|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แบงก์ชาติฐานะการเงินของบริษัทจดทะเบียนที่ไม่ใช่สถาบันการเงินยังแข็งแกร่ง แม้บความสามารถในการทำกำไรของภาคธุรกิจลดลง รับผลกระทบราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อที่สูงขึ้น แต่ความสามารถในการชำระหนี้ยังไม่มีปัญหา
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แจ้งว่า ธปท.ได้รายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ไม่ใช่สถาบันการเงินของภาคธุรกิจในไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 ซึ่งอยู่ในรายงานเศรษฐกิจและการเงินของเดือนพฤศจิกายน 2549 ฉบับล่าสุดพบว่า สถานะทางการเงินของภาคธุรกิจโดยรวมยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าความสามารถในการทำกำไรจะลดลง แต่ความสามารถในการชำระหนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอยู่ ด้านการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร โดยเฉพาะของภาคอุตสาหกรรมสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าแต่เป็นการลงทุนที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจเพียงบางกลุ่ม
ทั้งนี้ ความสามารถในการทำกำไรของภาคธุรกิจลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนทางการเงิน ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย และอัตราเงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้อัตรากำไรเบื้องต้น(Gross Profit Margin) รวมทั้งอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์(ROA) อยู่ในระดับต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันปีก่อน และปรับลดลงเป็นลำดับ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการชำระหนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอัตราส่วนรายได้ต่อภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ยังอยู่ที่ 7.1 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 40 ที่ผ่านมา ขณะที่สัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องที่ 1.1 เท่า
สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร โดยเฉพาะของภาคอุตสาหกรรม แม้จะสูงขึ้นกว่าไตรมาสก่อนหน้าแต่เป็นการลงทุนเพิ่มของกลุ่มธุรกิจเพียงบางกลุ่ม เช่น กลุ่มเหล็ก ขณะที่กลุ่มธุรกิจอื่นๆ โดยรวมลงทุนใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ที่จะสนับสนุนการลงทุนอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาน้ำมันที่ปรับลดลงและการเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ ของช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่มีความชัดเจนมากขึ้น จะมีส่วนช่วยผลักดันให้เกิดการลงทุนภาคเอกชนในระยะต่อไป ขณะที่โครงสร้างทางการเงินของภาคธุรกิจ โดยรวมยังคงแข็งแกร่งและเอื้ออำนวยต่อการลงทุน โดยปัจจุบันภาคธุรกิจมีเงินทุนสะสมภายใน (กำไรสะสม) สูงถึงกว่า 40%ของส่วนของผู้ถือหุ้น
|
|
|
|
|