Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน27 ธันวาคม 2549
พานาโซนิคดันไทยฮับกลุ่มเอชเอ -คาร์ออดิโอ             
 


   
www resources

โฮมเพจ พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย)

   
search resources

Electronic Components
พานาโซนิค




พานาโซนิค เบนหัวรบโฟกัสไทย สู่การเป็นฮับของกลุ่มสินค้าเอชเอ แทนมาเลเซีย และคาร์ออร์ดิโอ แทนจีน หลังพบไทยมีศักยภาพพร้อมทั้งด้านการขนส่ง และต้นทุนการผลิตจากนโยบาย เอฟทีเอ ล่าสุดงบระหว่างปี 2549-2551 กว่า 800 ล้านบาท หั่นงบใช้ไปแล้วกว่า 450 ล้านบาท สำหรับผุดโรงงานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ที่เหลือเดินหน้าใช้สำหรับดันไทยเป็นฮับกลุ่มคาร์ออดิโอเช่นเดียวกัน พร้อมตั้งบริษัทขึ้นใหม่รองรับการเป็นศูนย์กลางดังกล่าว

นายไดโซ อิโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พานาโซนิคกรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการที่ทางภาครัฐผลักดันให้เกิดเขตการค้าเสรี หรือ เอฟทีเอ และเรื่องของการคมนาคม ที่มีการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ หรือแม้แต่เส้นทางถนนจากคุนหมิง สู่ประเทศไทย หรือโครงการเส้นทางเวียดนาม –อินเดีย ที่ต้องผ่านประเทศไทย รวมถึงจุดภูมิศาสตร์ของไทยที่เป็นศูนย์กลางระหว่างประเทศต่างๆ นั้น ล้วนแต่ส่งผลให้ไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตทางภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งสิ้น ทางบริษัทฯ จึงมีแผนที่จะให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งของสินค้าในกลุ่มสินค้าในครัวเรือน และเครื่องเสียงติดรถยนต์ หรือ คาร์ออดิโออีกด้วย

สำหรับการเป็นศูนย์กลางทางด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนนั้น ล่าสุดบริษัทฯ ได้จัดสรรงบกว่า 450 ล้านบาท จาก 800 ล้านบาท (ที่เป็นงบการลงทุนภายในระยะ 2 ปี นับตั้งแต่ปี 2549-2551) สำหรับสร้างโรงงานขึ้นมาใหม่ที่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท พานาโซนิค เอ็กซ์โคโนยี ซิสเต็ม (ไทยแลนด์) จำกัด รองรับการผลิตสินค้า เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และพัดลมดูดอากาศ พร้อมเพิ่มไลน์การผลิตแอลซีดี ทีวี อีกส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งโรงงานดังกล่าว คาดว่าภายในเดือนมิถุนายน ปี 2550 จะเริ่มเดินหน้าการผลิตในส่วนของพัดลมดูดอากาศเป็นอันดับแรก

“เดิมสินค้าในครัวเรือนจะมีฐานการผลิตที่มาเลเซีย แต่เนื่องจากมองว่าไทยมีศักยภาพที่ดีกว่า จึงได้ย้ายฐานการผลิตมาไทย ซึ่งนอกจากจะผลิตเพื่อป้อนให้กับตลาดในประเทศแล้ว กว่า 69% ยังเป็นการส่งออกไปยังทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังส่งออกไปยังแอฟริกาใต้อีกด้วย”

นอกจากนี้ในส่วนของงบประมาณที่เหลืออีก 350 ล้านบาทนั้น จะเป็นการลงทุนในเรื่องของเครื่องเสียงติดรถยนต์หรือ คาร์ออดิโอ และเนวิเกชั่น หรือเครื่องชี้พิกัดบอกเส้นทาง โดยจะเป็นในเรื่องของการลงทุนนำเข้าเครื่องจักรเข้ามาผลิตในโรงงานที่เดียวกันกับโรงงานผลิตสินค้าในครัวเรือน แต่ขึ้นตรงกับการบริหารงานภายใต้บริษัท พานาโซนิค ออโต้โมทีฟ ซิสเต็มส์ เอเชีย แปซิฟิค (ประเทศไทย) จำกัด เป็นส่วนงานหนึ่งของบริษัท มัตสุชิตะ อีเล็คทริค อินดัสเตรียล จำกัด ที่ก่อตั้งขึ้นมาใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมา เพื่อเข้ามาดูแลในส่วนของเครื่องเสียงติดรถยนต์โดยเฉพาะ ตั้งแต่ในเรื่องของการค้นคว้าพัฒนา ผลิต และจำหน่าย

“การที่ให้ไทยเป็นศูนย์กลางเครื่องเสียงติดรถยนต์ จากเดิมที่มีฐานการผลิตจากประเทศจีนอยู่ก่อนแล้วนั้น เนื่องจากมองว่ารัฐบาลมีการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางยานยนต์อยู่แล้ว ดังนั้นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ จึงน่าจะผลิตในประเทศไทยเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังง่ายต่อการผลิตสินค้าป้อนให้กับคู่ค้าทางอุตสาหกรรมยานยนต์อีกด้วย เช่น โตโยต้า หรือ ฮอนด้า ที่ทางบริษัทฯ ผลิตเครื่องเสียงติดรถยนต์ให้อยู่”

อย่างไรก็ตามในปีหน้า บริษัทฯ ยังมีแผนพัฒนาสินค้าในกลุ่มใหม่ๆ เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอีกด้วย เช่น กลุ่มบิวตี้ ทอยเล็ท หรือ สุขภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ซึ่งในขณะนี้กำลังรอการอนุมัติจากทางสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ สมอ.อยู่ คาดว่าจะสามารถวางจำหน่ายได้ในปีหน้า โดยจะจำหน่ายทั้งในส่วนงานโครงการในกลุ่มคอนโดมิเนียม และโรงแรม รวมไปถึงกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us