โอกิลวี่เผย พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ชี้ชัดกลุ่มคนอายุ 50 ปีขึ้นไป (Fifty-Plus Consumers) ที่มีกำลังซื้อสูง จะใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ด้วยการหันมาใช้จ่ายกับการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเพื่อหาความสุขให้กับตนเองมากขึ้น และยินดีจะจ่ายกับสินค้าหรือบริการที่ช่วยส่งเสริมหรือดูแลสุขภาพของตนเองมากกว่าเดิม โดยผลสำรวจพบว่า คนกลุ่มนี้เป็นลูกค้าชั้นดีที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว เนื่องจากคนวัยนี้ใช้เงินกับการท่องเที่ยวปีละกว่า 200,000 บาท ขณะที่สินค้าและบริการที่เกี่ยวกับสุขภาพถือเป็นความต้องการอันดับ 1 ที่ได้รับความสนใจ
เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2549 ทางโอกิลวี่ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค โดยเน้นไปยังกลุ่มคนสูงวัยที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป เนื่องจากพบว่า ประเทศต่างๆทั่วโลกกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ เพราะผู้บริโภคที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ประเทศอังกฤษ มีผู้บริโภคกลุ่ม 50 ปีขึ้นไปเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด ขณะที่ประเทศไทยมีคนกลุ่มนี้อยู่ประมาณ 14 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วน 20% ของประชากรทั้งหมด อีกทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วยโดยคาดว่าจะขยับขึ้นปีละประมาณ 6% และเชื่อว่าจะมีจำนวนใกล้เคียงกับประเทศแถบตะวันตกในอนาคตด้วย ดังนั้นจึงเป็นกลุ่มที่คาดว่าจะเป็นตลาดที่สำคัญและน่าจับตามอง
สำหรับแนวทางการสำรวจครั้งนี้ โอกิลวี่ได้ทำการเจาะลึกเกี่ยวกับทัศนคติ ไลฟ์สไตล์ ความคาดหวัง พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้า ประเภทของสินค้าและบริการที่สนใจ โดยทำการเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้บริโภคชายและหญิงในกรุงเทพฯ ระดับเอบวก จำนวน 400 คน แบ่งเป็นสัดส่วนดังนี้ ชาย 50% หญิง 50% อายุระหว่าง 50-59 ปี จำนวน 50% และอายุ 60-65 ปี จำนวน 50% ที่มีรายได้ต่อครอบครัวระหว่าง 70,000 - 99,999 บาทต่อเดือน 45% รายได้ระหว่าง100,000-200,000 บาทต่อเดือน 30% และรายได้ครอบครัวมากกว่า 200,000 บาทต่อเดือน 25% ซึ่งประชากรระดับเอบวกกลุ่มนี้มีสัดส่วนประมาณ 10% จากจำนวนกลุ่มคนอายุ 50 ปีขึ้นไปทั้งหมดของประเทศ ส่วนระดับกลาง รายได้ครอบครัว 20,000 - 30,000 บาทต่อเดือนมีเกือบ 30% และที่เหลือเป็นกลุ่มที่มีรายได้ระดับล่าง
โดยผลสำรวจครั้งนี้ชี้ชัดว่า พฤติกรรมของคนอายุ 50 ปีขึ้นไปในยุคนี้แตกต่างไปจากเดิม ซึ่งคนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่ากลุ่มคนที่เริ่มเข้าสู่วัย 50 กว่าๆจะอยู่นิ่งๆใช้ชีวิตราบเรียบและระวังการใช้จ่าย ทว่าเมื่อทำการศึกษาในเชิงลึกกลับพบว่า คนกลุ่มนี้มีพฤติกรรมและทัศนคติที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เพราะคนวัยนี้มีจำนวนมากที่รู้สึกว่าตนเองมีอายุน้อยกว่าอายุจริง 10-15% อีกทั้งผู้ที่ให้สัมภาษณ์กว่า 70% ต้องการมีอายุยืนมากกว่า 80 ปี
"จากทัศนคติที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้พฤติกรรมการการจับจ่ายก็เปลี่ยนตามไปด้วย โดยคนวัยนี้จะมีความสุขกับการใช้ชีวิตและกระตือรือร้นอย่างเต็มที่ ชอบท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ สนใจเทคโนโลยีใหม่ๆ และดูแลสุขภาพตนเองมากขึ้นด้วย ดังนั้นสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องจึงมีศักยภาพสูงและน่าจับตามองกำลังซื้อกลุ่มนี้" ดร. อัญชลี พิชญางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ประเทศไทย กล่าว
ดังนั้น การใช้ชีวิตหลังวัยเกษียณของกลุ่มคนอายุ 50 ปีขึ้นไป จึงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น พบว่า สูงถึง 82% อีกทั้งนิยมหาความสุขให้กับตนเองด้วยการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นด้วย 72% โดยชอบท่องเที่ยวในประเทศบ่อยกว่าปีละ 1-2 ครั้งประมาณ 41% หรือบ่อยกว่านั้น 45% และเที่ยวต่างประเทศปี 1-2 ครั้ง 24% น้อยกว่านั้น 35% ทำให้ค่าใช้จ่ายที่ใช้กับการท่องเที่ยวในแต่ละปีสูงถึง 106,380 บาท แต่สำหรับผู้ที่มีรายได้มากกว่า 200,000 บาทต่อเดือน จะใช้เพื่อการท่องเที่ยวปีละประมาณ 226,625 บาท หรือประมาณ 10% ของรายได้
ไม่เพียงเท่านี้ สินค้ากลุ่มอื่นโดยเฉพาะสินค้าชิ้นใหญ่ก็นับว่าได้รับความสนใจจากกลุ่มคนเหล่านี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากคนกลุ่ม 50 ปีขึ้นไปที่มีกำลังซื้อจะนิยมซื้อสินค้าที่มีมูลค่า เช่น บ้าน มีสัดส่วน 17% รถยนต์ 22% รวมทั้งสินค้าเทคโนโลยีด้วย อาทิ โทรศัพท์เคลื่อนที่ 17% โทรทัศน์ 16% คอมพิวเตอร์ 13% กล้องดิจิตอล 12% และโฮมเธียร์เตอร์ 10% โดยผลสำรวจระบุว่า คนกลุ่มอายุ50อัพจะสนใจและติดตามเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันอย่างมาก เช่น มากกว่า 93% ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือใช้คอมพิวเตอร์ 43% อินเตอร์เน็ต 26% หรือการฟังเพลงด้วยเครื่องเอ็มพี3 11%
ขณะที่สินค้ากลุ่มอื่นๆนั้นพบว่า อาหารเสริมและวิตามินเป็นสินค้าที่คนวัย 50 ปี ทุ่มเงินให้สูงถึง 75% เนื่องจากความเจ็บป่วยเป็นความกังวลสูงสุดของคนวัยนี้ รองมาคือ แคลเซียม 44% และหากเป็นหญิงวัย 50 ปีขึ้นไป จะให้ความสำคัญกับสินค้าที่ทำให้ตนเองดูดีขึ้น เช่น ครีมลดริ้วรอย 74% ลิปสติก 79% ผลิตภัณฑ์ย้อมผม 69% น้ำหอม 59% บอดี้โลชั่น 55%
สำหรับสินค้าบริการที่เป็นที่ต้องการสูงสุด คือ การประกันสุขภาพ 51% โรงพยาบาลหรือคลินิกสำหรับผู้สูงอายุ 50% อาหารเสริมและวิตามิน 27% การประกันชีวิตสำหรับวัยเกษียณ 26% บริการดูแลผู้สูงอายุ 24% การท่องเที่ยวในประเทศ 24% การท่องเที่ยวต่างประเทศ 17% และการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ 19% ซึ่งรูปแบบการลงทุนของคนกลุ่มนี้จะเน้นที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ถึง 48% การซื้อทองคำ 29%
นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมที่น่าสนใจ คือ ปัจจัยการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ ที่พบว่า คุณภาพของสินค้าเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด 75% ขณะที่ปัจจัยอื่นมีผลรองลงมา เช่น ราคา 48% ความทนทาน 28% และความน่าเชื่อถือ 23% ดังนั้นความภักดีต่อแบรนด์ของคนกลุ่มนี้จึงไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ เนื่องจากคนวัยนี้ชื่นชอบทดลองสินค้าและบริการใหม่ๆอยู่เสมอสูงถึง 71% และกว่า 53% ชอบซื้อแบรนด์ที่มีชื่อเสียง
อย่างไรก็ตาม สื่อยังคงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของคนวัย 50 ปีเหล่านี้ เนื่องจากทีวีเป็นสื่อที่ได้รับความสนใจและอยู่ในไลฟ์สไตล์มากกว่า 60% ทว่าภาพยนตร์โฆษณาที่จะสื่อได้เข้าถึงและโดนใจจะต้องมีความสมจริง และชัดเจนมากกว่าลักษณะแบบเพ้อฝัน ที่สำคัญคนกลุ่มนี้เพียง 3%เท่านั้นที่ชอบพรีเซนเตอร์เป็นคนวัยเดียวกัน
|