Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 มกราคม 2550
น้ำมัน-ดบ.พ่นพิษบจ.กำไรวูบ             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
Investment




แบงก์ชาติฐานะการเงินของบริษัทจดทะเบียนที่ไม่ใช่สถาบันการเงินยังแข็งแกร่ง แม้บความสามารถในการทำกำไรของภาคธุรกิจลดลง รับผลกระทบราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อที่สูงขึ้น แต่ความสามารถในการชำระหนี้ยังไม่มีปัญหา

รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แจ้งว่า ธปท.ได้รายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ไม่ใช่สถาบันการเงินของภาคธุรกิจในไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 ซึ่งอยู่ในรายงานเศรษฐกิจและการเงินของเดือนพฤศจิกายน 2549 ฉบับล่าสุดพบว่า สถานะทางการเงินของภาคธุรกิจโดยรวมยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าความสามารถในการทำกำไรจะลดลง แต่ความสามารถในการชำระหนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอยู่ ด้านการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร โดยเฉพาะของภาคอุตสาหกรรมสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าแต่เป็นการลงทุนที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจเพียงบางกลุ่ม

ทั้งนี้ ความสามารถในการทำกำไรของภาคธุรกิจลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนทางการเงิน ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย และอัตราเงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้อัตรากำไรเบื้องต้น(Gross Profit Margin) รวมทั้งอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์(ROA) อยู่ในระดับต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันปีก่อน และปรับลดลงเป็นลำดับ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการชำระหนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอัตราส่วนรายได้ต่อภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ยังอยู่ที่ 7.1 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 40 ที่ผ่านมา ขณะที่สัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องที่ 1.1 เท่า

สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร โดยเฉพาะของภาคอุตสาหกรรม แม้จะสูงขึ้นกว่าไตรมาสก่อนหน้าแต่เป็นการลงทุนเพิ่มของกลุ่มธุรกิจเพียงบางกลุ่ม เช่น กลุ่มเหล็ก ขณะที่กลุ่มธุรกิจอื่นๆ โดยรวมลงทุนใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ที่จะสนับสนุนการลงทุนอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาน้ำมันที่ปรับลดลงและการเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ ของช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่มีความชัดเจนมากขึ้น จะมีส่วนช่วยผลักดันให้เกิดการลงทุนภาคเอกชนในระยะต่อไป ขณะที่โครงสร้างทางการเงินของภาคธุรกิจ โดยรวมยังคงแข็งแกร่งและเอื้ออำนวยต่อการลงทุน โดยปัจจุบันภาคธุรกิจมีเงินทุนสะสมภายใน (กำไรสะสม) สูงถึงกว่า 40%ของส่วนของผู้ถือหุ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us