วมลงทุนระหว่างกรีนสปอตกับเพื่อนสุเทพ อโลเวร่านี้จะบรรจุในกระป๋องขนาด 250 ซีซี ราคา 25 บาท โดยอาศัยช่องทางจัดจำหน่ายและพนักงานขายของกรีนสปอต

ส่วนตลาดภายในประเทศของกรีนสปอตซึ่งเคยอยู่ในความดูแลของสุภาพรรณ์ ธนียวัน รองผู้จัดการใหญ่ที่ลาออกไปปลายปีนี้หลังจากที่มีข่าวการเข้ามาของสุเทพและทีมงาน ก็เป็นส่วนที่สุเทพยังไม่เข้าไปแตะต้องในระยะแรกส่วนผู้บริหารคนใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่ ชิงชัย จิรเสวีนุประพันธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทกรีนสปอตซึ่งกำลังจะเกษียณก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่ลงตัว

อย่างไรก็ตาม ความสามารถเพิ่มยอดขายสูงขึ้นถึง 15% ทุกปีในระยะที่สุภาพรรณ์ เข้ามาบริหารก็ถือว่าเป็นผลงานที่เธอได้ทำไว้ โดยเฉพาะตลาดของไวตามิ้ลค์ซึ่งสุภาพรรณ์ได้วางระบบการจำหน่าย การผลิตและการผลิตและการควบคุมคุณภาพที่ดีไว้แล้ว จนสามารถเพิ่มขอดขายได้ 15-20% เป็นสินค้าที่ไร้คู่แข่งขันในตลาดโดยตรง และราคาขายส่งของไวตามิ้ลค์ต่ำมากเพียงลังละ 78 บาท ทำให้คู่แข่งรายใหม่ที่เข้ามาต้องขาดทุนทั้งๆ ที่ลงทุนสูงมาก

ในขณะที่ภารกิจของสุเทพต้องการที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจ และการผลิตของกรีนสปอตตามที่โชติวาดฝันไว้ให้ได้แล้ว การปรับโครงสร้างในองค์กร ก็เป็นงานหนักที่สุเทพต้องพยายามอีกชิ้นหนึ่ง โดยการสรรหาทีมงานที่มีความสามารถ ซึ่งคาดว่าจะมาจากบริษัทเดิม และที่อื่นๆ เข้ามาสมทบเป็นทีมงานกรีนสปอต อินเตอร์เนชั่นแนล ช่วงแรก 40-50 คน โดยมีสัญญาที่ว่าทุกคนจะได้รับหุ้นของบริษัทใหม่นี้เป็นกำลังใจร่วมกันทำงาน เพื่อสู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน

นอกจากนี้ยังเป็นที่คาดการณ์กันในวงการน้ำอัดลมอีกว่า ภารกิจที่สุเทพอาจจะต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อให้บรรลุเป้าหมายยอดขายพุ่งสูงขึ้นอีกประการก็คือระบบการจัดจำหน่าย

ปัจจุบันกรีนสปอตต้องพึ่งพาการจัดจำหน่ายโดยทีมงานของบริษัทดีทแฮล์ม ซึ่งเป็นบริษัทการตลาดที่มีความคุ้นเคยกับสุภาพรรณ์ซึ่งเคยเป็นผู้จัดการผลิตภัณฑ์ที่นี่มาก่อนที่ย้ายค่ายเข้าสู่วงการน้ำอัดลม

สุเทพเป็นนักการตลาดมืออาชีพและอยู่ในวงการนี้มากว่า 10 ปี ช่องทางการจัดจำหน่ายน้ำอัดลมเป็นอย่างไร ร้านค้ามีกี่ร้านค้าทั่วประเทศทำอย่างไรจะประหยัดต้นทุนในการจัดจำหน่าย และทำอย่างไรจะประหยัดต้นทุนในการจัดจำหน่าย และทำอย่างไรจะประหยัดต้นทุนการขายเพื่อให้ได้ผลกำไรที่สูงสุดมาไว้ในกำมือได้ เรื่องเหล่านี้สุเทพแทบจะหลับตาข้างหนึ่งก็คลำทางได้ถูกแล้วดังนั้นการเปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงระบบการจำหน่าย กรีนสปอตนั้นจึงเป็นเรื่องที่ในวงการคาดการณ์และต่างจับตามอง

ถึงเวลาแล้วที่สุเทพต้องพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในการเปลี่ยนแปลงชีวิตการทำงานที่บุกเบิกท้าทาย และเป็นที่จับตาของคนในวงการน้ำสีว่าการเริ่มต้นใหม่ที่มุ่งมั่น จะสร้างกรีนสปอตไทยให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจและการผลิตหัวน้ำเชื้อป้อนทั่วโลกจะเป็นจริงหรือไม่ ?

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us