พบบิ๊กล็อต AMC เดือนธ.ค.รวม 53 ล้านหุ้น เป็นเงินกว่า 270 ล้านบาท ผู้บริหาร ย้ำไม่รู้ว่าใครซื้อใครขาย ยันสัดส่วนตระกูล "ยงวงศ์ไพบูลย์" และพันธมิตรกว่า 70% ยังอยู่ครบ เชื่อนักลงทุนสนใจ เพราะเตรียมขายหุ้นเพิ่มทุน ด้านบิ๊ก "ดีวัน" ทิ้งหุ้นอีก 10.8 ล้านหุ้นรับเงินเกือบ 14 ล้าน เหลือถือหุ้นเพียง 23% ต่ำกว่านโยบายที่ต้องการถือไม่น้อยกว่า 1 ใน 3

นายชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียเมทัล จำกัด (มหาชน) หรือ AMC กล่าวถึง รายการบิ๊กล็อตของหุ้นบริษัทในช่วงตลอดเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า หุ้นในส่วนของตระกูลยงวงศ์ไพบูลย์และพันธมิตรกว่า 70% ยังอยู่ครบ ไม่ได้มีการขายออกมาในช่วงดังกล่าวเลย เนื่องจากบริษัทยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอุตสาหกรรมและบริษัทมีความชำนาญในธุรกิจของบริษัทค่อนข้างมาก

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนทั้งจากต่างประเทศและนักลงทุนไทยติดต่อผ่านที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทเพื่อเข้ามารับฟังข้อมูลของบริษัท เนื่องจากมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนกับบริษัทโดยบริษัทยังไม่ได้ตัดสินใจว่าพิจารณาเลือกพันธมิตรในการทำธุรกิจหรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวคงต้องให้คณะกรรมการของบริษัทเป็นผู้ตัดสินใจ

สำหรับเหตุผลที่ทำให้มีการทำรายการบิ๊กล็อตหุ้นของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา นายชูศักดิ์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวคงเป็นเพราะความสนใจของนักลงทุนเองประกอบการบริษัทเตรียมที่จะเสนอขายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) และขายหุ้นให้กับนักลงทุนทั่วไป (PO) ในจำนวน 50 ล้านหุ้นรวมถึงจะมีการแจกใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) โดยขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

"ผมยังไม่เข้าใจว่าใครที่เข้ามาซื้อหุ้นของบริษัทคงต้องรอให้ปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ซึ่งการเข้ามาของนักลงทุนคงต้องดูเจตนาหากต้องการเข้ามาลงทุนเราก็พร้อมเปิดทาง แต่การลงทุนในหุ้นบริษัทจดทะเบียนเรื่องสำคัญก็คือราคามีขึ้นก็มีลงได้"นายชูศักดิ์กล่าว

ขณะเดียวกัน วานนี้( 25 ธ.ค.) มีการทำรายการในกระดานรายใหญ่ในหุ้น AMC จำนวน 11 รายการ จำนวน 7.5 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 6.50 บาท เป็นเงิน 48.75 ล้านบาท ส่วนในช่วงตลอดเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา มีการทำรายการบิ๊กล็อตในหุ้น AMC อีก 39 รายการ จำนวนหุ้นรวม 45.5 ล้านหุ้น คิดเป็นเงิน 222 ล้านบาท

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร พบว่า นายจเรรัฐ ปิงคลาศัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดราก้อน วัน จำกัด (มหาชน)หรือ D1 ได้มีการหุ้นออกมาในวันที่ 20 -21 พฤศจิกายนนี้รวมจำนวน จำนวน 10.80 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 3.27% แบ่งเป็นการขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 2.42 ล้านหุ้น และอีก 7.5 ล้านหุ้น เป็นการขายให้กับนายบุญรัตน์ วิญญกานนท์ จำนวน 4 ล้านหุ้น และนายทรงพร สดใสจิตต์ จำนวน 3.5 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 13.83 ล้านบาท ซึ่งทำให้ภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ นายจเรรัฐถือหุ้นเหลือกว่า 23% จากเดิมที่ต้องการถือในสัดส่วน 1 ใน 3 ของหุ้นทั้งหมด

ทั้งนี้ในวันที่ 20 พฤศจิกายนได้มีการขายหุ้นจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย จำนวน 1.62 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.94 บาท รายการที่สองจำนวน 2.8 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 1.92 บาท รายการที่สามจำนวน 5.29 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 1.92 บาท และรายการที่ขายจำนวน 7.5 ล้านหุ้น ให้กับนาย นายบุญรัตน์ วิญญุกานนท์ จำนวน 4 ล้านหุ้น และนายทรงพร สดใสจิตต์ จำนวน 3.5 ล้านหุ้นราคาหุ้นละ 1 บาท ส่วนในวันที่ 21 พฤศจิกายนได้มีการขายหุ้นออกมาอีกจำนวน 8.8 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 1.86 บาท

แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)กรุงศรีอยุธยาจำกัด (มหาชน)หรือ AYS ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ดราก้อนวัน จำกัด (มหาชน)หรือ D1 กล่าวว่า บริษัทได้มีการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)ของ D1 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการพิจารณาและคาดว่าปีหน้าคงจะมีการหารือในเรื่องกระบวนการว่าบริษัทต้องมีการดำเนินการอย่างไร