จับตาศึกฟาสต์ฟู้ดปี 2550 รายใหญ่ทั้งเซ็นทรัล แมคโดนัลด์ ซีพี เปิดกลยุทธ์ละเลงศึก มุ่งสู่การปรับตัว ชูกลยุทธ์ใหม่ๆดึงลูกค้า สร้างยอดขาย มุ่งเน้นเมนูสุขภาพเป็นหลัก

ปัจจุบันพฤติกรรม(ไลฟ์สไตล์)ของผู้บริโภคในยุคโลกาภิวัฒน์ บนสังคมที่ต้องแข่งขันกลุ่มผู้บริโภคให้ความสำคัญไปกับการทำงานและการเร่งรีบ พฤติกรรมการเป็นอยู่จึงจำเป็นต้องเร่งรับตามเวลาไปด้วย เช่นเดียวกับธุรกิจด้านอาหารจานด่วน หรือที่เรียกกันว่า“ฟาสต์ฟู้ด” กลับเป็นธุรกิจที่กลุ่มนักลงทุนมองว่าน่าจะเป็นช่องทางที่สอดคล้องกับตลาดในยุคนี้มากที่สุด ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญและใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น สังเกตได้จากธุรกิจสินค้าอุปโภค-บริโภคที่เกี่ยวกับกับการดูแลสุขภาพมีการขยายตัวตามตลาดกันถ้วนหน้า

ส่งผลให้แผนในปี 2550 ของนักการตลาดหรือว่าเจ้าของธุรกิจ จำเป็นต้องตระหนักถึงพฤติกรรมผู้บริโภค ให้หันมาจับตลาดและวางผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ รวมทั้งสินค้าในแต่ละผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับตลาดมากที่สุด แต่ที่เห็นเด่นชัดมากที่สุดเห็นจะเป็นเช่นเดียวกับยักษ์ใหญ่ธุรกิจ “ฟาสต์ฟู้ด” ทั้งหลายต่างพร้อมใจจูงมือกันเพื่อสร้างตราสินค้า(แบรนด์)สอดรับกับ เทรนด์สุขภาพมากขึ้น

สำหรับก้าวแรกของการกลับมารุกจับตลาดด้วยมาดใหม่ของแบรนด์ "แมคโดนัลด์" ในนามทีมผู้บริหารคนไทยชุดใหม่ด้วยเลือดคนไทย 100% โดยการกุมบังเหียนของผู้นำมาเป็นเจ้าพ่อธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ อย่างนายวิชา พูลวรลักษณ์ ที่ก้าวแรกก็ตั้งปฎิธานว่าใน 1 ปี จะปั้นแมคโดนัลด์ให้กับมาบูมตลาด โดยการใช้กลยุทธ์ในเรื่องความรวดเร็วในกระบวนการทำงานทุกรูปแบบและขั้นตอน ทั้งนี้ก็เพื่อไล่ให้ทันและแซงคู่แข่งให้ได้ในอนาคต ลบภาพความเป็น "จังก์ ฟู้ด"มาสู่ภาพใหม่ในตลาดบริการอาหารจานด่วน หรือ "คิวเอสอาร์" (ควิก เซอร์วิเรสเตอรองท์) ในฐานะร้านอาหารเทรนดี้ด้วยรายการ(เมนู)เพื่อสุขภาพซึ่งในปัจจุบันร้านอาหารแบรนด์เนมหรือรวมถึงร้านอาหารตามที่ต่างๆก็คาดว่าอัตราการเติบโตในภาพรวมตลาดคิวเอสอาร์ ปีนี้คาดโตประมาณ 10-15% จากมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท

พร้อมกันนี้ แนวทางการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์มุ่ง "ความนำสมัย" หรือ "เทรนดี้" ทั้งตัวร้านและแบรนด์แมคโดนัลด์ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ แมค ไทย ให้ความสำคัญ เห็นได้จากรูปแบบการขยายสาขาในพื้นที่ต่างๆ ของร้าน แมคโดนัลด์ ที่มีคอนเซปต์เฉพาะแตกต่างกันออกไปหรือแนวคิดการนำเครื่องเล่นเกม "เพลย์ สเตชั่น" มาให้บริการกับลูกค้าในบางสาขาก็ยังเป็นอีกหนึ่งแนวคิดการทำตลาด ที่แมคฯ พยายามคิดนอกกรอบการเปิดตัวโฉมใหม่ของร้าน "แมคโดนัลด์" ที่วางตำแหน่งเป็นร้านต้นแบบนั้นเปิดตัวที่ ศูนย์การค้าเอสพละนาด

ในปี 2550 การแข่งขันของตลาดฟาสต์ฟู้ดจะแข่งขันกันรุนแรงแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องของการทำโปรโมชัน เพราะแต่ละรายต้องการที่จะให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าของตนอีก สำหรับการปรับภาพครั้งใหญ่ของแมค ไทย หลังจากที่ได้ดำเนินงานมาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี เป้าหมายเพื่อเป็นการรองรับกลุ่มลูกค้าที่จะเกิดขึ้นใหม่ ที่เป็นวัยรุ่นและผู้ใหญ่

ขณะที่ ทางกลุ่ม "ซีอาร์จี" หรือ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ ในฐานะผู้ได้รับสิทธิแฟรนไชส์บริหารร้านอาหาร 5 แบรนด์ อาทิ พิซซ่า ฮัท ,เคเอฟซี ,อานตี้ แอนส์ ,บาสกิ้น ร้อบบิ้นส์ และ มิสเตอร์โดนัทเอง ก็เร่งเครื่องปรับรูปแบบการให้บริการ ที่ใส่ใจกับความเทรนดี้มากขึ้น เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ผ่านโครงการร้านต้นแบบ "แฟล็กชิป สโตร์" พร้อมนำร่องไปก่อน 3 แบรนด์ คือ มิสเตอร์ โดนัท, อานตี้ แอนส์ และไอศกรีม บาสกิ้นร้อบบิ้นส์ มีสิ่งที่น่าสนใจแฝงอยู่ในแฟล็ก ชิป สโตร์ ของ แบรนด์ อานตี้ แอนส์ ครั้งนี้ คือการขยายไลน์โปรดักส์ใหม่ สำหรับการขยายไลน์โปรดักส์ของแบรนด์อานตี้ แอนส์ คือ การขยายตลาดและกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าใหม่ของโครงการเซ็นทรัลเวิลด์หลังเสร็จสมบูรณ์แบบในอนาคต ซึ่งจะมีทั้งกลุ่มพนักงาน ,นักท่องเที่ยว หรือนักเดินทาง นักธุรกิจที่เข้ามาพักในโรงแรมด้วย ทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความหลากหลาย

นายณัฏฐพล มณฑลโสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์(ซีอาร์จี) กล่าวว่า เทรนด์การให้บริการธุรกิจร้านอาหารนับจากนี้ คาดหลายรายจะปรับสู่ความเป็น "คิวเอสอาร์" มากขึ้นคือ เสิร์ฟอาหารถึงโต๊ะลูกค้าด้วยความรวดเร็วหรือแค่เดินมาสั่งที่เคาน์เตอร์แล้วก็กลับไปนั่งรอที่โต๊ะเท่านั้น นอกจากการปรับภาพลักษณ์ใหม่ของร้านอานตี้แอนส์แล้วในส่วนของ มิสเตอร์ โดนัท และร้านไอศกรีม บาสกิ้น ร้อบบิ้นส์ ก็ใส่ความเป็นเทรนดี้เข้าไปด้วยการปรับโฉมการตกแต่งใหม่ อย่างแบรนด์แรกเน้นสไตล์แบบห้องนั่งเล่น หรือ ลิฟวิ่งรูม ภายใต้แนวคิด Donut For Fun

ขณะที่ ร้านบาสกิ้น ร้อบบิ้นส์ สาขาแฟล็กชิปที่เซ็นทรัลเวิลด์ ถูกพัฒนาขึ้นมาจาก Caf Baskin-Robbinsซึ่งประสบความสำเร็จมาแล้วในประเทศต้นแบบ มาใช้ในการตกแต่งร้านที่นี่หวังเป็นแม็กเน็ตเรียกลูกค้า พร้อมกันนี้ ซีอาร์จีเตรียมพัฒนาร้าน ต้นแบบอีก 2 แบรนด์ คือ พิซซ่าฮัท และ เคเอฟซี ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ด้วยเช่นกันที่ขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาคอนเซปต์ทั้ง 2 ร้าน หวังจับกระแสเพื่อสุขภาพและนำสมัยเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคนี้

ในส่วนของบริษัท โกลบอล คิทเช่นอีกหนึ่งธุรกิจในอาณาจักรซี.พี. ผู้บริหารร้านอาหารแบรนด์ ไทยสไตล์อินเตอร์ อย่าง "เชสเตอร์ กริลล์" ก็เตรียมยกเครื่องทั้งบริการและเมนูใหม่ไปสู่แนวโน้มเพื่อสุขภาพด้วยเหมือนกัน

ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังได้ปรับรูปแบบการบริหารจัดการเ พื่อให้สามารถควบคุมต้นทุนสินค้าได้ เนื่องจากปัจจุบันมีปัจจัยลบหลายประการ โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ยังอาจจะแกว่งไปมา ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการปรับมาใช้บรรจุภัณฑ์ในประเทศเพื่อลดต้นทุน การใช้ส่วนผสมบางชนิดที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับต่างประเทศ

น่าจับตามองธุรกิจฟาสต์ฟู้ดในปีนี้ว่า เทรนด์การแข่งขันของกลุ่มแบรนด์ดัง จากค่ายต่างๆจะหันมาจับตลาดเชิงสุขภาพมากขึ้น ทั้งนี้ นอกจากการปรับตัวเข้ากับกระแสตลาดกลุ่มผู้ประกอบการหลายรายต่างต้องควักกลยุทธ์ใหม่มากระตุ้นตลาดและรับรองว่า เทรนด์ของการแข่งขันจะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และนับว่าจะเป็นการเพิ่มสีสันใหม่ๆให้กับวงการตลาดฟาสต์ฟู้ดไทยได้อย่างแน่นอน